สิ้นสุดช่วงเวลาแห่งการรอคอย เครื่องบินขับไล่-โจมตีรุ่นใหม่ล่าสุดของทัพฟ้า Gripen 6 เครื่อง ร่อนลงจอดที่กองบิน 7 สุราษฎร์ธานี พร้อมเข้าประจำการในฝูงบิน 701 แล้ว...

ในที่สุด ช่วงเวลา 4 ปีแห่งการรอคอยอันยาวนานของประชาชนคนไทยผู้รักการบินก็สิ้นสุดลงเมื่อเวลา 19.45 น. ของวันอังคารที่ 22 กุมภาพันธุ์ 2554 บริเวณรันเวย์ของกองบิน 7 ฝูงบิน 701 สุราษฎร์ธานี เครื่องบินขับไล่-โจมตี ที่ทรงประสิทธิภาพและทันสมัยมากที่สุดเครื่องหนึ่งของโลก JAS-39 Gripen C/D จำนวน 6 ลำ ทาสีเทาของฝูงบิน 701 โดยมีรูปธงชาติไทยกับรูปปลาฉลามที่แพนหางดิ่ง ทำการกางฐานล้อแล้วร่อนลงจอดบนรันเวย์ของกองบิน 7 ท่ามกลางการต้อนรับอย่างสมเกียรติจากผู้บัญชาการกองทัพอากาศ พลอากาศเอก อิทธพร ศุภวงศ์ ประธานในพิธีต้อนรับ พร้อมด้วยบรรดานายทหารระดับสูงของกองทัพอากาศกับข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ใน จังหวัดสุราษฎร์ธานี

องค์การบริหารจัดการยุทธภัณฑ์ทางทหารของ ประเทศสวีเดนหรือ Defence Materiel Administration คู่สัญญาของรัฐบาลไทยและกองทัพอากาศ ได้ทำการบินนำมาส่งมอบให้แก่กองทัพอากาศ โดยออกเดินทางจากเมือง Linkoping ประเทศสวีเดนเมื่อวันศุกร์ที่ 18 กุมภาพันธ์ 2554 และเดินทางมาถึงยังกองบิน 7 จังหวัดสุราษฎร์ธานีในช่วงค่ำของวันที่ 22 กุมภาพันธ์ เวลา 19.45 น. หลังจากนั้นหน่วยงานทางทหารของสวีเดน Defence Materiel Administration จะทำการส่งมอบเครื่ิองที่เหลือภายในเดือนมีนาคม 2554 จนครบตามจำนวน 12 ลำ เพื่อนำเข้าประจำการในฝูงบิน 701 กองบิน 7 จังหวัดสุราษฎร์ธานีต่อไป

การบรรจุเครื่องบินขับไล่-โจมตี JAS -39 Gripen ถือได้ว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีของการรบในยุคใหม่ของกองทัพอากาศ เลยทีเดียว เนื่องจากเครื่องบินรบที่มีประจำการอยู่ในทัพฟ้าของเราเข่นเครื่อง F5 และ F16 ส่วนใหญ่มีอายุการใช้งานมานานถึง 20-30 ปีแล้ว ยกตัวอย่างเช่น เครื่อง F5E มีเทคโนโลยีที่ห่างจากเครื่อง Gripen มากถึง 30 ปี นับจากเจนเนอเรชั่นที่ 3 ไปเป็น 4.5 ยกตัวอย่างเช่น ระบบตรวจสอบการทำงานทั้งหมดของตัวเครื่องแล้วทำการบันทึกเพื่อใช้เป็นข้อมูล ในกาซ่อมบำรุงนั้น บ. JAS -39 Gripen รุ่น C/D มีเซนเซอร์ติดอยู่รอบลำตัวมากถึง 2000 ตำแหน่ง เมื่อช่างซ่อมบำรุงทำการดาว์นโหลดข้อมูลของตัวเครื่องเพื่อวิเคราะห์ถึง ปัญหา ระบบจะแจ้งเตือนตำแหน่งต่างๆที่ผิดพลาดบนตัวเครื่องทันทีเพื่อทำให้การซ่อม บำรุงมีความสะดวกและรวดเร็วมากยิ่งขึ้น สามารถเข้าถึงและแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นซึ่งจะทำให้ลดค่าใช้จ่ายกับช่วยย่น ระยะเวลาในการซ่อมบำรุง นอกจากนั้นยังมีระบบสื่ิอสารข้อมูลระหว่างทำการบินทางยุทธวิธีหรือการเข้า ต่อตีข้าศึกที่ไม่สามารถดักฟังได้ รวมถึงระบบอาวุธที่มีความล้ำสมัยและมีประสิทธิภาพสูงโดยนำมาติดตั้งให้กับ เครื่อง Gripen ได้ทันทีเช่น อาวุธปล่อยอากาศสู่อากาศ หรืออากาศสู่พื้นรุ่นล่าสุดของสหรัฐอเมริกากับของกองกำลังนาโต้ในกลุ่มสหภาพยุโรป

การเตรียมความพร้อมในการรองรับฝูงบิน Gripen ณ กองบิน 7 มีความสมบูรณ์พร้อมทุกระบบมานานกว่า 2 เดือนแล้วจากการสร้างอาคารโรงเก็บอากาศยานแบบใหม่ล่าสุดและศูนย์ซ่อมบำรุง ของ JAS -39 Gripen C/D กับ Saab 340 Erieye ซึ่งมีทั้งการสำรองอะไหล่และวิศวกรการบินจากสวีเดนรวมถึงหน่วยซ่อมบำรุง ของกองทัพอากาศที่ได้รับการฝึกอบรมจากบริษัทผู้ผลิตโดยตรง เครื่องฝึกบินจำลอง Gripen JAS-39 C/D ระบบรักษาความปลอดภัยในระดับสูงสุดด้วยการสแกนกลุ่มเลือดของเจ้าหน้าที่ที่ เกี่ยวข้องในการปฎิบัติงาน ส่วนเครื่องรุ่นเก่า F5 จำนวน 12 จะถูกใช้งานในการปฎิบัติภารกิจทางการบินจนกว่าเครื่อง JAS-39 Gripen C/D จะเข้าประจำการจนครบทั้ง 12 เครื่อง หลังจากนั้นจึงจะนำเครื่องบินขับไล่-โจมตี F5 ทั้ง 12 เครื่องย้ายไปที่ฝูงบิน 211 จังหวัดอุบลราชธานีต่อไป.

...

พลอากาศเอก อิทธพร ศุภวงค์ ผู้บัญชาการทหารอากาศและประธานในพิธีต้อนรับเครื่อง Gripen ทำการบินเครื่องบินขับไล่แบบ F5 จากกองบิน 6 ดอนเมืองมายังกองบิน 7 สุราษฎร์ธานี

Saab 340 AEW Erieye ในโรงเก็บอากาศยานแห่งใหม่ของกองบิน 7 สุราษฎร์ฯ มูลค่า 400 ล้านบาทของกองบิน 7

...

Saab 340 B เครื่องบินฝึกทางยุทธวิธีของกองทัพอากาศไทย

...

JAS-39 Gripen C/D ทั้ง 6 ลำ ร่อนลงจอดบนรันเวย์ของกองบิน 7

...

JAS-39 Gripen C/D RTAF