ท่ามกลางการแข่งขันที่รุนแรงในอุตสาหกรรมสตรีมมิ่ง Apple TV+ ยังคงพยายามหาที่ทางของตัวเอง แม้ว่าจะมีเนื้อหาคุณภาพสูงและฐานสมาชิกที่เติบโตขึ้น แต่บริการนี้ยังคงขาดทุนอย่างหนัก ทำให้เกิดคำถามว่า Apple จะสามารถทำให้แพลตฟอร์มนี้ประสบความสำเร็จได้หรือไม่
Apple TV+ ขาดทุนมากกว่า 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี แม้ว่าจะมีสมาชิกถึง 45 ล้านคนในปี 2024 และนี่เป็นบริการสมัครสมาชิกเพียงอย่างเดียวของ Apple ที่ยังไม่สามารถทำกำไรได้
และเพื่อควบคุมค่าใช้จ่ายให้เข้มงวดขึ้น Apple ได้ลดงบประมาณการผลิตเนื้อหาสำหรับ Apple TV+ จากเดิม 5,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ลงมาประมาณ 500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ แต่ Apple TV+ ยังคงมีส่วนแบ่งการรับชมในตลาดสตรีมมิ่งรายเดือนต่ำกว่า 1% ของจำนวนผู้ชมทั้งหมดต่อเดือน ขณะที่ Netflix มีส่วนแบ่ง 8.2%
Apple TV+ เผชิญกับการแข่งขันจากผู้ให้บริการสตรีมมิ่งรายใหญ่ เช่น Netflix, Disney+, Amazon Prime Video และ Max (HBO) ซึ่งต่างก็มีคลังคอนเทนต์ขนาดใหญ่และโมเดลธุรกิจที่แตกต่างกันไป โดยเฉพาะ Netflix และ Disney+ ที่เริ่มใช้โมเดล Ad-Supported เพื่อเพิ่มรายได้จากโฆษณา ในขณะที่ Apple TV+ ยังไม่มีแผนเพิ่มระดับการสมัครสมาชิกแบบมีโฆษณา ซึ่งอาจเป็นข้อเสียเปรียบในเชิงกลยุทธ์
อย่างไรก็ตาม Apple TV+ ถูกสร้างขึ้นโดยมีเป้าหมายหลักเพื่อรักษาผู้ใช้ให้อยู่ในระบบนิเวศของ Apple มากกว่าที่จะเป็นธุรกิจที่ต้องการสร้างรายได้หลัก โดย Ted Sarandos ซีอีโอร่วมของ Netflix ได้กล่าวถึงกลยุทธ์ของ Apple TV+ ในการสัมภาษณ์กับ Variety ว่า “ผมไม่เข้าใจมันมากไปกว่าการเป็นเครื่องมือทางการตลาด แต่พวกเขาเป็นคนที่ฉลาดมาก บางทีพวกเขาอาจเห็นอะไรบางอย่างที่เราไม่เห็น”
อย่างไรก็ตาม Apple อาจต้องพิจารณาปรับกลยุทธ์เพิ่มเติม เช่น การขยายตลาดไปยังผู้ชมในภูมิภาคเอเชียและยุโรปมากขึ้น หรือการเพิ่มจำนวนรายการที่สามารถดึงดูดผู้ใช้ได้โดยไม่ต้องพึ่งพาการสมัครสมาชิกของ Apple One
นอกจากต้นทุนการผลิตคอนเทนต์ที่สูงแล้ว Apple TV+ ยังมีข้อจำกัดอื่น ๆ ที่ทำให้ยังไม่สามารถทำกำไรได้ เช่น
Apple TV+ เป็นส่วนหนึ่งของธุรกิจบริการที่ใหญ่ขึ้นของ Apple ซึ่งสร้างรายได้มหาศาลให้กับบริษัทผ่าน iCloud Plus, การซื้อแอปผ่าน App Store และโฆษณาบนระบบค้นหา นอกจากนี้ Apple Music ซึ่งมีผู้ใช้งานแบบสมัครสมาชิกและทดลองใช้ฟรีรวมกันถึง 100 ล้านคนเมื่อปีที่แล้ว กำลังประสบปัญหาการเติบโตที่ชะลอตัว
ในขณะเดียวกัน บริการอื่น ๆ ของ Apple เช่น Apple News+, Fitness+ และ Apple Arcade ก็เผชิญกับปัญหาด้านจำนวนผู้ใช้งานต่ำและทำกำไรได้น้อยเช่นกัน ยอดขายหนังสือดิจิทัลเองก็ลดลง หากบริการเหล่านี้ไม่ได้ถูกรวมอยู่ในแพ็กเกจ Apple One ซึ่งผู้ใช้ส่วนใหญ่ซื้อเพราะต้องการ iCloud Plus บริการเหล่านี้อาจไม่สามารถทำกำไรได้เลย นอกจากนี้ Apple ยังมีการเลิกจ้างพนักงานประมาณ 100 คน ในแผนกข่าวและหนังสือเมื่อปีที่แล้วอีกด้วย
แม้ว่า Apple TV+ จะยังไม่สามารถทำกำไรได้ในปัจจุบัน แต่ด้วยความแข็งแกร่งของระบบนิเวศ Apple และศักยภาพในการลงทุนด้านคอนเทนต์คุณภาพสูง บริษัทอาจมีแผนพัฒนาปรับโมเดลธุรกิจ เช่น การเพิ่มโฆษณาหรือการร่วมมือกับสตูดิโอภายนอกเพื่อสร้างความยั่งยืน อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางความท้าทาย Apple ยังคงมีความสามารถในการปรับกลยุทธ์ได้อย่างรวดเร็ว คำถามสำคัญคือ บริษัทจะเดินหน้าพัฒนาแพลตฟอร์มนี้ต่อไป หรือเลือกเปลี่ยนแนวทางไปสู่กลยุทธ์ที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่าในอนาคต
ที่มา: The Verge
ติดตามเพจ Facebook: Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ - https://www.facebook.com/ThairathMoney
การเก็บรวบรวมข้อมูลนี้นำไปใช้เพื่อ กิจกรรมทางการตลาดโดย ยึดหลัก ปฏิบัติตามนโยบายคุ้มครองข้อมูล ส่วนบุคคล