Thairath OnlineThairath PlusThairath SportThairath TVMIRROR

Alibaba Cloud เปิดตัวดาต้าเซ็นเตอร์แห่งที่ 2 ในไทย รับดีมานด์คลาวด์คอมพิวติ้งพุ่ง

Date Time: 13 ก.พ. 2568 18:27 น.

Summary

อาลีบาบา คลาวด์ ธุรกิจด้านเทคโนโลยีดิจิทัลและหน่วยงานหลักด้านอินเทลลิเจนซ์ของอาลีบาบา กรุ๊ป ประกาศเปิดตัวดาต้าเซ็นเตอร์แห่งที่สองในประเทศไทย มุ่งเพิ่มสมรรถนะในการตอบสนองความต้องการบริการคลาวด์คอมพิวติ้งที่เพิ่มขึ้นในประเทศไทย โดยเฉพาะเพื่อรองรับแอปพลิเคชัน generative AI

นาย ฌอน หยวน รองประธานฝ่ายธุรกิจระหว่างประเทศ และผู้จัดการทั่วไปประจำประเทศไทย อินโดนีเซีย ญี่ปุ่น ฟิลิปปินส์ และภูมิภาคแปซิฟิกใต้ ของอาลีบาบา คลาวด์ อินเทลลิเจนซ์ เปิดเผยว่า ดาต้าเซ็นเตอร์ใหม่นี้ตอกย้ำจุดยืนที่มั่นคงในฐานะผู้ให้บริการคลาวด์ระดับแนวหน้าในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของอาลีบาบา คลาวด์ ด้วย Availability Zone ทั้งหมด 86 แห่งใน 28 ภูมิภาคทั่วโลก ทั้งนี้ อาลีบาบา คลาวด์ ได้เปิดดาต้าเซ็นเตอร์แห่งแรกในประเทศไทยเมื่อปี 2565

ดาต้าเซ็นเตอร์สองแห่งนี้จะช่วยสนับสนุนให้อาลีบาบา คลาวด์ สามารถให้บริการผลิตภัณฑ์คลาวด์คอมพิวติ้งที่มีความพร้อมใช้สูง มีความสามารถในการสเกลและยืดหยุ่นที่มาพร้อมความสามารถในการกู้คืนระบบจากความเสียหายที่ได้รับการเพิ่มประสิทธิภาพแล้วและปรับให้เหมาะกับภูมิทัศน์ดิจิทัลที่ไดนามิกของประเทศ ในขณะเดียวกันก็ยังคงยึดมั่นในมาตรฐานด้านความปลอดภัยและกฎระเบียบอย่างรัดกุมเข้มงวด

อาลีบาบา คลาวด์ ได้รับการรับรองด้านความปลอดภัยและการปฏิบัติตามกฎระเบียบมากกว่า 140 รายการจากทั่วโลก จึงมั่นใจได้ว่าผลิตภัณฑ์และบริการคลาวด์ที่บริษัทฯ นำเสนอนั้นมีความยืดหยุ่นและมีการป้องกันระดับสูงสุด

ให้การสนับสนุนลูกค้าหลากหลายในประเทศไทย

อาลีบาบา คลาวด์ มีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนธุรกิจไทยหลายภาคส่วน ซึ่งรวมถึงเทคโนโลยี สื่อ ค้าปลีก ฟินเทค และภาครัฐ โซลูชันคลาวด์ที่ปรับขนาดได้ ปลอดภัยและเป็นการสร้างสรรค์ใหม่ของอาลีบาบา คลาวด์ ช่วยเสริมให้องค์กรต่าง ๆ สามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน เร่งการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัล และให้บริการลูกค้าของตนได้ดีขึ้น

ทรู ดิจิทัล กรุ๊ป หนึ่งในธุรกิจหลักของบริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นบริษัทด้านเทคโนโลยีโทรคมนาคมระดับแนวหน้าแห่งหนึ่งของไทย ใช้ประโยชน์จากผลิตภัณฑ์คลาวด์คอมพิวติ้งที่เชื่อถือได้และพิสูจน์ประสิทธิภาพแล้วของอาลีบาบา คลาวด์ โดยเฉพาะเทคโนโลยีด้านฐานข้อมูลและคอนเทนเนอร์ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ความเสถียร และเพิ่มความสามารถในการปรับขนาดการทำงานของแพลตฟอร์มด้านพลังงานของบริษัทฯ

เยลล์ กรุ๊ป บริษัทด้านดิจิทัลครีเอทีฟชั้นนำที่มีสำนักงานใหญ่ในประเทศไทย ร่วมมือกับอาลีบาบา คลาวด์ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้กับ AI-Deate ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มสตอรี่บอร์ดที่ใช้ AI ความร่วมมือนี้มุ่งปฏิวัติเวิร์กโฟลว์เชิงสร้างสรรค์ โดยใช้ Generative AI เสริมศักยภาพให้กับนักสร้างสรรค์ใน 102 ประเทศ ในการพัฒนาแอปพลิเคชันด้วยเทคโนโลยีใหม่ ๆ พร้อมจัดการความท้าทายในการสร้างสมดุลระหว่างการใช้ชีวิตและการทำงานในยุคดิจิทัล

โซลูชันเสริมศักยภาพให้ธุรกิจในประเทศ

โดยที่ผ่านมา อาลีบาบา คลาวด์ มุ่งมั่นเพิ่มขีดความสามารถให้องค์กรธุรกิจในประเทศไทยด้วยการปรับปรุงกลุ่มผลิตภัณฑ์หลากหลาย ซึ่งรวมถึงการประมวลผลแบบยืดหยุ่น (Elastic computing), สตอเรจ, ฐานข้อมูล, ความปลอดภัย, ผลิตภัณฑ์ด้านเน็ตเวิร์ก, การวิเคราะห์ข้อมูล และบริการด้าน AI ต่าง ๆ รวมถึงโซลูชันต่าง ๆ ที่สามารถขจัดความท้าทายให้กับอุตสาหกรรมแต่ละประเภท อาทิ

Cloud-native vector engine ของ AnalyticDB ช่วยให้ธุรกิจไทยโดยเฉพาะฟินเทคและค้าปลีกสร้างโซลูชันที่สามารถดึงข้อมูลองค์ความรู้ที่เกี่ยวข้องได้แบบเรียลไทม์ (Retrieval-augmented generation: RAG) ผ่านแอปพลิเคชันที่เป็นโมเดลภาษาขนาดใหญ่ (LLM) ที่ได้รับการปรับแต่งให้เหมาะสมกับธุรกิจนั้น ๆ ความสามารถดังกล่าวจะช่วยให้บริษัทต่าง ๆ สร้างฐานความรู้เฉพาะของตน และจัดการข้อมูลทั้งที่มีโครงสร้างและไม่มีโครงสร้างในรูปแบบเวกเตอร์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้สามารถพัฒนาแชทบอทที่ตรงตามความต้องการของตน นับเป็นการยกระดับประสบการณ์ลูกค้าได้อย่างมาก

นอกจากนี้ บริษัทฯ ได้เปิดตัว Alibaba Cloud Container Compute Service (ACS) ที่มีคุณสมบัติในการลดความยุ่งยากและเพิ่มประสิทธิภาพให้กับการใช้เวิร์กโหลดด้วยการใช้ Kubernetes เป็นอินเทอร์เฟซ มาพร้อมสภาพแวดล้อมคอนเทนเนอร์ที่ไม่ต้องพึ่งพาเซิร์ฟเวอร์ ACS ช่วยให้ธุรกิจปรับขนาดการทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยการลดความซับซ้อนที่เกี่ยวกับการจัดการโครงสร้างพื้นฐานให้เหลือน้อยที่สุด เพื่อให้บุคลากรสามารถโฟกัสงานที่เป็นนวัตกรรมได้ ทั้งยังจัดการค่าใช้จ่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพ

อาลีบาบา คลาวด์ นำเสนอโซลูชันหลากหลายที่ปรับให้เหมาะเฉพาะกับแต่ละอุตสาหกรรมและความต้องการของลูกค้าที่ใช้ดิจิทัลเป็นพื้นฐานในหลายภาคส่วน เช่น ฟินเทค ค้าปลีก และบริการสาธารณะ โซลูชันเหล่านี้ประกอบด้วย Workspace Elastic Desktop Service (EDS), โซลูชัน eKYC ต่าง ๆ, สมรรถนะในการพัฒนา SuperApp และโซลูชันด้านความยั่งยืนที่ขับเคลื่อนด้วย AI

เสริมศักยภาพระบบนิเวศและความสามารถด้านดิจิทัลให้กับประเทศ

อาลีบาบา คลาวด์ ดูแลระบบนิเวศในไทยอย่างเข้มแข็ง ด้วยการร่วมมือกับพันธมิตรในประเทศประมาณ 70 ราย ในจำนวนนี้รวมถึง Cloud HM, Kaopanwa, Softdebut, Thai Data Cloud และ True IDC เพื่อเสริมศักยภาพให้กับการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลของธุรกิจทั่วประเทศไทย

นอกจากนี้ มุ่งมั่นส่งเสริมผู้มีความสามารถด้านดิจิทัลผ่านความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยต่าง ๆ ของไทย เช่น จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ และมหาวิทยาลัยกรุงเทพ โดยนำเสนอเวิร์กช็อปและหลักสูตรคลาวด์คอมพิวติ้งและ generative AI ที่มีการให้การรับรองเมื่อผ่านหลักสูตร

เมื่อปลายปี 2566 อาลีบาบา คลาวด์ ได้เปิดตัว Global skills center แห่งแรกที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยให้บริการหลักสูตรฝึกอบรม บูธแคมป์ การแข่งขันด้าน AI และโปรแกรมพัฒนาความเป็นผู้นำ โดยไม่มีค่าใช้จ่าย โครงการเหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามอย่างต่อเนื่องของอาลีบาบา คลาวด์ ในการเพิ่มประสิทธิภาพทรัพยากรทางการศึกษาและส่งเสริมแลนด์สเคปดิจิทัลที่รุ่งเรืองผ่านความร่วมมือกับสถาบันในประเทศต่าง ๆ

ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ -   


เราใช้คุ้กกี้

เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น

อ่านเพิ่มเติมคลิก(Privacy Policy) และ (Cookie Policy)