สายลม และแสงแดด กับรถยนต์เปิดประทุน มักจะเป็นของคู่กันเช่นเดียวกันกับตำนานของ BMW บริษัทผลิตรถยนต์ชั้นนำยักษ์ใหญ่ของเยอรมัน เจ้าของตราใบพัดฟ้า ขาวที่ไม่เคยละทิ้งการผลิตรถยนต์ ROADSTER รถยนต์ที่มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร
เริ่มตั้งแต่ BMW 507 ROADSTER ในยุค 1950ซึ่งถือเป็นตำนาน และต้นตะกูลของรถ BMW ในรูปแบบรถเปิดประทุน และมีเครื่องยนต์,ช่วงล่างที่ขับสนุก มีแค่สองที่นั้ง และข้อสำคัญ BMW ต้องการให้มันต้องขับขี่ได้แบบสนุกสนานเร้าใจ และราคาไม่แพงจนเกินไป และมันก็ได้พัตนามาเป็น Z1 ที่ออกจำหน่ายเป็นจำนวนน้อยมากในปี 1987-1991 หลังจากนั้น BMW ได้สร้าง ROADSTERที่เป็นตำนานคันต่อมาก็คือ Z3 ก็ได้ถือกำเนิดขึ้นในปี 1997 จนถึงปี2002 จึงยุติสายการผลิต Z3และเริ่มต้นพัตนาและปรัปปรุงระบบ และส่วนต่างๆของตัวรถให้ดียิ่งขึ้นไปอีก และแล้วเจ้า ROADSTERในยุคใหม่นี้ จึงได้ใช้รหัสว่า E 85 Z4 ซึ่ง BMW บรรจงสร้างสันขึ้นมาใหม่ทั้งหมด โดยไม่มีวัสดุใดที่ใช้ร่วมกันกับเจ้า Z3 มันเริ่มจำหน่ายในปี 2002จนถึงปลายปี 2008 การพัตนาให้ดียิ่งขึ้นไปอีก กับตำนานของROADSTERในยุคที่ต้องแข่งขันกับบริษัทรถยนต์ชั้นนำของโลกที่ต่างนำเสนอรถยนต์ในประเภทนี้ BMW Z4 2009จึงถือกำเนิดขึ้นมาภายใต้ตำนาน ROADSTER อันยาวนานของ BMW
Z4 2009 มาแบบเปลี่ยนโฉมไปเกือบทั้งหมด เริ่มตั้งแต่ ไฟหน้า ไฟท้าย กระจัง และภายในห้องโดยสาร แม้จะยังคงมีกลิ่นไอของตัวเก่าอยู่บ้างแต่ก็น้อยมาก BMW ทำออกมาได้สวยงามและครบทุกองค์ประกอบของการใช้งานเครื่องยนต์ตัวใหม่ที่ได้รับการปรับปรุงแก้ใขเรื่องอัตราการประหยัดเชื้อเพลิงให้ดียิ่งขึ้นไปอีก เพิ่มระบบจอภาพขณะถอยรถ เข้า-ออก และปรับปรุงช่วงล่างที่ขึ้นชื่ออยู่แล้วว่าเกาะถนนเป็นเยี่ยมให้ดียิ่งขึ้นไปอีก ส่วนหลังคาที่เป็นผ้าใบใน Zยุคก่อนๆนี้ จะไม่ได้เห็นกันอีกต่อไปแล้วเนื่องจากปัญหาอายุการใช้งานและการทำความสะอาดมาถึงวันนี้ BMW นำหลังคาเหล็กแบบพับได้มาติดตั้งให้กับเจ้า NEW Z4 2009ซึ่งมันใช้เวลาเปิดหรือปิดหลังคาเพียง 20วินาทีเท่านั้น ส่วนช่วงล่างของเจ้า Zตัวใหม่ล่าสุดนี้ ยังใช้ระบบช่วงล่างแบบใหม่ทั้งหมดที่ BMWพัตนาขึ้นมาล่าสุดโดยใช้วัสดุอัลลอยในการลดน้ำหนักช่วงล่างเพื่อให้มันทำงานได้รวดเร็วขึ้น Z4 ใหม่ยังมีเครื่องยนต์ให้เลือกถึงสามขนาดความจุ คือ S DRIVE 25i S DRIVE 30i และตัวท็อป S DRIVE 35i
เรามาดูรายระเอียดครื่องยนต์กันครับ
S DRIVE 25i
ชนิดเครื่องยนต์ แถวเรียงหกสูบ/สี่วาว์ต่อสูบ
กระบอกสูบXช่วงชัก 82.0/78.8
แรงม้าสูงสุด 204 แรงม้าที่ 6400รอบต่อนาที
ความจุกระบอกสูบ 2497 C.C.
น้ำหนักตัวรถ 1480 กิโลกรัม
อัตราเร่ง 0-100กิโลเมตรใน 7.3วินาที
ความเร็วสูงสุด 242 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
ขนาดยาง ล้อหน้า 225/45/zr 17
ขนาดยาง ล้อหลัง 225/45/zr 17
ขนาดล้อ 8J X 17 ALUMINIUM
S DRIVE 30i
ชนิดเครื่องยนต์ แถวเรียงหกสูบ/สี่วาว์ต่อสูบ
กระบอกสูบXช่วงชัก 85.0/88.0
แรงม้าสูงสุด 258 แรงม้าที่ 6600รอบต่อนาที
ความจุกระบอกสูบ 2996 C.C.
น้ำหนักตัวรถ 1505 กิโลกรัม
อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรใน 5.8 วินาที
ความเร็วสูงสุด 250 กิโลเมตรต่อชั่วโมง (จำกัดความเร็วโดยสมองกล)
ขนาดยาง ล้อหน้า 225/45/zr 17
ขนาดยาง ล้อหลัง 225/45/zr 17
ขนาดล้อ 8J X 17 ALUMINIUM
และสุดท้ายกับเครื่องยนต์ตัวท็อปของเจ้า Z4 2009ครับ
S DRIVE 35i
ชนิดเครื่องยนต์ แถวเรียงหกสูบ/สี่วาว์ต่อสูบ
กระบอกสูบXช่วงชัก 84.0/89.6
แรงม้าสูงสุด 306 แรงม้าที่ 5800รอบต่อนาที
ความจุกระบอกสูบ 2979 C.C
น้ำหนักตัวรถ 1600 กิโลกรัม
อัตราเรง 0-100กิโลเมตรใน 5.1วินาที
ความเร็วสูงสุด 250 กิโลเมตรต่อชั่วโมง(จำกัดความเร็วโดยสมองกล)
ขนาดยาง ล้อหน้า 225/45/zr 17 8J X 17
ขนาดยาง ล้อหลัง 255/40/zr 17 8.5J X 17 ALUMINIUM
เป็นที่น่าเสียดายที่ฝ่ายบริหารของ BMW ในเยอรม้นแจ้งว่า Z4 โมเดล 2009นี้ จะไม่มี VERSION M แต่จะมีชุดอัพเกรดเครื่องยนต์ให้มีแรงม้าสูงขึ้นเท่านั้น แฟนๆ M ทราบข่าวแล้วต่างพากันผิดหวังเล็กๆเนื่องจากโมเดลก่อนหน้านี้ เจ้า Z4ก็ยังมี VERSION M ทั้งแบบ ROADSTER และแบบหลังคาแข็งยึดตายตัว ( Z4 M COUPE) ก็คงต้องติดตามกันต่อไปกับค่ายรถตราใบพัดสีฟ้าว่าจะมีเทคโนโลยี่ใหม่ๆออกมาให้วงการรถยนต์และแฟนๆของBMWได้ตื่นเต้นกันอีก
สวัสดีครับ
MR. BLACK
...