ภาวะการซื้อขายหุ้น

ดัชนีหุ้นไทยฟื้นตัวขึ้นท่ามกลางการไหลเข้าของเงินทุนในตลาดเกิดใหม่ โดยดัชนี SET ปิดที่ระดับ 1,573.51 จุด เพิ่มขึ้น 0.80% จากสัปดาห์ก่อน มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวัน ลดลง 23.33% จากสัปดาห์ก่อน มาที่ 36,154.10 ล้านบาท ส่วนตลาดหลักทรัพย์ MAI ปิดที่ 593.79 จุด เพิ่มขึ้น 0.39% จากสัปดาห์ก่อน

สำหรับสัปดาห์นี้ (27-31 มี.ค.) บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด มองว่า ดัชนีหุ้นไทยมีแนวรับที่ 1,550 และ 1,530 จุด ขณะที่แนวต้านอยู่ที่ 1,580 และ 1,590 จุด ตามลำดับ โดยปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ การประกาศใช้มาตรา 50 ของสนธิสัญญาลิสบอนของสหราชอาณาจักรในวันที่ 29 มี.ค.นี้ เพื่อเริ่มกระบวนการ Brexit อย่างเป็นทางการ การประชุม กนง.ของไทย รวมทั้งการทำราคาปิดงวดสิ้นไตรมาส

ขณะที่ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯที่สำคัญ ได้แก่ ดุลการค้า จีดีพีไตรมาส 4/59 (รอบสุดท้าย) และรายได้ส่วนบุคคล ส่วนปัจจัยต่างประเทศอื่นๆที่น่าสนใจ ได้แก่ ยอดค้าปลีกของญี่ปุ่นและผลสำรวจความเชื่อมั่นภาคธุรกิจของเยอรมนี

...

ภาวะตลาดเงินและอัตราแลกเปลี่ยน

สำหรับสัปดาห์นี้ (27-31 มี.ค.) ธนาคารกสิกรไทยประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทที่ 34.50-34.80 บาทต่อดอลลาร์ฯ โดยจุดสนใจของตลาดน่าจะอยู่ที่ผลการประชุม กนง. และตัวเลขเศรษฐกิจเดือน ก.พ.ของไทย ขณะที่ ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯที่สำคัญ ได้แก่ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน มี.ค. ยอดทำสัญญาซื้อบ้านที่รอปิดการขาย ดัชนีราคา PCE และ Core PCE ในเดือน ก.พ. ราคาบ้านเดือน ม.ค. และตัวเลขจีดีพี ไตรมาส 4/59 (รายงานครั้งสุดท้าย)

นอกจากนี้ นักลงทุนอาจมีจุดสนใจเพิ่มเติมที่ผลการลงมติร่างกฎหมายระบบดูแลสุขภาพของ ปธน. ทรัมป์ (ซึ่งถูกมองเป็นตัวสะท้อนถึงความสามารถของ ปธน.ทรัมป์ ในการทำงานร่วมกับสภาคองเกรส) ถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟด และการที่อังกฤษเตรียมประกาศมาตรา 50 ในสนธิสัญญาลิสบอน (29 มี.ค.) ซึ่งเป็นกลไกเริ่มกระบวนการถอนตัวออกจากสหภาพยุโรป.

บ.ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด