5 ยักษ์ใหญ่เจ้าของ Cloud ใช้เงินเยอะขนาดไหนกับการลงทุนด้าน AI?

ปฏิเสธไม่ได้ถึงการเติบโตของเทคโนโลยีล้ำสมัยอย่าง AI ที่หลายองค์กรให้ความสำคัญนำมาบูรณาการเพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการของตัวเอง ซึ่งเป็นการเน้นย้ำให้เหล่าบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ของโลกเร่งลงทุนในเทคโนโลยีนี้

โดยมีคาดการณ์ว่า การลงทุนด้าน AI ของผู้เล่นระดับ Hyperscalers เจ้าของ Cloud อย่าง Google, Amazon (AWS), Meta, Microsoft และ Oracle พุ่งสูงต่อเนื่อง มีแนวโน้มแตะ 249,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2026

แผนภูมิแสดงให้เห็นถึงการลงทุนของบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำ หรือที่เรียกว่า AI Hyperscalers ได้แก่ Alphabet, Amazon (AWS), Meta, Microsoft และ Oracle ตั้งแต่ปี 2014 จนถึงคาดการณ์ในปี 2026 โดยตัวเลขนี้สะท้อนให้เห็นถึงแนวโน้มการขยายตัวของโครงสร้างพื้นฐานด้าน AI และคลาวด์คอมพิวติ้งอย่างต่อเนื่อง

ยอดการใช้จ่ายด้าน AI ของบริษัทเหล่านี้มีการเติบโตแบบก้าวกระโดด จากระดับต่ำกว่า 10,000 ล้านดอลลาร์ต่อปีในช่วงปี 2004-2012 เพิ่มขึ้นเป็น 40,000 ล้านดอลลาร์ในปี 2016 และทะลุ 100,000 ล้านดอลลาร์ในปี 2021

โดยในปี 2022 มีการใช้จ่ายสูงถึง 123,000 ล้านดอลลาร์ และเพิ่มขึ้นเป็น 126,000 ล้านดอลลาร์ในปี 2023 แม้ว่าจะมีการชะลอตัวเล็กน้อยเมื่อเทียบกับอัตราการเติบโตในปีก่อนหน้า แต่คาดว่าในปี 2024 เป็นต้นไป การใช้จ่ายจะพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยในปี 2026 อาจแตะระดับ 249,000 ล้านดอลลาร์ ซึ่งมากกว่าตัวเลขของปี 2023 ถึงเกือบสองเท่า

ยอดเงินลงทุนมีการเพิ่มสูงขึ้นอย่างก้าวกระโดดตั้งแต่ปี 2024 เป็นต้นมา โดยในปี 2024 ทาง Amazon มีการใช้จ่ายเงินทุนสูงสุดในกลุ่ม AI Hyperscalers โดยคาดว่าจะใช้จ่ายประมาณ 75,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นจาก 48,400 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปีก่อน

และในปี 2025 นี้ Microsoft คาดว่าจะใช้จ่ายกว่า 80,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพียงแค่ในส่วนของ Data Center เท่านั้น

สาเหตุของการลงทุนที่เพิ่มขึ้น มีผลมาจากการเติบโตของ AI และ Machine Learning ที่บิ๊กเทคกำลังเร่งลงทุนเพื่อพัฒนาและขยายโครงสร้างพื้นฐานสำหรับการประมวลผล AI ซึ่งต้องการ Data Center และฮาร์ดแวร์ที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น ทั้ง GPU และ TPU

ตลอดจนบิ๊กเทคบางเจ้ามีการพัฒนาชิปและเซิร์ฟเวอร์เฉพาะทางบริษัทใช้เอง อย่าง Microsoft และ Google ที่กำลังพัฒนาชิปของตนเองเพื่อรองรับงานด้าน AI ซึ่งต้องใช้เงินลงทุนด้านวิจัยและโครงสร้างพื้นฐานเป็นจำนวนมาก

นอกจากนี้ ยังมีเรื่องของความต้องการในการใช้ Cloud Computing ที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้ Amazon AWS, Microsoft Azure และ Google Cloud ต่างแข่งขันกันขยายศูนย์ข้อมูลเพื่อรองรับความต้องการของลูกค้ากลุ่มธุรกิจที่ต้องการใช้ระบบคลาวด์มากขึ้น

ขณะเดียวกัน Metaverse และเทคโนโลยีเสมือนจริงที่ยังคงได้รับความนิยม ทำให้ Meta ซึ่งเป็นหนึ่งในบริษัทที่ทุ่มงบประมาณมหาศาลเพื่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานสำหรับ Metaverse และต้องใช้พลังประมวลผลสูงมาก จึงลงทุนด้าน Data Infrastructure มากขึ้นด้วย

ที่มา: J.P.Morgan Asset Management

ติดตามเพจ Facebook: Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ - https://www.facebook.com/ThairathMoney