“หมอธีระวัฒน์” ชี้โควิด-19 (COVID-19) ยังน่ากลัวหลังไวรัสผันแปร แนะคนไทยตระหนัก ให้ความสำคัญในการป้องกันตัวเอง การ์ดอย่าตก เพราะการวินิจฉัยโรคยากขึ้น คนเคยติดโควิดแล้วหายป่วยซ้ำได้ เหตุภูมิคุ้มกันไม่ตรงไวรัสตัวใหม่ และคนติดเชื้อแต่ยังไม่มีอาการสามารถแพร่เชื้อได้สาเหตุจากเชื้อกลายพันธุ์

หลังมีการยืนยันการ "ระบาดโควิดระลอกใหม่" จุดเริ่มจาก "ตลาดกลางกุ้ง สมุทรสาคร" มีแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมาติดโควิดกว่าพันคน และมีผู้ติดเชื้อโควิดไทยเพิ่มขยายวงกว้างไปหลายจังหวัดทั่วไทย เกิดจากเชื้อไวรัสโควิดสายพันธุ์จีเอช (GH) ซึ่งเป็นสายพันธุ์เดียวกับ จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา , อ.แม่สาย จ.เชียงราย และ อ.แม่สอด จ.ตาก ซึ่งต้นกำเนิดมาจากอินเดีย ระบาดมารัฐยะไข่ ประเทศเมียนมา และมีบางส่วนลักลอบเข้าไทยทำให้มีการระบาดในประเทศไทย

แม้หลายคนอาจรู้สึกคลายกังวลบ้างเล็กน้อย เพราะยังไม่พบการกลายพันธุ์ในตำแหน่งยีน N501Y ซึ่งเป็นสายพันธุ์ที่กำลังเกิดการระบาดครั้งใหญ่ในประเทศอังกฤษตอนนี้ แต่คนไทยอีกมากก็เกิดคำถาม เชื้อไวรัสโควิดสายพันธุ์จีเอช (GH) ที่ระบาดในไทยจะมีโอกาสกลายพันธุ์อีกหรือไม่ สาเหตุการกลายพันธุ์คืออะไร เพื่อหาวิธีสกัดกั้นการระบาด ผู้ที่ให้ข้อมูลกระจ่างแจ้งได้อย่างดี คือ ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา หัวหน้าศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ คณะแพทยศาสตร์ รพ.จุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย ผู้มากประสบการณ์ด้านโรคอุบัติใหม่มากว่า 20 ปี

...

: อย่าตื่นตูม โควิดสายพันธุ์จีเอช (GH) ไทยเคยรับมือ :

เชื้อไวรัสโควิดสายพันธุ์จีเอช (GH) ที่พบใน จ.สมุทรสาคร ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เผยข้อมูล จากการศึกษาของศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ตั้งแต่มีการระบาดโควิดในไทยจนถึงตอนนี้ ไทยมีทุกสายพันธุ์ตั้งแต่สายพันธุ์ S จากจีนที่พบในช่วงแรก ต่อมาพบสายพันธุ์ L, O, V ,G , GH , GR และเมื่อเดือน ต.ค. มี GV และ D614 ส่วนสายพันธุ์จีเอช (GH) ไทยเคยรับมือมาแล้วเมื่อเดือน มี.ค. 63

ทุกครั้งที่มีการระบาด ศ.นพ.ธีระวัฒน์ กล่าวว่า ไม่รู้สึกกังวลหรือกลัวจะเป็นเชื้อโควิดสายพันธุ์ใด เพราะที่ผ่านมาสามารถควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดได้จากความร่วมมือกันของระบบสาธารณสุขทุกภาคส่วน รวมถึงประชาชนมีความวินัยและให้ความร่วมมือในการป้องกันด้วย แต่ถึงอย่างไร เชื้อไวรัสกลุ่มโคโรนาก็ยังน่ากลัวและคนไทยทั้งประเทศต้องเฝ้าระวังป้องกันตัวเองให้เคร่งครัด เพราะหากเชื้อโรคเข้าสู่ในคน จะมีการผันแปรรหัสพันธุกรรมตลอดเวลา และผันแปรไปเรื่อยๆ กระทั่งอยู่ในระดับคงที่ในตำแหน่งที่ชัดเจนจะทำให้สามารถแบ่งกลุ่มหรือหมวดหมู่ได้ว่าเป็นเชื้อไวรัสกลายพันธุ์กลุ่มใด

การจะเชื่อมโยงว่าเชื้อไวรัสโคโรนาอยู่ในสายพันธุ์ใด ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เปิดเผยว่า ไม่ได้พิสูจน์ในมนุษย์จริงๆ แต่เป็นการตั้งสมมติฐานจากการถอดรหัสพันธุกรรม โดยนำเชื้อที่เจอไปเทียบในพื้นที่อื่นที่มีการระบาดโควิด เช่น พม่า จีน อังกฤษ หรือประเทศอื่นๆ ในยุโรป แล้วนำมาจำลองรูปแบบทางคอมพิวเตอร์ ดังนั้นจึงไม่มีหลักฐานชัดเจนได้ว่าเชื้อไวรัสโควิดกลายพันธุ์ในมนุษย์ได้อย่างไร

: คนเคยติดโควิดแล้วหายป่วย มีโอกาสเป็นซ้ำ :

เชื้อไวรัสโควิดกลายพันธุ์สายพันธุ์จีเอช (GH) และสายพันธุ์อื่นๆ จะแพร่กระจายเชื้อได้เร็ว ได้ง่ายและความรุนแรงของโรคในแต่ละคนที่ติดเชื้อไม่ได้เกิดจากเชื้อไวรัสอย่างเดียว ยังมีปัจจัยอื่นๆ ส่งเสริม อาทิ คนอยู่ร่วมกันแออัด ไม่ป้องกันตัวเอง นอกจากนี้เพศก็มีส่วน ผู้ชายมีความเสี่ยงติดเชื้อและเกิดความรุนแรงมากกว่าผู้หญิงมีประจำเดือนอันเนื่องมาจากฮอร์โมน ผู้มีความผิดปกติทางสมอง สมองเสื่อมเสี่ยงต่อการติดเชื้อง่ายและอาการรุนแรง และเมื่อหายแล้วภาวะสมองเสื่อมจะเลวร้ายกว่าเดิม รวมถึงผู้มีความผิดปกติทางหัวใจะสุ่มเสี่ยงสูงกว่าเช่นกัน

...

ส่ิงที่กังวล ศ.นพ.ธีระวัฒน์ ระบุว่าคือ หน้าตาของเชื้อไวรัสโควิดที่เปลี่ยนไปจากการผันแปรของพันธุกรรมจะทำให้การวินิจฉัยโรคยากมากขึ้น ผิดพลาดและช้า เพราะใช้การวินิจฉัยด้วยวิธีตรวจแบบเดิมจาก “ท่อนรหัสพันธุกรรม” ตรวจจับรหัสพันธุกรรมที่เฉพาะเจาะจง เมื่อรหัสพันธุกรรมเปลี่ยนไปทำให้ตรวจไม่พบ และคิดว่าไม่มีไวรัส แต่จริงๆ แล้วมีไวรัส ซึ่งนอกจากทำให้ตรวจพบเชื้อไวรัสล่าช้า ยังส่งผลให้ผู้ที่เคยติดเชื้อโควิดสามารถติดเชื้อซ้ำได้ เนื่องจากระบบภูมิคุ้มกันร่างกายที่สร้างจากการติดเชื้อโควิดครั้งแรก จำหน้าตาพันธุกรรมที่เปลี่ยนแปลงใหม่ของเชื้อโควิดไม่ได้ ทำให้ไม่สามารถคุ้มกันการติดเชื้อครั้งที่ 2 และอาจจะติดเชื้อรุนแรงมากหรือน้อยกว่าครั้งแรกได้ ยกเว้นว่าเชื้อที่โคจรในไทยจะเป็นเชื้อที่หน้าตาไม่ผิดเพี้ยนจากเดิมมาก

: วัคซีนโควิด คนไทยชนะขาดได้ “ด้วยวินัย” :

สาเหตุเชื้อโควิดกลายพันธุ์ ศ.นพ.ธีระวัฒน์ บอก ถือเป็นเรื่องปกติของไวรัส เพราะเมื่อเชื้อข้ามมาสู่ส่ิงมีชีวิตก็ต้องต่อสู้กับสิ่งมีชีวิตนั้นๆ และต้องผันแปรรหัสทางพันธุกรรมให้มีชีวิต มีประสิทธิภาพมากขึ้น เพื่อแพร่กระจายเชื้อโรคไปยังผู้อื่นได้มากขึ้น การระบาดของเชื้อไวรัสโควิดถือเป็นสงครามระหว่างเชื้อโรคกับมนุษย์ และเชื้อโควิดยังจะกลายพันธุ์ต่อไปแน่นอน 100 %

...

ทั้งนี้ คนไทยอย่าให้ความสำคัญกับสายพันธุ์มากเกินไป ควรให้ความสำคัญกับการป้องกันตัวเอง และป้องกันไม่ให้โรคแพร่กระจาย เพราะคนมีเชื้อ แต่ไม่มีอาการก็สามารถแพร่เชื้อได้ ส่วนความหวังเรื่องวัคซีนป้องกันโควิด เมื่อได้รับและผลิตออกมาก็ต้องลุ้นว่า จะได้ผลมากน้อยแค่ไหน สามารถครอบคลุมไวรัสทุกหน้าตาที่เปลี่ยนแปลง หรือได้ผลเฉพาะไวรัสที่โคจรอยู่ในแต่ละพื้นที่ และขึ้นกับการตอบสนองของผู้รับวัคซีนด้วย

“อย่าให้ความสำคัญกับสายพันธุ์มากเกินไป ไทยเจอมาหมดแล้วทุกสายพันธุ์ สงครามระหว่างมนุษย์กับเชื้อโควิด ต่อจากนี้จะเข้มข้นรุนแรงขึ้นตามลำดับ เพราะฉะนั้นต้องป้องกันตนอย่างเคร่งครัด รักษาวินัย การ์ดอย่าตก ใส่หน้ากากอนามัย หน้ากากผ้า รักษาระยะห่าง กินร้อน ช้อนกลาง หมั่นล้างมือ กินอาหารปรุงสุกโดยตามธรรมชาติถ้าไม่มีอาการ เขื้อจะหาย และสงบไปเอง” ศ.นพ.ธีระวัฒน์

: ข่าวน่าสนใจ :

...