นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังเป็นประธานในพิธีลงนามสัญญาสัมปทานโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ระหว่างการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) และบริษัททางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือบีอีเอ็ม ว่าได้ขอให้บีอีเอ็มเร่งรัดการเปิดให้บริการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินช่วงหัวลำโพง-บางแค ให้เปิดได้ก่อนกำหนดในปี 2562 ส่วนช่วงบางซื่อ-ท่าพระ ให้เร่งรัดเปิดบริการให้ได้ก่อนกำหนดในปี 2563 ด้วย ส่วนโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู (แคราย-มีนบุรี) และโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง (ลาดพร้าว-สำโรง) นั้น คาดว่าจะ เสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในเดือน เม.ย. ให้พิจารณาเห็นชอบผลการประมูลและร่างสัญญาร่วมลงทุนกับเอกชน ตามรูปแบบการลงทุนร่วมภาครัฐและเอกชน หรือพีพีพี ส่วนโครงการรถไฟความเร็วสูง กรุงเทพฯ-ระยอง ระยะทาง 193.5 กม. วงเงินลงทุน 152,000 ล้านบาท คาดว่าจะเปิดประมูลได้ภายในปีนี้

ด้านนายอาคม พิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม กล่าวว่า มีความมั่นใจที่รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินช่วงหัวลำโพง-บางแคจะสามารถเปิดให้บริการได้ก่อนเป้าหมายในปี 2562 ทั้งนี้ เมื่อรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินเปิดครบวงจรจะเชื่อมกันเป็นวงกลมจากฝั่งธนบุรีมาฝั่งกรุงเทพมหานคร ส่วนเรื่องค่าโดยสารจะไม่มีค่าแรกเข้าใหม่ แต่จะเป็นระบบเดียวกับที่เริ่มเก็บที่ 16-42 บาท/คน/เที่ยว ซึ่งภายในเดือน มิ.ย.2560 นี้ สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร หรือ สนข. จะเริ่มเปิดใช้บัตรแมงมุมกับรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินสายฉลองรัชธรรม (เอ็มอาร์ที) ซึ่งจะทำให้ระบบการขนส่งสามารถเชื่อมต่อกันได้ด้วยบัตรเดียว

“หากเปิดให้บริการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินครบ 3 ช่วง คือ บางซื่อ-หัวลำโพง, หัวลำโพง-บางแค, บางซื่อ-ท่าพระ จะมีปริมาณผู้โดยสารมาใช้บริการรถไฟฟ้าใต้ดิน เพิ่มขึ้นจากปัจจุบันมีผู้ใช้บริการที่ 300,000 คน/วัน เพิ่มเป็น 800,000 คน/วันทันที ซึ่งหากในอนาคตมีรถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้ สายสีส้มตะวันออก และตะวันตก เข้ามาเชื่อมก็จะทำให้ระบบขนส่งมวลชนในกรุงเทพมหานครและปริมณฑลสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น”

...

ด้านนายปลิว ตรีวิศวเวทย์ ประธานกรรมการบริหารบีอีเอ็ม กล่าวว่า บีอีเอ็มจะพยายามเจรจาจัดซื้อรถให้ได้โดยเร็วเพื่อเปิดให้บริการให้ได้เร็วกว่ากำหนด ส่วนความคืบหน้าในการเปิดเดินรถ 1 สถานี ช่วงเตาปูน-บางซื่อนั้นกำลังเร่งรัดการติดตั้งระบบเพื่อให้เปิดเดินรถได้เร็วขึ้น โดยอาจจะเปิดเดินรถได้ก่อนเดือน ส.ค.ตามที่กำหนดไว้.