Apple เผยแผนเตรียมนำ Apple Intelligence ฟีเจอร์ AI เข้าสู่ตลาดจีนภายในกลางปี 2025 โดยจะจับมือกับพาร์ทเนอร์บริษัทเทคโนโลยีในประเทศจีน ทั้ง Alibaba และ Baidu เพื่อพัฒนา AI ให้เหมาะสมและตอบรับกับการใช้งานของผู้ใช้ในจีน พร้อมปรับตามนโยบายและความต้องการของรัฐบาลเต็มที่
Apple เผยแผนเตรียมนำ Apple Intelligence ฟีเจอร์ AI เข้าสู่ตลาดจีนภายในกลางปี 2025 นี้ แต่เนื่องจากความซับซ้อนของโครงสร้างและระบบเทคโนโลยีที่ต้องเป็นไปตามข้อกำหนดของรัฐบาลจีน ส่งผลให้ Apple ต้องจับมือกับพาร์ทเนอร์บริษัทเทคโนโลยีในประเทศจีนเพื่อพัฒนา AI ให้เหมาะสมและตอบรับกับการใช้งานของคนในจีน
ปัจจุบัน Apple ได้ตั้งทีมทั้งในสหรัฐอเมริกาและในจีนเพื่อดำเนินการตามแผนนี้ โดยตั้งเป้าที่จะเปิดตัว Apple Intelligence ในจีนให้ทันภายในพฤษภาคมที่จะถึงนี้ ท่ามกลางอุปสรรคเดิมอย่างยอดขายที่ลดลงในตลาดจีน ซึ่งเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดของ Apple นอกสหรัฐฯ อีกทั้งการเร่งพัฒนาฟีเจอร์ AI ของแบรนด์ท้องถิ่นที่เริ่มได้รับการยอมรับจากผู้คนในประเทศ และอุปสรรคใหม่ที่ทำให้ Apple ไม่สามารถวางขาย iPhone รุ่นใหม่ได้อย่างเต็มที่
โดยล่าสุด Apple มีแผนที่จะร่วมมือกับเจ้าใหญ่ด้านเทคโนโลยี อย่าง Alibaba และ Baidu เพื่อร่วมกันพัฒนาฟีเจอร์ AI ที่ตอบโจทย์กับคนจีน รายงานของ Bloomberg ชี้ว่า Apple ได้ร่วมมือกับทาง Alibaba ไปแล้วในการพัฒนาระบบบนอุปกรณ์ต่าง ๆ ทั้ง iPhone, iPad และ Mac ที่สามารถปรับแต่งและทำงานร่วมกับระบบ AI ของ Apple ได้ อีกทั้งจะเป็นเครื่องมือที่ทำการเซ็นเซอร์และคัดกรองเนื้อหาข้อมูลก่อนที่ AI จะตอบ Output ออกไปยังผู้ใช้ โดย Apple ยืนยันที่จะคัดกรองตามความต้องการของรัฐบาลจีน
การที่ต้องร่วมกับพาร์ทเนอร์ในจีนเพื่อปรับเปลี่ยนระบบ AI นี้ เนื่องจากในประเทศจีนยังไม่อนุญาตให้ระบบและเครื่องมือบางอย่างแบบที่ Apple Intelligence มีในสหรัฐฯ มาใช้งานได้ อย่างเช่น ฟีเจอร์ AI ที่ใช้เซิร์ฟเวอร์ของ Apple ตลอดจนฟีเจอร์ที่ใช้แชตบอทของ OpenAI ซึ่งรันบนโครงสร้างพื้นฐานของ OpenAI
โดยคาดว่าหลังการปรับเปลี่ยนระบบบางอย่างตามกฎระเบียบ ผู้ใช้จะยังคงใช้งานฟีเจอร์ AI ที่ทำงานบนอุปกรณ์ของ Apple โดยตรงเช่นเดียวกับในสหรัฐอเมริกา แต่จะมีซอฟต์แวร์จาก Alibaba ทำหน้าที่เป็นตัวกรองที่สามารถเซ็นเซอร์เนื้อหาที่รัฐบาลจีนไม่อนุญาต โดยที่ผู้ใช้ไม่รู้ตัว
นอกจากนี้ รัฐบาลจีนยังสามารถสั่งให้ Alibaba แจ้งต่อ Apple หากต้องมีการแก้ไขโมเดล AI ถ้าพบว่าข้อมูลที่แสดงต่อผู้ใช้ขัดกับนโยบายของรัฐ และในกรณีของเซิร์ฟเวอร์ในการรัน Apple Intelligence ที่จำเป็นจะต้องใช้เซิร์ฟเวอร์ของ Apple เท่านั้นอาจต้องหาพาร์ทเนอร์สำหรับให้บริการเซิร์ฟเวอร์นี้แทนในจีน ซึ่งปัจจุบัน Apple กำลังทำงานกับ GCBD องค์กรที่เกี่ยวข้องกับรัฐบาลจีนในการให้บริการ iCloud ในประเทศ
ในส่วนของ Baidu คาดว่าจะเป็นพาร์ทเนอร์ลำดับที่ 2 ในการพัฒนาฟีเจอร์อื่น ๆ รวมไปถึงดูแลฟีเจอร์ Visual Intelligence ซึ่งเป็นหนึ่งในฟีเจอร์ของ iPhone 16 ที่ช่วยให้กล้องสามารถสแกนวัตถุและค้นหาข้อมูลจากอินเทอร์เน็ตได้
ขณะที่ในสหรัฐฯ ทาง Apple ได้ใช้เทคโนโลยีของ Google และ OpenAI ในระบบ Visual Intelligence รวมถึงใช้ OpenAI ในการตอบคำถามของ Siri และช่วยสร้างเนื้อหาให้กับเครื่องมือการเขียน ซึ่งทั้งหมดนี้ไม่ได้ประมวลผลบนอุปกรณ์โดยตรง ส่งผลให้การดำเนินงานในจีน จึงต้องใช้งาน Baidu
ทั้งนี้ ฟีเจอร์ AI ใหม่ที่พัฒนาร่วมกับพาร์ทเนอร์ในจีนจะใช้ได้เฉพาะกับอุปกรณ์ Apple ที่ขายในจีนเท่านั้น หากลูกค้าซื้อ iPhone จากต่างประเทศและนำเข้ามาใช้ในจีน ระบบ AI จะไม่เปลี่ยนไปใช้เวอร์ชันท้องถิ่น โดยอุปกรณ์ของ Apple ที่วางจำหน่ายในจีนจะต้องได้รับการอัปเดตโมเดล AI อย่างต่อเนื่องและรวดเร็วกว่าปกติ นอกจากนี้หากอุปกรณ์ของผู้ใช้ยังใช้โมเดลชุดเก่าอยู่ Apple อาจจะต้องปิดการใช้งาน AI ชั่วคราวจนกว่าข้อมูลจะถูกอัปเดตให้สอดคล้องกับข้อกำหนด
ติดตามเพจ Facebook: Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ - https://www.facebook.com/ThairathMoney