Thairath OnlineThairath PlusThairath SportThairath TVMIRROR

OpenAI จะรุกโซเชียลมีเดีย ท้าชน X และ Meta เดิมพันใหญ่มากกว่าเรื่องผู้ใช้ แต่เป็นข้อมูลเรียลไทม์

Date Time: 17 เม.ย. 2568 13:29 น.

Summary

OpenAI กำลังอยู่ในช่วงเริ่มต้นของแผนพัฒนาแพลตฟอร์ม “โซเชียลมีเดีย” ใหม่ ที่อาจกลายเป็นคู่แข่งโดยตรงของ X และ Instagram ในเครือ Meta โดยโครงการนี้ยังอยู่ในระยะเริ่มต้น ยังไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดออกมาอย่างเป็นทางการ แต่คาดว่าได้มีการสร้างต้นแบบภายในที่เน้นการใช้งานฟีเจอร์สร้างภาพจาก AI ของ ChatGPT ผ่านฟีดโซเชียลแบบเรียลไทม์

มีรายงานออกมาว่า OpenAI กำลังอยู่ในช่วงเริ่มต้นของแผนพัฒนาแพลตฟอร์ม “โซเชียลมีเดีย” ใหม่ ที่อาจกลายเป็นคู่แข่งโดยตรงของ X (หรือเดิม Twitter) และ Instagram ในเครือ Meta โดยโครงการนี้ยังอยู่ในระยะตั้งไข่ และยังไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดออกมาอย่างเป็นทางการ แต่คาดว่าได้มีการสร้างต้นแบบภายในที่เน้นการใช้งานฟีเจอร์สร้างภาพจาก AI ของ ChatGPT ผ่านฟีดโซเชียลแบบเรียลไทม์

อย่างไรก็ตาม ยังไม่ชัดเจนว่า OpenAI จะเปิดตัวแพลตฟอร์มนี้ในฐานะแอปฯ แยกต่างหาก หรือจะฝังเข้ากับ ChatGPT ที่เพิ่งขึ้นแท่นแอปฯ ที่มียอดดาวน์โหลดสูงที่สุดในโลกไปเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา โดย OpenAI ยังไม่ได้ให้ความเห็นใด ๆ ต่อประเด็นนี้

The Verge สื่อแรกที่มีการรายงานออกมาโดยมีข้อมูลจากผู้ขอสงวนนาม ชี้ว่า แรงบันดาลใจของโปรเจกต์นี้มาจากฟีเจอร์สร้างภาพด้วย AI ที่ OpenAI เพิ่งเปิดตัวเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา โดยผู้ใช้สามารถสร้างทุกอย่างได้ตั้งแต่ไดอะแกรม อินโฟกราฟิก โลโก้ นามบัตร ไปจนถึงภาพถ่ายสต็อก และยังสามารถนำภาพต้นฉบับมาตกแต่งหรือวาดใหม่ให้กลายเป็นงานศิลปะ เช่น ภาพสัตว์เลี้ยงแบบเพนต์ หรือภาพโปรไฟล์แบบมืออาชีพ

ฟีเจอร์นี้ได้รับความนิยมอย่างล้นหลาม โดยเฉพาะในหมู่ผู้ใช้ที่ชื่นชอบสไตล์ภาพอนิเมะ จนทำให้เกิดการแชร์ต่อกันอย่างแพร่หลายใน X และแพลตฟอร์มอื่น ๆ ซึ่งแม้แต่ Sam Altman ซีอีโอของ OpenAI เองยังเปลี่ยนรูปโปรไฟล์ใน X เป็นภาพที่สร้างจากฟีเจอร์ใหม่นี้เช่นกัน

Sam Altman เคยทวีตเมื่อช่วงปลายเดือนมีนาคมที่ผ่านมาว่า “มันสนุกมากที่ได้เห็นผู้คนรักฟีเจอร์สร้างภาพด้วย AI ของเรา แต่ GPU ของเรากำลังจะละลายแล้ว” ซึ่งในส่วนนี้นั้นหมายถึงภาระงานมหาศาลที่เกิดขึ้นกับหน่วยประมวลผลกราฟิกซึ่งเป็นหัวใจสำคัญในการประมวลผล AI ส่งผลให้ OpenAI ต้องจำกัดการใช้งานฟีเจอร์ชั่วคราว เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพให้รองรับความต้องการที่พุ่งสูงขึ้นต่อเนื่อง

ศึกโซเชียลมีเดียที่ไม่ใช่แค่เรื่องเทคโนโลยี

ทั้งนี้ The Verge รายงานว่า การสร้างแพลตฟอร์มโซเชียลของ ChatGPT จะยิ่งขยายความขัดแย้งระหว่าง Sam Altman และ Elon Musk ที่ร้อนแรงอยู่แล้ว

OpenAI ต้องเผชิญกับการแข่งขันจากคู่แข่งรายใหญ่ในวงการ Generative AI โดยเฉพาะจาก xAI บริษัทของ Elon Musk ที่เพิ่งทำการเข้าซื้อ X อย่างเป็นทางการเมื่อเดือนก่อน ซึ่งการต่อสู้ของทั้งสองไม่ได้จำกัดแค่เทคโนโลยี เพราะยังมีคดีความระหว่างกันอยู่

Elon Musk คือหนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้ง OpenAI เมื่อปี 2015 ด้วยเป้าหมายที่จะสร้าง OpenAI ให้เป็นองค์กรไม่แสวงหากำไร ได้ทำการยื่นฟ้องคัดค้านการเปลี่ยนสถานะของ OpenAI ให้กลายเป็นองค์กรแสวงหากำไรเต็มตัว โดยอ้างว่าการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวละเมิดวัตถุประสงค์ดั้งเดิมของบริษัท อย่างไรก็ตาม ศาลรัฐบาลกลางสหรัฐฯ ได้มีคำสั่งเมื่อเดือนที่แล้ว ปฏิเสธความพยายามของ Musk ที่จะหยุดยั้งการเปลี่ยนผ่านดังกล่าว

อีกทั้ง ในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา กลุ่มนักลงทุนที่นำโดย Elon Musk ได้เคยเสนอซื้อกิจการของ OpenAI ในวงเงินสูงถึง 97,400 ล้านดอลลาร์สหรัฐ แต่ถูกปฏิเสธอย่างเด็ดขาดจาก Sam Altman

นอกจากนี้ การรุกเข้าสู่ตลาดโซเชียลของ OpenAI ยังทำให้ต้องเผชิญหน้ากับ Meta โดยตรง เพราะมีรายงานว่า Meta กำลังพัฒนาแอปฯ ผู้ช่วย AI แบบแยกที่จะมีฟีเจอร์ “โซเชียลฟีด” คล้ายกัน และเมื่อไม่กี่เดือนก่อน เมื่อข่าว Meta จะออกแอปรูปแบบเดียวกับ ChatGPT หลุดออกมา ทาง Sam Altman ก็โต้กลับทันทีผ่าน X ว่า “งั้นเราก็ทำแอปโซเชียลบ้างก็ได้ ไม่เป็นไร”

ล่าสุด OpenAI ก็ได้ปิดดีลระดมทุนมูลค่าสูงถึง 40,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งถือเป็นหนึ่งในการระดมทุนรอบเอกชนที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์เทคโนโลยี ทำให้บริษัทมีมูลค่าประเมินสูงถึง 300,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สะท้อนถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่ออนาคตของ AI และศักยภาพของ OpenAI ในการขยายขอบเขตธุรกิจไปไกลกว่าการเป็นแค่แพลตฟอร์มแชตบอท

เดิมพันใหม่! เข้าถึงข้อมูลเรียลไทม์เพื่อฝึก AI ให้แม่นยำ

หาก OpenAI ก้าวเข้าสู่สนามโซเชียลมีเดียอย่างเต็มตัว ศึกนี้อาจกลายเป็นเวทีปะทะครั้งใหญ่ระหว่างอดีตพันธมิตรที่กลายมาเป็นคู่แข่งอย่าง Sam Altman และ Elon Musk ซึ่งไม่ได้สู้กันแค่เพื่อแย่งผู้ใช้ แต่ยังสู้เพื่อ Data และการใช้ AI ในชีวิตประจำวันอีกด้วย

โดย OpenAI จะสามารถเข้าถึงข้อมูลเรียลไทม์จากผู้ใช้โดยตรง เหมือนที่ X และ Meta ใช้ข้อมูลมหาศาลในการฝึกโมเดล AI ของตน โดยทาง Elon Musk ได้ใช้ Grok ดึงคอนเทนต์จาก X มาแสดงผล ในขณะที่ทาง Meta ก็ใช้ข้อมูลจากแพลตฟอร์มของตัวเองเพื่อเทรนโมเดล LLaMA เช่นกัน

คนในแวดวง AI ยังได้กล่าวถึงจุดแข็งของ X ว่า “การที่ Grok ผูกกับ X ทำให้หลายเจ้ารู้สึกอิจฉา เพราะมันช่วยให้ผู้ใช้สร้างโพสต์ที่ไวรัลง่ายขึ้น”

อย่างไรก็ตาม แม้จะยังไม่มีการยืนยันว่าโปรเจกต์โซเชียลของ OpenAI จะเปิดตัวจริงหรือไม่ แต่การมีอยู่ของโครงการนี้ภายในบริษัทก็บ่งบอกถึงความทะเยอทะยานของ OpenAI ที่ไม่ได้มองแค่การพัฒนา AI เชิงเทคโนโลยีเท่านั้น แต่ยังต้องการขยายอิทธิพลไปสู่โลกโซเชียลและการบริโภคข้อมูลแบบเรียลไทม์ ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของการแข่งขัน AI ยุคต่อไป

ในวันที่ AI กลายเป็นแพลตฟอร์มแห่งอนาคต ข้อมูลก็เปรียบเสมือนเชื้อเพลิง และการมีโซเชียลของตัวเองคือการครองแหล่งพลังงานนั้นด้วยตัวเอง

ที่มา: The VergeCNBC

ติดตามเพจ Facebook: Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ - https://www.facebook.com/ThairathMoney


เราใช้คุ้กกี้

เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น

อ่านเพิ่มเติมคลิก(Privacy Policy) และ (Cookie Policy)