ย้อนอดีตดาราขับรถชนคนตาย และอุบัติเหตุที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น!

นับว่าเป็นเหตุการณ์ที่สะเทือนใจอยู่ไม่น้อย ทุกครั้งที่มีข่าวออกมาเกี่ยวกับอุบัติเหตุ ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่มีใครคาดถึงและไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น ล่าสุดอุบัติเหตุเกิดขึ้นกับลูกชายของ โหน่ง ชะชะช่า จนคู่กรณีเสียชีวิต ซึ่งหากย้อนกลับไปดูในช่วงที่ผ่านมา พบว่ามีคดีที่ดาราคนดัง ก็ทำผิดอยู่มากเช่นกัน หนึ่งในนั้นเป็นคดีอุบัติเหตุ ขับรถชนคนเสียชีวิต...

แอนนา รีส ซิ่งเบนซ์แข่งบิ๊กไบค์ชนตำรวจดับ

อดีตดารา นางแบบ แอนนา แฮมบาวรีส หรือ แอนนา รีส กับข่าวขับรถพุ่งชนรถตำรวจที่จอดนอนหลับพักผ่อนอยู่บริเวณไหล่ทางช่องซ้าย เป็นเหตุให้นายตำรวจยศร้อยตำรวจโทเสียชีวิตในที่เกิดเหตุทันที

จากการสอบสวนพยานที่เห็นเหตุการณ์ในที่เกิดเหตุให้การว่า ก่อนเกิดเหตุรถเบนซ์ของแอนนา รีส ขับมาด้วยความเร็วกับรถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์ ทั้งสองคันวิ่งตีคู่กันมาด้วยความเร็วสูง ก่อนรถจักรยานยนต์จะลดความเร็วลง กระทั่งเกิดเสียงดังสนั่น เมื่อวิ่งออกมาดูพบว่า รถเบนซ์คันดังกล่าวชนกับรถตำรวจที่จอดอยู่ริมถนน ส่วนจักรยานยนต์คันดังกล่าวไม่เห็นแล้ว หลังเกิดเหตุดารานางแบบสาวมีอาการตกใจและยืนร้องไห้ฟูมฟาย พร้อมกับตะโกนโวยวายว่า "ไม่หลบหนี ยอมรับผิดทุกอย่าง"

ในบ่ายของวันรุ่งขึ้นดารานางแบบสาว ได้เดินทางเข้ามอบตัวกับตำรวจ โดยตำรวจได้นำตัวไปตรวจเลือด เพื่อดูปริมาณแอลกอฮอล์และสารเสพติดในร่างกาย พร้อมกับแจ้ง 2 ข้อหา คือ ขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นเสียชีวิต และหลบหนีการจับกุม โดยแอนนา เปิดเผยว่า ขณะขับรถมาถึงจุดเกิดเหตุซึ่งทางมืด มีรถจักรยานยนต์ตัดหน้า จึงเบรกกะทันหัน จนรถหมุนไปชนรถยนต์สายตรวจจราจร พร้อมยืนยันว่า ไม่ได้ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หรือเสพยา แต่ด้วยความตกใจ และช็อกกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ประกอบกับบาดเจ็บ ป้าจึงพาไปทำแผลที่บ้านไม่ได้คิดหนี พร้อมขอโทษญาติผู้เสียชีวิต และจะขอรับผิดชอบเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมด

จากกรณีของแอนนา รีส ที่ขับรถจนเกิดอุบัติเหตุและทำให้ผู้อื่นเสียชีวิตนั้น ในอดีตยังมีดารานักแสดงอีกเป็นจำนวนมาก ที่เคยเกิดกรณีเดียวกันมาแล้ว บันเทิงไทยรัฐออนไลน์ จึงได้รวบรวมเหตุการณ์ของการขับรถโดยประมาทจนเป็นเหตุให้ผู้อื่นเสียชีวิต ของเหล่าคนดัง เพื่อให้เหตุการณ์เหล่านี้เป็นสิ่งเตือนใจ และเป็นบทเรียนสำคัญในการขับรถ ว่าต้องมีสติ และตั้งอยู่บนความไม่ประมาทเสมอ

ไอซ์ ศรัณยู ขับรถชนคนเดินข้างถนนดับภายในซอยมัยลาภ

เมื่อกลางดึก วันที่ 1 พ.ค. 58 นักร้องชื่อดัง ไอซ์ ศรัณยู วินัยพานิช หลังจากกลับจากร้องเพลงที่โรงแรมย่านเจริญกรุง ได้ขับรถยนต์กลับบ้านภายในซอยรามอินทรา 14 (มัยลาภ) ขณะที่ขับรถอยู่ในซอยอีก 100 เมตรจะถึงบ้านได้ขับผ่านจุดเกิดเหตุที่ไม่มีแสงไฟส่องทาง ทำให้มองไม่เห็นนายวิชัย ใยยอง อายุ 43 ปี ที่เดินอยู่ข้างถนน จนรถพุ่งเข้าชนได้รับบาดเจ็บ ก่อนที่แท็กซี่ที่ขับตามมาข้างหลังชนท้ายรถของนักร้องหนุ่มซ้ำอีกคัน

โดยไอซ์ได้ให้การว่า สาเหตุเพราะมืดมองไม่เห็นคู่กรณี พร้อมทั้งรับผิดชอบค่ารักษาพยาบาลทั้งหมด ก่อนย้ายผู้บาดเจ็บไปรักษาที่ รพ.ลาดพร้าว แต่หลังจากนั้นไม่นาน ผู้บาดเจ็บก็ได้เสียชีวิตลง เมื่อหนุ่มไอซ์รู้ข่าวก็ทั้งตกใจและเสียใจเป็นอย่างมาก พร้อมกับตั้งโต๊ะแถลงข่าวถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และสัญญาว่าจะดูแลครอบครัวของผู้เสียชีวิตอย่างดีที่สุด ส่วนกระบวนการทางกฎหมายผิดก็ว่าไปตามผิด

นิชคุณ เมาแล้วขับ ชนรถจักรยานยนต์บาดเจ็บ

เป็นข่าวครึกโครมข้ามประเทศ หลังนักร้องหน้าใส ฉายา เจ้าชายแห่งเมืองไทย นิชคุณ หรเวชกุล วัย 24 ปี สมาชิกวง 2 PM ของเกาหลีใต้ ขับรถชนท้ายจักรยานยนต์ มีผู้บาดเจ็บ 1 ราย ในเขตกังนัม ประเทศเกาหลีใต้ เมื่อช่วงเช้ามืดวันที่ 24 ก.ค. 55 โดยหลังเกิดเหตุตำรวจตรวจพบแอลกอฮอล์ในกระแสเลือด 0.056% เกินกว่าที่กฎหมายกำหนด 0.05% ทำให้นิชคุณ ถูกตั้งข้อหาเมาแล้วขับ พร้อมทั้งถูกระงับใบอนุญาตขับรถชั่วคราว

ด้าน JYP Entertainment ต้นสังกัดของนักร้องดัง ได้เปิดเผยถึงเรื่องราวดังกล่าวว่า ปกตินิชคุณไม่ใช่คนดื่ม แต่คืนวันเกิดเหตุได้ร่วมรับประทานอาหารกับเพื่อนศิลปินร่วมค่าย และได้ดื่มเบียร์ไป 2 แก้วเท่านั้น จากนั้นก็ขับรถกลับที่พักที่อยู่บริเวณใกล้เคียง ซึ่งปกติจะนั่งรถตู้ของบริษัท แต่คืนนั้นเห็นว่าใกล้ที่พัก จึงขับรถกลับเองและได้เกิดอุบัติเหตุดังกล่าวขึ้น คดีนี้ได้ยุติลง เมื่อสำนักอัยการสูงสุดของเกาหลีใต้ สั่งปรับเป็นเงิน 4 ล้านวอน หรือประมาณ 110,338 บาท และนิชคุณได้ตกลงกับผู้เสียหายเรียบร้อยแล้ว ส่วนเหตุที่สั่งปรับเพียงอย่างเดียวนั้น เนื่องจากอัยการเห็นว่า ผู้เสียหายได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย อาการไม่สาหัส และระดับแอลกอฮอล์ในเลือดของนิชคุณมีระดับต่ำ 0.056% เกินกว่าค่ากำหนด 0.05% เพียงเล็กน้อยเท่านั้น

หนุ่ม ศรราม ควบเก๋ง ชนหญิงเก็บของเก่าริมถนน ดับคาที่

ย้อนไปเมื่อวันที่ 20 มิ.ย. 50 เกิดเหตุคดีดังลงหน้าหนึ่งหนังสือพิมพ์หลายฉบับ เมื่อพระเอกชื่อดัง หนุ่ม-ศรราม เทพพิทักษ์ ขับรถแหกเลน ปีนฟุตปาทพุ่งเข้าชน นางพิศเพลิน ตะโกมา อายุ 49 ปี ขณะกำลังเก็บของเก่าในถังขยะ ริมถนนแถวแยกวังหินจนร่างแน่นิ่งไป ส่วนรถยังวิ่งต่อไปอีก 50 เมตร ชนเข้ากับตู้โทรศัพท์สาธารณะ และต้นไม้ข้างทางจนหักลงมาทับรถ ส่วนเจ้าตัวเองก็ต้องรีบเข้ารักษาตัวที่ รพ.วิชัยยุทธ เนื่องจากหลังประสบอุบัติเหตุ มีเลือดไหลออกจมูกและปากจนสลบ แต่ทั้งนี้จากการตรวจของแพทย์ ไม่พบแอลกอฮอล์ ไม่มีบาดแผลตามร่างกาย รวมถึงผลเอกซเรย์คอมพิวเตอร์สมองไม่พบความผิดปกติ แต่คณะแพทย์จะต้องเฝ้าดูอาการอย่างใกล้ชิด

หลังจากเหตุการณ์นี้ หนุ่มได้ใช้หลักทรัพย์โฉนดที่ดินประกันตัวออกไปในวงเงิน 120,000 บาท ขณะเดียวกัน ได้ช่วยเหลือเยียวยาค่าเสียหายแก่ญาติผู้ตายจำนวนหนึ่งจนเป็นที่พอใจ ส่วนสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุครั้งนั้น มยุรี เทพพิทักษ์ มารดาของพระเอกชื่อดัง ได้กล่าวว่า อาจจะเกิดจากการที่ หนุ่ม อดนอนมาตลอดสัปดาห์ ทำให้ร่างกายไม่ได้พักผ่อนอย่างเพียงพอ อีกทั้งก่อนเกิดเหตุช่วงหลังอาหารรับประทานยาแก้ไข้หวัดเข้าไป เพราะไม่สบาย แต่ก็ยังออกไปข้างนอก เพื่อกดเอทีเอ็มและซื้อของกลับบ้านจึงเกิดเหตุการณ์สูญเสียดังกล่าวขึ้น

แอนนิต้า ซิ่งเก๋งสยอง พุ่งชน 2 แม่ลูก

หากจะย้อนกลับไปเมื่อ 11 ปีก่อน นักร้องสาวอนาคตสดใส ค่ายแกรมมี่ แอนนิต้า-นิษิตา พงศ์ทรง ก็เคยเป็นผู้หนึ่งที่ประสบอุบัติเหตุเช่นนี้มาแล้ว โดยในวันนั้นแอนนิต้าขับรถชน นางประทานพร บุญปิตานนท์ ซึ่งกำลังอุ้มลูกสาววัย 1 ขวบ 2 เดือนข้ามถนน พร้อมทั้ง หทัยรัตน์ จันทร์ศิริ ผู้เป็นเพื่อนด้วย โดยทั้งสามคนบาดเจ็บสาหัส ถูกนำตัวส่งห้องไอซียู แต่นางประทานพรเสียชีวิตในที่สุด

โดยเหตุการณ์ในวันดังกล่าว เป็นจังหวะที่ทั้งสามผู้เคราะห์ร้ายเดินออกจากที่พัก เพื่อจะข้ามถนนไปขึ้นรถฝั่งตรงข้าม ขณะที่ทั้งสามกำลังเดินข้ามพ้นเกาะกลางถนน รถเก๋งของนักร้องสาวคนดัง ที่กลับรถจากใต้สะพานข้ามแยกก็พุ่งชนอย่างรุนแรง จนทำให้ทั้งสามนอนแน่นิ่งอยู่ใต้ท้องรถ ส่วนแอนนิต้าเองก็ดูจะตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่น้อย จนไม่มีสติที่จะลงมาดูแลและให้ความช่วยเหลือผู้บาดเจ็บในขณะนั้น เธอหายหน้าไปพักหนึ่งเพื่อตั้งสติ ก่อนจะออกมาขอโทษครอบครัวของเหยื่อ ซึ่งนั่นก็ทำให้คะแนนนิยมในตัวสาวแอนนิต้าลดลง โดนสังคมประณามไปไม่ใช่น้อย และที่สำคัญคือเธอยังไม่มีใบอนุญาตขับรถยนต์

แอนนิต้ายินยอมชดใช้ค่าเสียหายในคดีแพ่งนี้เป็นเงิน 8 แสนบาท ส่วนคดีอาญาที่พนักงานอัยการเป็นโจทก์ยื่นฟ้องนั้น แอนนิต้าเป็นจำเลยในความผิดฐานกระทำการโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บสาหัส และถึงแก่ความตายนั้น ศาลอาญามีคำพิพากษาให้รอลงอาญาไว้ 2 ปี ภายหลังจากดำเนินการเสร็จสิ้นทุกอย่าง แอนนิต้าก็ตัดสินใจนุ่งขาวห่มขาวบวชชีพราหมณ์ เพื่ออุทิศส่วนกุศลให้ผู้ตาย เชื่อว่าจนถึงเวลานี้ เหตุการณ์ครั้งนั้น ก็ยังคงเป็นแผลให้เธอได้ระลึกถึงยามขับรถเสมอ

โดม เมาซิ่งซัดแทกซี่ ขยี้ 2 ศพ

นักร้องคนดัง โดม ปกรณ์ ลัม ขณะนั้นเขายังอยู่ในสังกัดอาร์เอส ขับรถเบนซ์สปอร์ตป้ายแดงชนประสานงามีคนตาย 2 ศพ บาดเจ็บ 4 คน ซึ่งเวลานั้นคนขับรถแท็กซี่พยานผู้เห็นเหตุการณ์เล่านาทีระทึกขวัญให้ฟังว่า เขาจอดรถติดสัญญาณไฟแดงที่แยกตึกชัย ด้าน ถ.พระราม 6 ฝั่ง รพ.รามาธิบดี ขณะจอดรอสัญญาณไฟเขียวได้ประมาณ 10 วินาที ก็พบว่ามีแสงไฟสว่างจ้าจากกระจกมองหลัง พุ่งตรงมาด้วยความเร็ว จนทำให้มั่นใจว่า เมื่อถึงแยกตึกชัยแล้วคนขับรถเบนซ์จะไม่แตะเบรก และคงไม่ยอมจอดง่ายๆ แน่ เพียงครู่เดียวรถเบนซ์คันนี้ก็พุ่งเข้าชนรถแท็กซี่ที่วิ่งมาจากอนุสาวรีย์ชัยอย่างจัง จนรถแท็กซี่หมุนเคว้งคว้างด้วยความเร็วของรถที่วิ่งมาชน มีอุปกรณ์ชิ้นส่วนหลุดกระเด็นกระดอนกลางอากาศมากมาย และชนรถแท็กซี่อีกคันที่จอดติดไฟแดง ที่สุดก็พบว่ามีคนนอนอยู่กับพื้นถนน 2 คน ส่วนคนที่นั่งอยู่ในรถก็แน่นิ่งไป

ในเวลานั้นพนักงานสอบสวนได้ส่งตัวโดมตรวจหาปริมาณแอลกอฮอล์ พบว่า มีปริมาณ 164 มิลลิกรัม สูงเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด โดมจึงถูกตั้งข้อหาถึง 5 ข้อหาด้วยกัน คือ 1.ขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ซึ่งมีโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี ปรับไม่เกิน 2 หมื่นบาท 2.ขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บสาหัส ซึ่งมีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 6,000 บาท 3.ขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ทรัพย์สินของผู้อื่นเสียหาย คือรถแท็กซี่เสียหาย 2 คัน 4.ขับรถฝ่าฝืนสัญญาณไฟแดง และ 5.ขับรถขณะเมาสุรา ซึ่งนักร้องคนดังก็ยอมรับผิดและจะชดใช้ให้แก่ผู้เสียชีวิต ก่อนจะขอประกันตัวออกไปในวงเงิน 3 แสนบาท พร้อมทั้งบวชอุทิศส่วนกุศลให้แก่ผู้ตาย ก่อนจะบินไปเรียนต่อที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ทั้งนี้แม่ของนักร้องหนุ่ม ยินดีจ่ายค่าเสียหายให้ศพละ 470,000 บาท พร้อมรับผิดชอบค่ารักษาพยาบาลของผู้ที่ได้รับบาดเจ็บทั้งหมดอีกด้วย

บีม ศรัณยู ขับรถเลียนแบบรถโล่ ชนแล้วหนี

เมื่อวันที่ 25 พ.ย.2552 นักแสดงหนุ่ม บีม ศรัณยู ประชากริช ขับรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นฟอร์จูนเนอร์ สีดำคาดขาว ก่อเหตุขับชนแล้วหนี ค้นในรถพบอาวุธปืน ขนาด.22 ไม่มีทะเบียน 1 กระบอก มีดสปาต้า 1 เล่ม กุญแจมือ วิทยุมือถือตำรวจ เครื่องช็อตไฟฟ้า ทั้งนี้รถคันดังกล่าวยังตกแต่งเลียนแบบรถตำรวจ ติดสติกเกอร์ประตูด้านหน้าทั้งสองข้างมีข้อความว่า "สำนักงานตำรวจแห่งชาติ" พร้อมเครื่องหมายตราสัญลักษณ์สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ประตูด้านหลังสองข้างติดสติกเกอร์เป็นภาษาอังกฤษว่า ROYAL THAI POLICE

โดยบีมได้ยื่นหลักทรัพย์เงินสด 1 แสนบาทประกันตัวไป ต่อมาความผิดฐานมีอาวุธปืน และเครื่องกระสุนปืน ศาลตัดสินลงโทษจำคุก 8 เดือน ปรับ 4,000 บาท ฐานพกพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะ โดยไม่มีเหตุอันควร จำคุก 6 เดือน ปรับ 2,000 บาท รวมจำคุก 14 เดือน ปรับ 6,000 บาท คำให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์ลดโทษให้กึ่งหนึ่งคงจำคุก 7 เดือน ปรับ 3,000 บาท จำเลยไม่เคยต้องโทษมาก่อน โทษจำคุกจึงให้รอลงอาญา 1 ปี.