ทำความรู้จัก "DeepSeek" สตาร์ทอัพสัญชาติจีน ผู้พัฒนาโมเดล AI ส่งผลให้คนในแวดวงเทคโนโลยีออกมาแสดงความคิดเห็นอย่างล้นหลามเกี่ยวกับความสำเร็จของบริษัทนี้และผลกระทบต่อสถานะของ AI ในปัจจุบัน
เมื่อประมาณ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา มีเครื่องมือ AI ตัวหนึ่งได้กลายเป็นที่พูดถึงอย่างมาก โดยเฉพาะในสหรัฐอเมริกา ซึ่งแพลตฟอร์มดังกล่าวมีชื่อว่า “DeepSeek” สตาร์ทอัพสัญชาติจีน ผู้พัฒนาโมเดล AI ส่งผลให้คนในแวดวงเทคโนโลยีออกมาแสดงความคิดเห็นอย่างล้นหลามเกี่ยวกับความสำเร็จของบริษัทนี้และผลกระทบต่อสถานะของ AI ในปัจจุบัน
DeepSeek คือบริษัทสตาร์ทอัพของจีน ก่อตั้งโดย Liang Wenfeng ผู้จัดการกองทุนเฮดจ์ฟันด์และเป็นบุคคลสำคัญในวงการ AI ของจีน ได้ทำการเปิดตัว DeepSeek เมื่อเดือนพฤษภาคม 2023 โดยผลิตภัณฑ์ที่เปิดตัวออกมาแล้วได้รับการพูดถึงอย่างมาก คือ โมเดล R1 ซึ่งเน้นด้านงานที่เกี่ยวข้องกับการให้เหตุผล (Reasoning Tasks) และเป็นคู่แข่งสำคัญของโมเดล o1 ของ OpenAI
อย่างไรก็ตาม แม้ DeepSeek จะประสบความสำเร็จในระยะเวลาอันสั้น แต่บริษัทยังคงมุ่งเน้นด้านการวิจัยเป็นหลัก และยังไม่มีแผนการเชิงพาณิชย์ในวงกว้างในอนาคตอันใกล้ นอกจากนี้ DeepSeek ยังได้ขึ้นแท่นเป็นแอปฯ ฟรีที่มียอดดาวน์โหลดสูงสุดในสหรัฐอเมริกาบน iOS แซงหน้า ChatGPT อีกด้วย
DeepSeek อ้างว่า โมเดลที่ออกแบบมามีต้นทุนในการพัฒนาที่ต่ำกว่าโมเดลของเจ้าอื่น ๆ โดยมีต้นทุนที่ราว 5.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และหากเทียบกับเจ้าอื่นที่ใช้หลายร้อยล้านดอลลาร์สหรัฐ ต้นทุนของ DeepSeek จึงต่ำมาก
DeepSeek มีข้อได้เปรียบตรงที่มีงานวิจัยของตัวเองและยังมี Open-Source อย่างเช่น PyTorch และ Llama จาก Meta อีกด้วย
นอกจากนี้ Liang Wenfeng ก็ได้กลายเป็นจุดศูนย์กลางของความภาคภูมิใจของชาติจีน โดยในปี 2021 ทาง Liang ได้เริ่มซื้อหน่วยประมวลผลกราฟิกของ Nvidia จำนวนมากเพื่อใช้ในโครงการ AI ควบคู่กับการบริหารกองทุน High-Flyer โดยในช่วงแรกเขายังออกแบบอัลกอริทึมที่ใช้วิเคราะห์กราฟหุ้น และต่อมาก็ได้ตั้งเป้าหมายในการพัฒนา AI ที่ฉลาดระดับเทียบเท่ามนุษย์
ที่มา: TechCrunch, FT, WSJ
ติดตามเพจ Facebook: Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ - https://www.facebook.com/ThairathMoney