บ็อบ จอห์นสัน รองประธานนักวิเคราะห์ของ Gartner บริษัทวิจัยและให้คำปรึกษาชั้นนำของโลก กล่าวว่า การเติบโตอย่างรวดเร็วของ Data Center ระดับไฮเปอร์สเกลใหม่ ๆ เพื่อรองรับ GenAI จะทำให้เกิดความต้องการการใช้พลังงานอย่างไม่มีที่สิ้นสุดและนำไปสู่การถึงขีดจำกัดของความสามารถในการขยายกำลังการผลิตของผู้ให้บริการสาธารณูปโภค ส่งผลให้เกิดปัญหาพลังงานไม่เพียงพอและจำกัดการเติบโตของดาต้าเซ็นเตอร์ใหม่ ๆ ที่รองรับ GenAI รวมถึงการใช้งานอื่น ๆ ตั้งแต่ปี 2569 เป็นต้นไป
"Data Center ขนาดใหญ่ออกแบบมาเพื่อรองรับปริมาณข้อมูลมหาศาลที่จำเป็นสำหรับการฝึกฝนและปรับใช้ของ Large Language Models (LLMs) อันเป็นพื้นฐานของแอปพลิเคชัน GenAI ที่กำลังขยายตัวรวดเร็ว การขาดแคลนพลังงานในระยะสั้นมีแนวโน้มที่จะดำเนินต่อไปอีกหลายปี เนื่องจากการจัดส่งพลังงาน การจัดจำหน่ายและการผลิตพลังงานใหม่อาจใช้เวลาหลายปีกว่าจะเริ่มใช้งานได้ ซึ่งจะไม่สามารถบรรเทาปัญหาในปัจจุบันลงได้”
รายงานระบุว่า ในอีกสองปีข้างหน้าตลาด Data Center อาจเติบโตสูงถึง 160% โดยภายในปี 2570 ปริมาณพลังงานที่ Data Center ต้องใช้เพื่อขับเคลื่อนเซิร์ฟเวอร์ที่เพิ่มขึ้นและปรับแต่งสำหรับ AI จะทะยานไปถึง 500 เทราวัตต์ต่อชั่วโมง (TWh) ต่อปี ซึ่งมากกว่าปี 2566 ถึง 2.6 เท่า ทั้งนี้ภายในสามปี ปัญหาพลังงานไม่เพียงพอจะเป็นปัจจัยที่จำกัดขีดความสามารถ AI - Data Center ถึง 40%
นอกจากนี้ราคาพลังงานที่เพิ่มขึ้น คือ ผลลัพธ์ที่หลีกเลี่ยงไม่ได้จากปัญหาการขาดแคลนพลังงานที่กำลังจะเกิดขึ้น ซึ่งจะเพิ่มต้นทุนการดำเนินการด้าน LLMs สืบเนื่องจาก ผู้บริโภคพลังงานรายใหญ่ ๆ ในปัจจุบันกำลังทำงานร่วมกับผู้ผลิตพลังงานขนาดใหญ่เพื่อสร้างแหล่งพลังงานระยะยาวที่มีความเป็นอิสระจากความต้องการอื่น ๆ ของระบบไฟฟ้า ระหว่างนี้ต้นทุนพลังงานสำหรับดำเนินการ Data Center จะเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากผู้ประกอบการใช้อำนาจต่อรองทางเศรษฐกิจเพื่อให้ได้พลังงานที่ต้องการ โดยค่าใช้จ่ายเหล่านี้จะถูกผลักภาระไปยังผู้ให้บริการผลิตภัณฑ์และบริการของ AI รวมถึง GenAI
เป้าหมายความยั่งยืนในการลดคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์จะได้รับผลกระทบในทางลบจากการแก้ปัญหาระยะสั้นในการจัดหาพลังงานเพิ่มเติม เนื่องจากความต้องการที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วกำลังบีบบังคับให้ผู้ผลิตต้องเพิ่มการผลิตด้วยทุกวิธีทางที่ทำได้ นั่นหมายถึงการปลดระวางการทำงานของโรงไฟฟ้าเชื้อเพลิงฟอสซิลที่ยังต้องยืดระยะการดำเนินงานต่อไปเกินจากที่กำหนดไว้
"ความเป็นจริง คือ การใช้ Data Center เพิ่มขึ้นนำไปสู่การปล่อยก๊าซคาร์บอนที่เพิ่มขึ้นตาม ส่งผลให้เกิดการผลิตพลังงานที่จำเป็นในระยะสั้น ทำให้ผู้ประกอบการ Data Center และลูกค้าของพวกเขาพบความยากลำบากมากขึ้นในการบรรลุเป้าหมายความยั่งยืนที่เข้มงวดด้านการปล่อยก๊าซคาร์บอน"
ตามรายงานของการ์ทเนอร์ ชี้ว่า Data Center ต้องการพลังงานที่พร้อมใช้งานตลอด 24/7 ซึ่งพลังงานหมุนเวียน อาทิ พลังงานลมหรือพลังงานแสงอาทิตย์ ไม่สามารถจัดหาให้ได้โดยไม่มีแหล่งพลังงานทางเลือกในช่วงที่ไม่สามารถผลิตพลังงานได้ สำหรับพลังงานที่เชื่อถือได้และพร้อมใช้งานตลอด 24/7 สามารถผลิตได้จากโรงไฟฟ้าพลังน้ำ เชื้อเพลิงฟอสซิล หรือนิวเคลียร์เท่านั้น
ซึ่งในระยะยาว เทคโนโลยีใหม่สำหรับการกักเก็บพลังงานแบตเตอรี่จะพัฒนาดียิ่งขึ้น เช่น แบตเตอรี่โซเดียมไอออน หรือพลังงานสะอาด เช่น เครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ขนาดเล็ก จะพร้อมใช้งานและช่วยให้บรรลุเป้าหมายด้านความยั่งยืน
ทั้งนี้ Gartner แนะนำให้องค์กรต่าง ๆ ประเมินแผนในอนาคต โดยคำนึงถึงต้นทุนพลังงานที่สูงขึ้น และเจรจาสัญญาระยะยาวสำหรับบริการ Data Center ในอัตราค่าพลังงานที่สมเหตุสมผล องค์กรควรคำนึงถึงการเพิ่มขึ้นของต้นทุนอย่างมีนัยสำคัญ เมื่อพัฒนาแผนผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ พร้อมทั้งมองหาแนวทางหรือทางเลือกที่ใช้พลังงานน้อยลง
รวมทั้งองค์กรต่าง ๆ ต้องประเมินเป้าหมายด้านความยั่งยืนที่เกี่ยวข้องกับการปล่อยก๊าซคาร์บอนใหม่ โดยพิจารณาถึงความต้องการของ Data Center และแหล่งพลังงานในอนาคตเมื่อพัฒนาแอปพลิเคชัน GenAI องค์กรควรมุ่งเน้นการใช้พลังงานการประมวลผลให้น้อยที่สุดและพิจารณาความเป็นไปได้ของทางเลือกอื่น ๆ เช่น Edge Computing และโมเดลภาษาขนาดเล็กกว่า
บทความที่เกี่ยวข้อง
ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ -