Amazon รายงานผลประกอบการและรายได้ไตรมาสที่ 4 ปี 2024 เติบโตดีกว่าที่คาดการณ์ไว้ แต่แนวโน้มไตรมาสปัจจุบันน่าผิดหวัง คาดว่าการเติบโตของรายได้ในไตรมาสแรกของปี 2025 จะอยู่ระหว่าง 5% ถึง 9% ซึ่งจะเป็นการเติบโตที่ช้าที่สุดเป็นประวัติการณ์ตั้งแต่ Amazon เข้าสู่ตลาดหุ้นในปี 1997
พร้อมกันนี้ Andy Jassy ซีอีโอคนปัจจุบันของ Amazon ยังออกมาเผยแผนการลงทุน เตรียมงบประมาณอีก 100,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ คาดว่าส่วนใหญ่จะใช้ลงทุนในด้าน AI โดยเฉพาะ ซึ่งเป็นยอดที่สูงกว่าปี 2024 ที่ผ่านมา ซึ่งอยู่ที่ 83,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
และจากการประกาศคาดการณ์รายได้ไตรมาสแรกของปีนี้ ตลอดจนแผนลงทุน AI ส่งผลให้หุ้นบริษัทร่วงลงกว่า 5% ในการซื้อขายนอกเวลาทำการของวันที่ 6 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
จากรายงานผลประกอบการเทียบกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ พบว่า
รายได้ของ Amazon เพิ่มขึ้น 10% จาก 170,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐในช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่กำไรสุทธิของบริษัทเพิ่มขึ้นเกือบ 2 เท่าเป็น 20,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 1.86 ดอลลาร์ต่อหุ้น เทียบกับ 10,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐหรือ 1 ดอลลาร์สหรัฐต่อหุ้นในปีก่อนหน้า
นอกจากนี้ รายได้ของ Amazon Web Services (AWS) อยู่ที่ 28,800 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ตรงกับที่คาดการณ์ไว้จาก StreetAccount ในขณะที่รายได้จากโฆษณา (Advertising) แม้จะเพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า 18% อยู่ที่ 17,300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ แต่ยังต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้โดย StreetAccount ที่ 17,400 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
ทาง Amazon ได้มีการคาดการณ์รายได้ในไตรมาสปัจจุบันว่าจะอยู่ระหว่าง 151,000 ถึง 155,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 158,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
ทั้งนี้ บริษัทระบุว่า แนวโน้มรายได้ที่ลดลงส่วนหนึ่งเกิดจากผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยนที่ไม่เป็นใจ ค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปลายเดือนพฤศจิกายนถึงกลางเดือนมกราคม และอ่อนค่าลงเล็กน้อยในช่วงหลัง
และจากแนวโน้มที่บริษัทคาดการณ์ไว้ Amazon คาดว่าการเติบโตของรายได้ในไตรมาสแรกปีนี้ จะอยู่ระหว่าง 5% ถึง 9% หากรายได้อยู่ที่ระดับต่ำสุดของที่คาดการณ์ไว้ ซึ่งจะเป็นการเติบโตที่ช้าที่สุดเป็นประวัติการณ์ตั้งแต่ Amazon เข้าสู่ตลาดหุ้นในปี 1997
อย่างไรก็ตาม Amazon สามารถเพิ่มอัตรากำไรจากการดำเนินงานได้โดยการลดค่าใช้จ่ายและอาศัยความแข็งแกร่งของธุรกิจคลาวด์ที่มีอัตรากำไรสูง โดยอัตรากำไรจากการดำเนินงานเพิ่มขึ้นเป็น 11.3% ในไตรมาสสุดท้ายปี 2024 เทียบกับ 11% ในไตรมาสก่อนหน้า และ 7.8% ในไตรมาสที่ 4 ปี 2023
โดยรายได้จาก AWS เพิ่มขึ้น 19% ในไตรมาสนี้ เทียบกับการเติบโต 13% ในช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่ก็ยังเติบโตช้ากว่าคู่แข่ง อย่างเช่น Microsoft Azure และบริการคลาวด์อื่น ๆ ที่มีรายได้เพิ่มขึ้น 31% และ Google Cloud ที่มีรายได้เพิ่มขึ้น 30%
ที่ผ่านมาในไตรมาสที่ 4 ของปี 2024 พบว่า ค่าใช้จ่ายลงทุน (Capital Expenditures) ของ Amazon อยู่ที่ 27,800 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือเพิ่มขึ้นจาก 14,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปีก่อน
Amazon ได้ทุ่มเงินจำนวนมากไปกับ Data Centers และฮาร์ดแวร์ อย่างชิปของ Nvidia เพื่อเสริมความแข็งแกร่งของธุรกิจ AI โดยการลงทุนนี้เป็นการตอบสนองต่อการแข่งขันที่รุนแรงขึ้นในตลาด Generative AI โดยเฉพาะจาก OpenAI, Google Gemini, Microsoft Copilot และ AI Startup อย่าง Anthropic ที่ Amazon เป็นหนึ่งในผู้ลงทุน
Brian Olsavsky, CFO ของ Amazon กล่าวว่า บริษัทคาดว่าจะเพิ่มเงินลงทุนเป็น 100,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2025 จากเดิมที่ใช้จ่ายประมาณ 83,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2024 โดยงบลงทุนที่เพิ่มขึ้นจะมุ่งเน้นไปที่ AWS และบริการด้าน AI รวมถึงโครงสร้างพื้นฐานด้านเทคโนโลยีในตลาดอเมริกาและต่างประเทศ
ก่อนหน้านี้ Andy Jassy เคยคาดการณ์ไว้ตั้งแต่เดือนตุลาคมแล้วว่า ค่าใช้จ่ายในการลงทุนของบริษัทในปี 2025 จะสูงกว่าปีที่ผ่านมา โดยมี Generative AI เป็นปัจจัยขับเคลื่อนหลัก
นอกจาก Amazon แล้ว บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่เจ้าอื่น ๆ ก็กำลังใช้เงินลงทุนจำนวนมหาศาลใน AI เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น
เงินลงทุนจำนวนมหาศาลก้อนนี้ ยังเป็นการตอกย้ำในความกังวลของนักลงทุนถึงความเฟ้อของงบที่จะลงเพื่อพัฒนา AI ที่ทั้งตลาดยังเริ่มตั้งคำถามด้วยว่าการใช้จ่ายด้าน AI จะคุ้มค่าหรือไม่ หลังจากความสำเร็จของ DeepSeek ในจีน
ติดตามเพจ Facebook: Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ - https://www.facebook.com/ThairathMoney