รายงานพบว่าในปีนี้โมเดลพื้นฐาน ได้แก่ ChatGPT ของ OpenAI, Claude ของ Anthropic, และ Gemini ของ Google ยังคงครองส่วนแบ่งการใช้จ่ายขององค์กร อย่างไรก็ตามมีการเปลี่ยนแปลงในแง่ของสัดส่วนตลาดที่พบว่า OpenAI กำลังเสียส่วนแบ่งทางการตลาด AI เชิงองค์กร (AI Enterprise) จาก 50% เหลือ 34% ให้กับ Anthropic ที่มีส่วนแบ่งการตลาดที่เพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าจาก 12% เป็น 24% จากความนิยมของโมเดล Claude 3.5 ที่ฮิตขึ้นเรื่อยๆ ในหมู่นักพัฒนา
โมเดล Claude 3.5 ซึ่งมีโมเดลที่เปิดให้ใช้งานด้วยกัน 3 แบบซึ่งมีขนาดและคุณลักษณะแตกต่างกัน ความหลากหลายทำให้ Claude 3.5 ของ Anthropic ได้รับความนิยมขึ้นอย่างต่อเนื่องในปีนี้ โดยรายงานพบข้อมูลที่น่าสนใจว่า องค์กรบางแห่งเปลี่ยนจาก GPT-4 มาใช้ Claude 3.5 Sonnet โมเดลขนาดกลางที่เหมาะกับงานขององค์กรธุรกิจ
บทความที่เกี่ยวข้อง
ทั้งนี้ผู้ใช้ที่ร่วมให้ข้อมูล ระบุว่า ในการทำงานจริงพวกเขาใช้โมเดลหลายตัวสลับไปมา โดยเฉพาะอย่างยิ่ง นักพัฒนา ซึ่งรู้ว่าควรเลือกโมเดลใดที่เหมาะกับการใช้งานของพวกเขามากที่สุด รายงานระบุว่าแทนที่จะพึ่งพาผู้ให้บริการรายเดียว องค์กรต่างๆ ใช้แนวทางแบบหลายโมเดลที่ใช้งานได้จริง โดยปกติแล้วองค์กรต่างๆ จะใช้โมเดลพื้นฐานประมาณสามโมเดลขึ้นไปในชุด AI ของตนขึ้นอยู่กับกรณีการใช้งานหรือผลลัพธ์
นอกจากนี้ข้อมูลจาก “2024: The State of Generative AI in the Enterprise” ที่ได้เก็บข้อมูลจากผู้บริหารองค์กรธุรกิจด้าน IT ที่มีอำนาจในการตัดสินใจจำนวน 600 รายในสหรัฐอเมริกาเกี่ยวกับการใช้งาน Generative AI เพื่อสำรวจภูมิทัศน์ในช่วงหนึ่งปีที่ผ่านมา ซึ่งนับเป็นปีที่ Generative AI กลายเป็นเครื่องมือที่จำเป็นสำหรับองค์กร ยังพบว่าองค์กรใช้จ่ายมากขึ้นในด้าน AI อย่างมีนัยสำคัญ
รายงานระบุว่า การใช้จ่ายด้าน AI ในปีนี้พุ่งสูงถึง 13,800 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 500% หรือมากกว่า 6 เท่าจากปีก่อนที่มียอดใช้จ่ายอยู่ที่ 2,300 ล้านดอลลาร์สหรัฐหรือราว 7.9 หมื่นล้านบาท โดยการใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นสะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นขององค์กร โดยผู้บริหาร 72% คาดการณ์ว่าจะมีการนำ Generative AI มาใช้อย่างแพร่หลายมากขึ้น องค์กรต่าง ๆ กำลังเปลี่ยนจากการทดลองใช้เครื่องมือ AI มาใช้จริง ทั้งระดับปฏิบัติการในแต่ละแผนกและกำหนดกลยุทธ์ธุรกิจ
สอดคล้องกับปัจจุบันที่แอปพลิเคชัน AI พัฒนาอย่างรวดเร็ว องค์กรหันมาลงทุนในส่วนของ Foundation Model มากขึ้น เพราะได้รับประโยชน์จากการรวมรูปแบบฟีเจอร์ที่ออกแบบในระดับโครงสร้างพื้นฐาน บริษัทต่างๆ กำลังสร้างมูลค่ามหาศาลโดยใช้เครื่องมือเหล่านี้เพื่อปรับเวิร์กโฟลว์ให้เหมาะสมในทุกภาคส่วน ซึ่งช่วยปูทางไปสู่การสร้างสรรค์นวัตกรรมที่กว้างขึ้น
นอกจากนี้รายงานระบุอีกว่า การลงทุนด้าน Generative AI ขององค์กรกว่า 60% มาจากงบประมาณด้านนวัตกรรม ซึ่งสะท้อนถึงช่วงเริ่มต้นของการนำมาใช้ อย่างไรก็ตาม 58% มาจากการจัดสรรงบประมาณที่มีอยู่ แสดงให้เห็นความมุ่งมั่นในการใช้งานของธุรกิจต่างๆ ที่เพิ่มขึ้น
อ้างอิงข้อมูล CNBC
ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ -