เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ภาพของ Masayoshi Son ซีอีโอของ SoftBank ที่ขึ้นกล่าวบนเวทีสนับสนุนโดนัลด์ ทรัมป์ ณ Mar-a-Lago พร้อมกับประกาศว่า SoftBank พร้อมจะทุ่มกว่า 100,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ภายใน 4 ปีนี้ เพื่อลงทุนพัฒนาเทคโนโลยีด้าน AI และสร้างงานในสหรัฐฯ อีกกว่าแสนงาน
แต่แผนของ Son ไม่ได้จะหยุดแค่นี้ ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา เขากำลังวางแผนเพื่อสร้างชิปของตัวเองสำหรับพัฒนา AI โดยมีเป้าหมายที่จะสร้างบริษัทที่สามารถแข่งขันกับ Nvidia ที่กำลังเป็นผู้นำในตลาดชิปที่ใช้สำหรับฝึกโมเดล AI
โดยกลยุทธ์หลักของการขึ้นมาเป็นผู้นำในด้านชิป AI คือการเตรียมพร้อมเปิดตัวชิปที่ผลิตเองให้ทันภายในปี 2026 ผู้ที่เกี่ยวข้องกับแผนการนี้กล่าวว่า Son ต้องการที่จะลงทุนในหลาย ๆ ด้าน ประกอบไปด้วย ด้านการผลิตชิป, พลังงาน, และเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้อง โดย Arm ซึ่งเป็นบริษัทที่ SoftBank ถือหุ้นกว่า 90% จะมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาเทคโนโลยีดังกล่าว
นอกจากนี้ ยังมีแผนที่จะพา Arm ไปจับมือเป็นพาร์ทเนอร์ร่วมมือกับ Taiwan Semiconductor Manufacturing Co. หรือ TSMC ในการผลิตชิป เขายังมีแผนใช้งานเทคโนโลยีจากบริษัท Graphcore ที่ SoftBank เพิ่งเข้าซื้อกิจการมา เพื่อช่วยออกแบบหน่วยประมวลผลขนาดใหญ่สำหรับเร่งประสิทธิภาพของซอฟต์แวร์ AI ตลอดจนพัฒนาความสัมพันธ์กับ Intel อีกด้วย
และจากข้อมูลของ Business Insider พบว่า SoftBank ได้แบ่งการลงทุนใน AI ออกเป็น 3 ส่วนที่แตกต่างกัน ได้แก่
ในส่วนของ 2 ขั้นแรก SoftBank ได้ตั้งกองทุน Vision Fund 1 กว่า 100,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ พร้อมกับได้รับการสนับสนุนจากกองทุนความมั่งคั่งของรัฐบาลตะวันออกกลาง ต่อมาก็มี Vision Fund 2 โดยได้ลงทุนทั้งใน OpenAI จำนวนกว่า 1,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และลงใน Perplexity อีกกว่า 3,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
นอกจากนี้ เขายังรุกลงทุนด้านฮาร์ดแวร์ต่อเนื่อง โดยเมื่อปี 2023 ด้วยการนำ Arm กลับเข้าสู่ตลาด Nasdaq อีกครั้งในช่วงเดือนกันยายน ซึ่ง Arm เป็นบริษัทที่ SoftBank เข้าลงทุนตั้งแต่ปี 2016 และปัจจุบันถือหุ้นอยู่กว่า 90%
แผนการนี้ของ Masayoshi Son ตลอดจนการเข้าหนุนหลังให้ทรัมป์ เป็นการพัฒนาธุรกิจที่เน้นการสร้างซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์ที่เกี่ยวข้องกับ AI ซึ่งจะช่วยสร้างอนาคตของเทคโนโลยี AI และทำให้ SoftBank กลับมายืนอยู่ในจุดที่สูงที่สุดในวงการเทคโนโลยีอีกครั้ง
ที่มา: Bloomberg, Business Insider, CNBC