“ค่าข้าวแพง แซงรายได้ประเทศ” ซีอีโอ LINE MAN Wongnai เผยแพลตฟอร์มฟู้ดเดลิเวอรี่ โตสวนทางเศรษฐกิจ

Date Time: 15 ธ.ค. 2567 00:45 น.

Summary

ยอด ชินสุภัคกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร LINE MAN Wongnai เผย LINE MAN Wongnai โตเร็วกว่าตลาดฟู้ดเดลิเวอรี่โดยรวมและโตเร็วกว่า GDP ของประเทศ พร้อมฉายภาพตลาดฟู้ดเดลิเวอรี่มูลค่า 1.2 แสนล้านบาท ไทยยังมีพื้นที่ให้เติบโตอีกมาก ปีนี้สภาพตลาดจะคัดผู้เล่น จากผู้เล่นห้าถึงหกรายจะเหลือเพียงสองถึงสามรายใหญ่ ตลาดจะเริ่มเห็นภาพชัดเจนขึ้นว่าใครจะยังอยู่รอด

“ภาพรวมในปีนี้ตลาดฟู้ดเดลิเวอรี่ยังโตต่อเนื่อง อ้างอิงข้อมูลจากรายงานของ Google TH SEA eConomy 2024 ระบุว่า มูลค่าตลาดในปีนี้โต 7% อยู่ที่ราว 120,000 ล้านบาทจากปีก่อน ขณะที่ LINE MAN Wongnai มีมูลค่าการทำธุรกรรมเติบโต อยู่ที่ 35% จากเดือนมกราคม 2023 - ตุลาคม 2024 โดยในส่วนธุรกิจ Wongnai POS ยังคงเป็นอันดับหนึ่งในตลาด ด้วยจำนวนผู้ใช้ปัจจุบันที่ 55,000 ราย”

ยอด ชินสุภัคกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร LINE MAN Wongnai เปิดเผยว่า ปัจจุบัน LINE MAN Wongnai มีส่วนแบ่งการตลาดฟู้ดเดลิเวอรี่ที่นำมาเป็นอันดับหนึ่งหากวัดจากจำนวนธุรกรรมรายวันรวมทั้งปี มีจำนวนผู้ใช้ต่อเดือนมากกว่า 10 ล้านราย จำนวนพาร์ทเนอร์ร้านค้ามากกว่า 500,000 รายและจำนวนไรเดอร์ทั่วประเทศมากกว่า 100,000 ราย โดย LINE MAN Wongnai มีการเติบโตเร็วกว่าตลาดฟู้ดเดลิเวอรี่โดยรวมและโตเร็วกว่า GDP ของประเทศ

พร้อมเผยถึงความมั่นใจว่า LINE MAN Wongnai ยังเป็น Top Player ในตลาดฟู้ดเดลิเวอรี่ และไทยยังมีพื้นที่ทำตลาดอีกมาก จากการเติบโตของเทคโนโลยีและจำนวนผู้ใช้งานฟู้ดเดลิเวอรี่มีแต่จะเพิ่มขึ้น ได้แก่ กลุ่มคนรุ่นใหม่ที่เข้ามาใช้ตลอดเวลา โดยเฉพาะกลุ่มวัยเรียน กลุ่มเด็กจบใหม่และกลุ่มเด็กที่กำลังเข้าสู่การทำงาน โดยพบว่ากลุ่มผู้ใช้อายุ 15-18 ปีที่มียอดเข้ามาใช้งานเพิ่มขึ้นทุกปี ขณะที่มูลค่าสั่งซื้อต่อบิลยังเพิ่มขึ้นทุกปีเฉลี่ยอยู่ที่ 5-10% ต่อปีจากปัจจัยของราคาอาหารที่ปฏิเสธไม่ได้ว่าราคาอาหารเพิ่มขึ้นเร็วกว่ารายได้ของคน

“สำหรับภาพรวมการแข่งขันของธุรกิจในไทย เรียกได้ว่าเป็น ‘ปีแห่งความจริง’ กล่าวคือ สภาพตลาดที่เปลี่ยนแปลงตามพฤติกรรมผู้บริโภคหลังโควิดมีความท้าทายมากขึ้น ลักษณะของตลาดที่มีความเป็นวอลลุ่มค่อนข้างสูง เพราะธุรกิจต้องการ Economy of scale ต้องการจำนวนธุรกรรมในสัดส่วนขนาดที่ค่อนสูงเพื่อทำให้ธุรกิจดำเนินการต่อได้ ทำให้ผู้ให้บริการต้องปรับตัว ผู้เล่นรายเล็กอาจจะเจอปัญหา สุดท้ายจากผู้เล่นห้าถึงหกรายตอนนี้จะเหลือเพียงแค่สองถึงสามรายใหญ่ในระยะยาว ตลาดจะเริ่มเห็นภาพชัดเจนขึ้นว่าใครจะยังอยู่ ปีโดยเฉพาะปีถัดไปจะยิ่งชัดเจนมากขึ้น”

บทความที่เกี่ยวข้อง

การพัฒนาฟีเจอร์ใหม่ ๆ ยังคงยึดถือเรื่อง pain point ของผู้ใช้ โดยช่วงที่ผ่านมา LINE MAN Wongnai พัฒนาฟีเจอร์สำหรับฟู้ดเดลิเวอรี่ใหม่ ๆ เพื่อตอบโจทย์การใช้งานส่วนบุคคลที่มีพฤติกรรมและความต้องการแตกต่างกัน อาทิ ตัวเลือกการจัดส่งแบบ “Direct-to-you” ส่งตรงทันใจสำหรับการจัดส่งที่ต้องการความรวดเร็ว การจัดส่งแบบ “Normal” หรือ “Low-cost” จัดส่งแบบราคาที่ถูกลงมาสำหรับลูกค้าที่สามารถรอได้ โดยหลังจากเปิดตัวมาครึ่งปีพบ ผู้ใช้กว่า 25% ของออเดอร์หันมาเลือกจัดส่งแบบ Direct-to-you หรือ Low-cost รวมถึงฟีเจอร์สั่งหนึ่งได้สองหรือ “Multiple pick-up” เพื่อตอบโจทย์การสั่งออเดอร์จากหลายร้านในบริเวณเดียว โดยหลังจากปล่อยออกมาได้ประมาณหนึ่งปี พบ 50% ของผู้ใช้ใช้ฟีเจอร์นี้สั่งร้านที่สองระหว่างทาง

สำหรับปีหน้ายังมีฟีเจอร์ที่กำลังพัฒนารอที่จะเปิดตัว เช่น ฟีเจอร์ที่เกี่ยวกับการเพิ่มประสิทธิภาพให้กับพาร์ทเนอร์บนแพลตฟอร์ม ฟีเจอร์เกี่ยวกับโลจิสติกส์ และการเชื่อมต่อกับ Wongnai POS มากขึ้น รวมถึงการสนับสนุนการใช้งาน LINE Pay wallet และผสานระบบชำระเงินที่มีให้เกิดประโยชน์กับผู้ใช้มากที่สุด

ยอด กล่าวเพิ่มเติมถึงเป้าหมายในการพัฒนาเทคโนโลยีชำระเงินที่ตั้งใจเพิ่มจุดรับชำระเงินของตนเองให้ได้ถึง 100,000 จุด โดยล่าสุดได้เปิดตัว “เครื่อง EDC” อุปกรณ์รับชำระเงินแบบใหม่ที่เชื่อมต่อกับ Wongnai POS รองรับการชำระเงินทั้งบัตรเครดิต คิวอาร์โค้ด และไลน์เพย์ ซึ่งได้เปิดตัวออกมาหลังจากเข้าซื้อกิจการ Rabbit LINE Pay (RLP) หนึ่งในผู้ให้บริการระบบชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์รายใหญ่ในไทยเพื่อเชื่อมต่อการทำธุรกรรมทางการเงินในระบบนิเวศในปีที่ผ่านมา

นอกจากนี้ ยอด กล่าวถึงแนวโน้มความสนใจลงทุนแพลตฟอร์มฟู้ดเดลิเวอรี่ในไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในปีนี้และปีหน้ายังเป็นจุดที่ท้าทาย โดยเฉพาะบริษัทหรือสตาร์ทอัพระยะแรกที่ถูกมองว่าเสี่ยงที่จะลงทุน ช่วงสองปีที่ผ่านมานักลงทุนหันไปลงทุนในตลาดที่มีโอกาสเติบโตและให้ผลตอบแทนได้มากกว่าอย่างสหรัฐอเมริกาที่เติบโตสูงกว่าและขณะเดียวกันที่บริษัทขนาดใหญ่มักจะหันไปพึ่งแหล่งเงินทุนที่เป็น Public Market มากกว่า

“ความเป็นไปได้ในการควบรวมกิจการหรือสร้างพาร์ทเนอร์ทางธุรกิจเพื่อขยายการเติบโตใหม่ ๆ ยังเป็นกลยุทธ์สำคัญ โดยมองว่าไม่จำเป็นต้องอยู่ในธุรกิจหรืออุตสาหกรรมเดียวกัน เช่น การ M&A กับ Rabbit LINE Pay ทำให้ LINE MAN Wongnai เข้าไปอยู่ในอุตสาหกรรมฟินเทคได้ อย่างไรก็ตามโอกาสในการควบรวมกับผู้เล่นที่อยู่ในอุตสาหกรรมเดียวกันเป็นไปได้ยาก”

สำหรับ LINE MAN Wongnai ได้ตั้งเป้าหมายที่จะ IPO เร็วสุดภายในปี 2025 หลังจากผ่านการระดมทุนครั้งล่าสุดในปี 2023 ซึ่งทำให้บริษัทมีมูลค่าพุ่งแตะ 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐหรือราว 3.7 หมื่นล้านบาทขึ้นแท่นยูนิคอร์นตัวใหม่ของประเทศไทยพ่วงสถานะบริษัทเทคโนโลยีไทยที่ใหญ่ที่สุดในขณะนี้

ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ -   


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ