ตลาดหลักทรัพย์ฯ ไทย จับมือ Google Cloud นำ AI เสริมการทำงานเพื่อยกระดับการดำเนินงานของตลาดทุนไทยเต็มรูปแบบ เปิดตัว “ATLAS” (Automated Thai Listed Company AI-Info System) แพลตฟอร์ม AI ช่วยนักลงทุนเข้าถึงข้อมูลเชิงลึกและอีกหลากหลายบริการที่จะช่วยสนับสนุนการทำงานของตลาดหลักทรัพย์ฯ และบริษัทจดทะเบียนให้สะดวกมากยิ่งขึ้น อาทิ One-Report Translator ระบบช่วยแปลภาษารายงานทางการเงินอัตโนมัติ, Opportunities Day Transcription แปลงเสียงจากงาน Opp-Day พร้อมสรุปประเด็น
นายถิรพันธุ์ สรรพกิจ รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานเทคโนโลยีสารสนเทศ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาตลาดหลักทรัพย์ฯ นำเทคโนโลยี AI มาใช้เพิ่มประสิทธิภาพกระบวนการทำงานเป็นระยะเวลากว่า 5 ปีแล้ว
ตั้งแต่การยกระดับการจัดการข้อมูล การให้บริการการเงินและการลงทุน ทั้งระบบกำกับดูแลการซื้อขายและกำกับบริษัทจดทะเบียน รวมถึงระบบแปลเนื้อหาข้อมูลบริษัทจดทะเบียนหรือความรู้ด้านการลงทุนสำหรับผู้ลงทุนต่างชาติ ซึ่งมีส่วนช่วยขยายโอกาสการเข้าถึงข้อมูลของผู้ลงทุน
“ก่อนหน้านี้ตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้นำเทคโนโลยี AI มาช่วยบริษัทจดทะเบียนแปลรายงานทางการเงินจากภาษาไทยเป็นภาษาอังกฤษ โดยใช้ Google Gemini 2.0 Flash เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ตรงและสอดคล้องกับบริบทเนื้อหาแวดล้อมที่เรียกว่า One-Report Translator ซึ่งภายหลังการเปิดตัวเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2565 มีบริษัทจดทะเบียนใช้งานแล้วกว่า 100 บริษัท นอกจากนี้ ยังมีการนำ AI มาใช้ในการแปลงเสียงวิดีโอจากงาน Opportunity Day เป็นข้อความเพื่อให้นักลงทุนเข้าถึงข้อมูลทางการเงินของบริษัทจดทะเบียนและนำข้อมูลไปใช้ต่อได้สะดวกขึ้น”
โดยล่าสุดเตรียมนำระบบ “ATLAS” ที่ใช้ Generative AI ของ Google มาใช้ในกระบวนการทำงาน ซึ่งจะมีส่วนสำคัญในการสนับสนุนการทำงานของตลาดหลักทรัพย์ฯ และบริษัทจดทะเบียนให้สะดวกรวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
นายถิรพันธุ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า AI และดิจิทัลโซลูชันที่ยกระดับการประยุกต์ใช้ข้อมูลจะช่วยกระจายโอกาสให้กับนักลงทุนทุกระดับ ไม่ใช่แค่กลุ่มนักลงทุนสถาบัน แต่รวมถึงนักลงทุนรายย่อยและนักลงทุนต่างชาติ โดยมีเป้าหมายใช้เทคโนโลยีขับเคลื่อนการเติบโตของตลาดทุน สอดคล้องกับพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลง เพื่อพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศไทยในระดับสากล
ATLAS คือ แพลตฟอร์ม AI ที่ถูกออกแบบมาเพื่อเป็นเครื่องมือในการวิเคราะห์ ประมวลผล และค้นหาข้อมูลอัจฉริยะ ซึ่งพัฒนาจากฐานข้อมูลของตลาดหลักทรัพย์ฯ และขับเคลื่อนโดยโมเดล Gemini 2.0 Flash และ Vertex AI (All-in-one AI Platform) ซึ่งเป็นแพลตฟอร์ม AI ระดับองค์กรแบบครบวงจรของ Google ที่จะช่วยให้องค์กรสามารถสร้างโซลูชัน AI ขั้นสูงสำหรับการสนทนาโต้ตอบที่เป็นธรรมชาติเสมือนมนุษย์ได้ง่ายขึ้น
นอกจากนี้ความสามารถของ ATLAS ถูกพัฒนาให้เป็น AI-Ready ที่สามารถ Prompt ขั้นสูงเพื่อถามคำถามเพื่อค้นหาข้อมูลเชิงลึก ครอบคลุมถึงระบบให้คำปรึกษาเกี่ยวกับกฎเกณฑ์ กำกับดูแล และตรวจสอบการซื้อขายได้อย่างแม่นยำ
อีกทั้งยังมีแผนที่จะพัฒนา ATLAS เพิ่มเติมเพื่อให้สามารถวิเคราะห์ข้อมูลแบบเรียลไทม์ ด้วยแพลตฟอร์ม BigQuery ของ Google Cloud และให้บริการได้ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถเข้าถึงข้อมูลสำคัญได้ทันที
โดยปัจจุบัน ATLAS อยู่ในขั้นตอนการทดลองใช้ภายในองค์กรเพื่อเสริมศักยภาพบุคลากรในการวิเคราะห์และประมวลผลข้อมูล ซึ่งคาดหวังให้หน่วยงานภายในใช้ข้อมูลจากฐานข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยมีแผนที่จะขยายไปยังผู้มีส่วนได้ส่วนเสียภายนอกและผู้ลงทุนรายย่อยให้สามารถใช้งานได้ในระยะต่อไปภายในปีหน้า
นายถิรพันธุ์ กล่าวว่า เป้าหมายระยะยาวของการใช้ AI ในอุตสาหกรรม คือ การเปิดให้ผู้ลงทุนทั่วไปสามารถเข้าถึงเครื่องมือวิเคราะห์ขั้นสูงได้ และสามารถประมวลผลข้อมูลจำนวนมหาศาลที่มีอยู่แล้วในตลาดหลักทรัพย์ฯ โดยเฉพาะข้อมูลจากบริษัทจดทะเบียน
AI สามารถเป็นผู้ช่วยสำหรับนักลงทุน โดยช่วยสรุปข่าวสาร วิเคราะห์แนวโน้มตลาด และแนะนำแนวทางการตั้งคำถามให้ตรงประเด็นมากขึ้น การเข้าถึงข้อมูลที่สะดวกและเข้าใจง่ายช่วยให้นักลงทุนตัดสินใจได้อย่างมีข้อมูลรองรับมากขึ้น อย่างไรก็ตาม AI เป็นเพียงเครื่องมือช่วยตัดสินใจช่วยเหลือนักลงทุน แต่ไม่ได้สามารถรับประกันผลตอบแทนที่สูงขึ้นได้
นอกจากนี้การนำ AI มาใช้ในอุตสาหกรรมการเงินการลงทุน ยังต้องเผชิญกับอุปสรรคหลายประการ เช่น ความซับซ้อนของคำถามทางการเงิน การเปลี่ยนแปลงของโมเดล AI ที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว และความแม่นยำและความน่าเชื่อถือของคำตอบที่ได้จาก AI ยังเป็นข้อพิจารณาสำคัญ
ดังนั้นจึงต้องมีมาตรการกำกับดูแลโดยมนุษย์ในกระบวนการ (Human-in-the-loop) และการระบุข้อจำกัดของ AI ไว้อย่างชัดเจน นอกจากนี้ การกำกับดูแลข้อมูล (Data Governance) และการปฏิบัติตามข้อกำหนดทางกฎหมายเป็นอีกปัจจัยสำคัญสำหรับสถาบันการเงินที่ใช้ AI
ด้าน นายอรรณพ ศิริติกุล Country Director, Google Cloud ประเทศไทย กล่าวเพิ่มเติมว่า ด้วยเทคโนโลยีและความเชี่ยวชาญของ Google Search และ Google Cloud AI จะช่วยเสริมศักยภาพบุคลากรในการเปลี่ยนข้อมูลที่ไม่มีโครงสร้างให้เป็นความรู้และข้อมูลเชิงลึก สนับสนุนองค์กรต่างๆ สร้างแอปพลิเคชันและผู้ช่วยค้นหาที่ขับเคลื่อนด้วย AI คุณภาพระดับ Google โดยอิงกับข้อมูลที่แท้จริงขององค์กร
“โดยเรารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะได้สนับสนุนการนำระบบ ATLAS ไปใช้ และร่วมผลักดันแผนการพัฒนานวัตกรรมโดยรวมของตลาดหลักทรัพย์ฯ ในฐานะหน่วยงานที่มีบทบาทสำคัญในการสร้างโอกาสให้นักลงทุนรายย่อย ศูนย์กลางในการระดมทุนสำหรับธุรกิจที่ช่วยให้บริษัทต่าง ๆ สามารถเติบโตและขยายกิจการ ซึ่งส่งผลต่อการเติบโตของเศรษฐกิจโดยรวม"
หากตลาดหลักทรัพย์นำ AI มาใช้เพื่อพัฒนาและเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน ย่อมทำให้ผลกระทบเชิงบวกเหล่านี้ขยายตัวมากยิ่งขึ้นต่อเศรษฐกิจและตลาดแรงงานของประเทศ เทคโนโลยีนี้จะช่วยสร้างมูลค่าให้กับผู้เข้าร่วมตลาดและเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับประเทศไทยในฐานะจุดหมายปลายทางชั้นนำสำหรับการลงทุนทางการเงิน นายอรรณพ กล่าวทิ้งท้าย
ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ -