คณะผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์สหรัฐฯ ปฏิเสธข้อโต้แย้งของ TikTok หลังยืนกรานสู้คดีต่อ โดยศาลเห็นสมควรดำเนินการพิจารณาต่อ สืบเนื่องจากคำกล่าวอ้างของทางการสหรัฐฯ ว่าแอปฯ จีนรายนี้เป็น 'ภัยคุกคาม' ที่จะส่งผลต่อความมั่นคงแห่งชาติและไม่นับเป็นการละเมิดรัฐธรรมนูญสหรัฐฯ ตามการกล่าวอ้างของ TikTok
ความพยายามล่าสุดของรัฐบาลสหรัฐฯ ในการยับยั้งขอบเขตการให้บริการของ TikTok ในสหรัฐฯ อยู่ในขั้นตอนการพิจารณาที่ขั้นอุทธรณ์ หลังจาก TikTok ปฏิเสธคำตัดสินขั้นต้นในเดือนพฤษภาคมโดยกล่าวอ้างว่าคำตัดสินของศาลนับเป็นการละเมิดเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นของชาวอเมริกันกว่า 170 ล้านคนที่ใช้งาน TikTok อยู่ในปัจจุบัน พร้อมปฏิเสธว่ารัฐบาลจีนไม่ได้มีส่วนในการควบคุมแอปใดๆ หรือไม่ได้ส่งมอบข้อมูลใดๆ ให้กับรัฐบาลในปักกิ่ง
โดยก่อนหน้านี้ในเดือนเมษายน สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ และอดีตประธานาธิบดีโจ ไบเดนลงนามผ่านร่างกฎหมาย “ปกป้องชาวอเมริกันจากแอปพลิเคชันที่ควบคุมโดยปรปักษ์ต่างชาติ” (Protecting Americans from Foreign Adversary Controlled Applications Act)
ซึ่งกำหนดให้ ByteDance บริษัทแม่ของ TikTok ในจีนมีเวลา 6 เดือนในการขายหุ้น TikTok ให้กับผู้ซื้ออเมริกันเพื่อเปลี่ยนความเป็นเจ้าของให้กับเจ้าของใหม่ที่ไม่ใช่ชาวจีน สืบเนื่องจากเหตุผลเรื่องความมั่นคงของชาติ โดยอ้างถึงความกังวลว่า TikTok มีส่วนทำให้รัฐบาลจีนสามารถเข้าถึงข้อมูลหรือสอดแนมชาวอเมริกันรวมถึงการบังคับให้บริษัทใช้อัลกอริทึมของแพลตฟอร์มเพื่อเผยแพร่โฆษณาชวนเชื่อ
กล่าวคือ ByteDance มีเวลาถึงวันที่ 19 มกราคม ปี 2025 หรืออาจขยายระยะเวลาออกไปได้อีก 3 เดือนเพื่อให้ข้อตกลงต่างๆ ได้รับการสรุป ไม่เช่นนั้น TikTok จะถูกถอดออกจากแอปสโตร์หรือบริการเว็บโฮสติ้ง ทำให้แอปพลิเคชันนี้ไม่สามารถดาวน์โหลดได้ในสหรัฐฯ หากไม่ยอมขายกิจการภายในกำหนดหรือในกรณีที่เลวร้ายที่สุด คือ แอปฯ TikTok อาจปิดตัวลงในสหรัฐฯ
ทั้งนี้การพิจารณาคดีอาจถูกยื่นอุทธรณ์ต่อศาลฎีกาก่อนที่การห้ามจะมีผลในต้นปีหน้า ซึ่งหาก TikTok แพ้คดีในครั้งนี้รวมถึงไม่ดำเนินการแยกกิจการออกจาก ByteDance ได้สำเร็จ การแบนอาจมีผลบังคับใช้หนึ่งวันก่อนที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์จะเข้ารับตำแหน่ง แม้ว่าก่อนหน้านี้จะมีจุดยืนในการแบน TikTok ในช่วงดำรงตำแหน่งก่อนหน้าในช่วงปี 2020 แต่ปัจจุบันได้เปลี่ยนจุดยืนว่าเขาไม่เห็นด้วยกับการบังคับให้ขาย TikTok เพราะจะช่วยเปิดทางให้กับโซเชียลมีเดียรายอื่น อย่าง Meta ที่แบนบัญชีผู้ใช้ของเขาออกจากแพลตฟอร์มในปีที่แล้ว
ความเคลื่อนไหวครั้งนี้ทำให้คำสั่งในการบีบให้ขาย TikTok ในสหรัฐฯ ดำเนินต่อไป อย่างไรก็ตามในด้านของ ByteDance ยืนกรานแน่ชัดว่าจะไม่มีการขายธุรกิจ TikTok ของสหรัฐอเมริกา โดยอ้างว่าเป็นการยากที่จะขาย TikTok ไปพร้อมกับอัลกอริทึม เนื่องจากเป็นทรัพย์สินทางปัญญาที่จดทะเบียนภายใต้ ByteDance ในจีน และยากที่จะแยกออกจากบริษัทแม่ ซึ่งไม่มีแนวโน้มที่บริษัทจะพิจารณาตัวเลือกดังกล่าวจากความซับซ้อนที่อาจเกิดขึ้น
บทความที่เกี่ยวข้อง
ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ -