MINI Electric Pacesetter inspired by JCW ถูกนำมาจัดแสดงภายในงานมอเตอร์เอ็กซ์โป นับเป็น MINI ที่ผสานอนาคตแห่งการขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าเข้ากับตำนานในสนามแข่งของสำนัก John Cooper Works การออกแบบ MINI Electric Pacesetter inspired by JCW นั้นเกิดจากการร่วมมือของทีมออกแบบ MINI และ BMW Motorsport ซึ่งใช้ความพยายามอย่างมากในการแสดงให้เห็นถึงเอกลักษณ์ขับสไตล์โกคาร์ท ความคล่องตัวแบบรถยนต์ไฟฟ้า ผสมผสานความแรงในแบบฉบับ John Cooper Works กับรถไฟฟ้าได้อย่างลงตัว
...
ภายนอก MINI Electric Pacesetter inspired by JCW ถูกปรับแต่เพื่อใช้ขับในสนามแข่งโดยเฉพาะ รูปทรงแบบแฮตช์แบ็กพร้อมชุดแอโรพาร์ท แสดงออกถึงความคล่องตัวด้วยระบบขับเคลื่อนพลังงานไฟฟ้า โอลิเวอร์ เฮล์มเมอร์ หัวหน้าฝ่ายออกแบบ MINI กล่าวว่า รูปลักษณ์อันน่าตื่นตาตื่นใจของ Pacesetter inspired by JCW รุ่นนี้ เป็นการพบกันของเทคนิคการออกแบบที่แม่นยำและความสวยงามทางอารมณ์ กล่าวคือ จุดประสงค์การใช้งานจะกำหนดรูปทรงของรถ ส่วนองค์ประกอบของการออกแบบจะปรับตามดีไซน์ทางเทคนิค ทีมออกแบบ MINI ทำงานอย่างใกล้ชิดกับทีมออกแบบของ BMW Motorsport เพื่อปรับแต่งรูปทรงของซุ้มล้อ สเกิร์ตด้านหน้าและด้านหลัง รวมถึงเพิ่มประสิทธิภาพการลดน้ำหนักชิ้นส่วนต่างๆ ด้วยวัสดุน้ำหนักเบา เพื่อลดน้ำหนักส่วนเกินที่ไม่มีความจำเป็นให้เหลือน้อยที่สุด การถ่ายทอดผ่านรูปลักษณ์ที่ดุดัน ดึงดูดสายตาของคนที่รักกีฬา Motorsport
...
MINI Electric Pacesetter inspired by JCW ได้รับการปรับแต่ง ให้พร้อมรับสถานการณ์ท้าทายในสนามแข่ง ตัวรถเป็นสีเงินด้านตัดด้วยสี Highspeed Orange และตกแต่งด้านท้ายเป็นสี Curbside Red ซึ่งเป็นการสะท้อนเอกลักษณ์ของ MINI Electric และ MINI John Cooper Works การออกแบบตัวรถเพื่อให้สอดคล้องกับหลักการเพื่อลดน้ำหนักด้วยวัสดุน้ำหนักเบา ทำให้ MINI Electric Pacesetter inspired by JCW มีน้ำหนักเบากว่ารุ่นมาตรฐาน 130 กิโลกรัม เมื่อตัวเบาขึ้น มอเตอร์ไฟฟ้าสามารถปลดปล่อยพลังในด้านอัตราเร่ง โดยทำความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. ภายในเวลา 6.7 วินาที
...
...
จุดยืนและวิสัยทัศน์ที่จะเปลี่ยนระบบขับเคลื่อนจากเครื่องยนต์ไปเป็นพลังงานไฟฟ้า ถูกถ่ายทอดผ่าน The new all-electric MINI ที่ใช้มอเตอร์ไฟฟ้าและตัวถังรถเดียวกันกับ MINI Electric Pacesetter inspired by JCW ที่ปรับแต่งพิเศษ ปลดปล่อยศักยภาพของมอเตอร์ไฟฟ้าได้อย่างเต็มที่ เอกลักษณ์ Go-Kart Feeling ด้านหน้าของรถ ใช้ไฟหน้าทรงกลม กระจังหน้าทรงหกเหลี่ยมในรุ่น LCI องค์ประกอบที่เป็นเอกลักษณ์ของ John Cooper Works เช่น ซุ้มล้อใหม่ที่ได้รับการปรับให้พอดีกับความกว้างของล้อ สเกิร์ตด้านหน้า ติดตั้งสปลิตเตอร์ซ้ายและขวา กระจังหน้าปิดทึบ โลโก้ MINI Electric แสดงออกถึงการใช้ระบบขับเคลื่อนพลังงานไฟฟ้าที่เป็นหัวใจของรถเซฟตี้คาร์รุ่นนี้
เนื่องจากไม่จำเป็นต้องมีการระบายความร้อนผ่านบริเวณด้านบนของกระจังหน้า ส่วนหน้าของรถยนต์จึงได้รับการออกแบบให้ปิดทึบ เพื่อเสริมประสิทธิภาพด้านแอโรไดนามิกส์ ยกเว้นบริเวณด้านล่างกระจังหน้าและชุดกันชนหน้า มีการเพิ่มดีไซน์ให้คล้ายช่องดักอากาศเพื่อระบายความร้อนให้ชุดเบรก ส่วนไฟสีขาวกะพริบ รวมเข้ากับฝากระโปรงหน้าถ่ายทอดดีเอ็นเอผ่านลวดลาย Bonnet Stripes ตั้งแต่หลังคาจนถึงท้ายรถ
ด้านข้างของ MINI Electric Pacesetter inspired by JCW มีชุดแอโรไดนามิกส์ที่ดุดัน การสอดประสานกันของลวดลายเรขาคณิตด้านข้างรถ สเกิร์ตด้านข้าง ด้วยจินตนาการ การพุ่งทะยานไปไปข้างหน้า ล้อที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางเพิ่มขึ้น เกือบจะเต็มซุ้มล้อ องค์ประกอบเหล่านี้สะท้อนให้เห็นภาพประวัติศาสตร์ในสนามแข่งของ MINI ลวดลายด้านข้างรถและสปอยเลอร์ ผลิตขึ้นจากโรงงานในเมืองออกซ์ฟอร์ด ด้วยเทคโนโลยีการพิมพ์แบบ 3 มิติ จากวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ที่รีไซเคิลกลับมาใช้ใหม่
ลวดลายสีเหลือง พื้นผิวของชุดแต่งแอโรไดนามิกส์ เช่น ลวดลายด้านข้างรถ สเกิร์ต และสปอยเลอร์หลัง ปรับให้รีดลม เพื่อรับกับการเป็นช่องทางผ่านของอากาศ มีการเพิ่มความสวยงามให้กับแผ่นเบนอากาศและขอบแอโรไดนามิกส์ ล้อฟอร์จขนาด 18 นิ้วแบบ 4 ก้าน โทนสีดำสลับสีส้มนีออน
ท้ายรถสีดำและสีแดง Curbside Red metallic ตัดด้วยลายเส้นสีเหลืองที่ลากสายตาจากหน้ารถมาข้างรถ สปอยเลอร์บนหลังคาด้านหลัง ลายเส้นสีเหลืองนั้นถูกรวมเข้ากับชุดไฟสัญญาณ ผลิตขึ้นจากโรงงานในเมืองออกซ์ฟอร์ดด้วยเทคโนโลยีการพิมพ์แบบ 3 มิติ ซุ้มล้อแบบกว้าง เน้นให้เห็นถึงความกว้างของรถ เข้ากับสเกิร์ตด้านหลังที่มีร่องตัดบริเวณซุ้มล้อหลัง ช่วยให้มองเห็นยางรถ ระหว่างล้อมีดิฟฟิวเซอร์ โดยเมื่อมองจากท้ายรถ จะมองเห็นลวดลายสีเหลือง และปราศจากท่อไอเสีย
ภายใน ติดตั้งอุปกรณ์ที่จำเป็นของรถเซฟตี้คาร์ เหลือแต่เบาะคู่หน้า โดยเบาะฝั่งคนขับพร้อมเข็มขัดนิรภัย 6 จุด รองรับสำหรับทั้งการแข่งรถและการใช้งานบนถนน พวงมาลัยเรียบง่าย ทำจากคาร์บอนไฟเบอร์ ดูดซับแรงกระแทกได้ จอแสดงผลดิจิทัล คอนโซลกลางเหลือแต่ด้ามเกียร์ เบรกมือ และ สวิตช์ควบคุมไฟ สัญญาณเท่าที่จำเป็น ทั้งหมด ทำจากคาร์บอนไฟเบอร์ มือเปิดประตูใช้สายผ้าดึง โรลเคจนิรภัยแบบเต็มลำ
ตัวซับแรงกระแทกของพวงมาลัย และแผงควบคุมด้านขวามือ ผลิตจากวัสดุคุณภาพสูง คอนโซลกลางและแผงประตูด้านคนขับ ใช้วัสดุน้ำหนักเบา แผ่นรองเบาะแบบถอดได้บนเบาะทรงสปอร์ต ผลิตจากเครื่องพิมพ์ 3 มิติ ให้ความสบาย แข็งแกร่ง ยืดหยุ่นในการใช้งาน ความหนา ความแข็ง และสีของแผ่นรองเบาะสามารถปรับได้ตามความชอบของผู้ขับ
เบื้องหลังรูปลักษณ์ของ MINI Electric Pacesetter inspired by JCW ผ่านการคิดและใช้ความเชี่ยวชาญของ BMW Motorsport ยึดมั่นในหลักการออกแบบที่ต้องรีดน้ำหนักรถเซฟตี้คาร์ให้เบาที่สุด น้ำหนักโดยรวมประมาณ 1,230 กิโลกรัม ระบบขับเคลื่อนแบบเดียวกับรถยนต์ไฟฟ้า MINI Cooper SE กำลังที่ 135 กิโลวัตต์ / 184 แรงม้า แรงบิด 280 นิวตันเมตร ทำอัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ได้ภายในเวลา 6.7 วินาที (รุ่นมาตรฐานอยู่ที่ 7.3 วินาที) ทำอัตราเร่ง 0-60 กม./ชม. ใน 3.6 วินาที (รุ่นมาตรฐานอยู่ที่ 3.9 วินาที) MINI Electric Pacesetter inspired by JCW แสดงให้เห็นถึงความสามารถของระบบขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าที่มีแรงบิดสูง ระบบส่งกำลังใช้เกียร์แบบ Single-Speed ทำความเร็วได้ถึง 120 กม./ชม. ภายใน 4.3 วินาที (รุ่นมาตรฐานอยู่ที่ 4.6 วินาที)
ระบบขับเคลื่อนของ MINI Electric Pacesetter inspired by JCW ทำงานร่วมกับระบบช่วงล่างแบบปรับแต่งได้ 3 รูปแบบ ทั้งค่ารีบาวด์, ความสูง และ มุมแคมเบอร์ เพื่อประสบการณ์ Go-Kart Feeling ในระดับสูงสุด แผงควบคุมระบบช่วงล่าง ฐานล้อที่กว้างขึ้น 10 มิลลิเมตร เบรกสี่พอต และล้อจาก MINI John Cooper Works GP พร้อมยาง Michelin Pilot Sport ขนาด 245/40 R18
MINI COOPER SE ที่มีขายในประเทศไทย ใช้พลังงานการขับเคลื่อนจากชุดแบตเตอรี่มอเตอร์ไฟฟ้าชุดเดียวกันกับ MINI Electric Pacesetter inspired by MINI JCW ต่างกันแค่น้ำหนักตัวรถที่มากกว่า เนื่องจากรุ่นที่นำมาจำหน่ายในไทย เน้นอุปกรณ์อำนวยความสะดวก การใช้งานในชีวิตประจำวันและการใช้งานในชีวิตประจำวัน.