ผลประโยชน์ธุรกิจที่มากกว่าการเมือง จับตาอาณาจักร "อีลอน มัสก์" รับอานิสงส์ชัยชนะทรัมป์

Tech & Innovation

Tech Companies

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

Tag

ผลประโยชน์ธุรกิจที่มากกว่าการเมือง จับตาอาณาจักร "อีลอน มัสก์" รับอานิสงส์ชัยชนะทรัมป์

Date Time: 7 พ.ย. 2567 09:13 น.

Video

เปิดทริกวางแผนการเงิน เพื่อชีวิตที่มีประสิทธิภาพ

Summary

  • ชัยชนะของทรัมป์มีความหมายต่ออาณาจักรธุรกิจเทคโนโลยีของมัสก์อย่างไร ? ย้อนความสัมพันธ์ระหว่างสองเศรษฐีอนุรักษ์นิยม สองบุคคลทรงอิทธิพลในโลกธุรกิจและการเมืองที่อาจทำให้ Tesla และ SpaceX กลายเป็นบริษัทที่มูลค่าสูงขึ้นภายในข้ามคืน

Latest


ทำไม อีลอน มัสก์ ซีอีโอและเศรษฐีอเมริกันที่ร่ำรวยที่สุดในโลก หนึ่งในฐานเสียงสำคัญผู้ลงสมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีจากพรรครีพับลิกัน อาจได้รับผลประโยชน์ทางธุรกิจมหาศาล พ่วงตำแหน่งในรัฐบาลสหรัฐฯ หาก โดนัลด์ ทรัมป์ชนะการเลือกตั้ง ชัยชนะของทรัมป์มีความหมายต่ออาณาจักรธุรกิจเทคโนโลยีของมัสก์อย่างไร ? ย้อนความสัมพันธ์ระหว่างสองเศรษฐีอนุรักษ์นิยมที่อาจทำให้ Tesla และ SpaceX กลายเป็นบริษัทที่มูลค่าสูงขึ้นภายในข้ามคืน

ทรัมป์ ผู้ซึ่งครั้งหนึ่งเคยกล่าวว่ารถยนต์ไฟฟ้าจะทำลายงานและอุตสาหกรรมรถยนต์ของอเมริกา ผู้วางนโยบายชี้ชัดว่าจะกลบอดีตมาตรการสนับสนุน EV ทุกอย่างของโจ ไบเดน กลับได้ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าอันดับหนึ่งยืนเคียงข้างเวทีปราศรัย

ล่าสุดหุ้นรถยนต์ไฟฟ้าอย่าง Tesla พุ่งสูงขึ้นเกือบ 15% เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา สวนทางหุ้น EV เจ้าอื่นที่ร่วงระนาว หลังสื่อต่างประเทศหลายสำนักรายงานผลการเลือกตั้งอย่างไม่เป็นทางการ นักลงทุนต่างเดิมพันว่าชัยชนะครั้งนี้ของทรัมป์จะส่งผลดีต่อ อีลอน มัสก์ ผู้สนับสนุนรายใหญ่ที่คอยหนุนหลังจนกระทั่งสัปดาห์สุดท้ายของการหาเสียง

ย้อนความสัมพันธ์ สองบุคคลทรงอิทธิพลในโลกธุรกิจและการเมือง

หากย้อนดูความสัมพันธ์ในช่วงที่ผ่านมาของ อีลอน มัสก์ และ โดนัลด์ ทรัมป์ ก่อนหน้านี้ทั้งคู่เคยมีอดีตที่ขัดแย้งกัน ทั้งสองวิพากษ์วิจารณ์บุคลิกและสไตล์การทำงานของกันและกัน อย่างไรก็ตามทั้งสองกลับสานสัมพันธ์ที่ดีในการแข่งขันชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ปี 2024 จนกลายเป็นที่เพ่งเล็งของคนทั่วโลก

มัสก์เป็นหนึ่งในผู้บริหารบริษัทเทคโนโลยีที่เคลื่อนไหวทางการเมืองมากที่สุด นับเป็นบุคคลสาธารณะที่แสดงแนวคิดสุดโต่งด้านสังคมและการเมืองอย่างเปิดเผย ไม่ว่าจะเป็นการมุ่งไปที่ความไม่พอใจของฝ่ายขวาจัด หรือ อนุรักษ์นิยม การแสดงความคิดเห็นต่อประเด็นเหยียดเชื้อชาติและต่อต้านชาวยิว รวมถึงการต่อต้านผู้อพยพและต่อต้านคนข้ามเพศกลายเป็นหัวข้อสนทนาบ่อยครั้งผ่านทวีตของเขา

มัสก์ประกาศสนับสนุนทรัมป์อย่างเต็มที่ในเดือนกรกฎาคม หลังจากที่เขาพยายามติดต่อคณะบริหารของโจ ไบเดนและพรรคเดโมแครต เพื่อแสดงความคิดเห็นหลายประการเป็นเวลาหลายเดือน

หากพิจารณาจากการล้มลุกคลุกคลานในช่วงหลายปีที่ผ่านมาของมัสก์ จะพบว่าความผันผวนของอาณาจักรธุรกิจมัสก์มักจะเกี่ยวข้องกับสถานการณ์การเมืองและปัจจัยจากประเทศคู่ขัดแย้งโดยตรงที่มีต่อมัสก์ ซึ่งล้วนแล้วแต่กระทบไปถึงความเชื่อมั่นนักลงทุน

Tesla, SpaceX และ X หรือแม้แต่ตัวเขาเอง กำลังเผชิญกับข้อครหาและการตรวจสอบจากหน่วยงานกำกับดูแล การถูกปรับและโดนขัดขาที่ส่งผลให้การเปิดตัวโปรดักต์ใหม่ๆ ล่าช้า จึงนับว่าไม่แปลกที่มัสก์ผู้เป็นพันธมิตรกับผู้นำฝ่ายขวาทั่วโลกมาหลายปีจะเลือกสนับสนุนแนวนโยบายขั้วตรงข้ามเพื่อกรุยทางให้ตน

ขณะเดียวกันในด้านของทรัมป์ก็ค่อยๆ มีท่าทีแสดงออกอย่างเปิดเผยต่อมัสก์ ทั้งแนวคิดด้านการเมืองและสังคมที่สอดคล้องกัน ทรัมป์เป็นฝ่ายที่ยกย่องมัสก์และกล่าวถึงความสำเร็จในฐานะผู้นำทั้งด้านการบริหารและการริเริ่มนวัตกรรมเทคโนโลยีหลายครั้งในหน้าสื่อ

สำหรับการเลือกตั้งในครั้งนี้มัสก์ได้กลายเป็นผู้สนับสนุนพรรครีพับลิกันและเป็นที่ปรึกษานโยบายหาเสียงอย่างไม่เป็นทางการ ซึ่งเขาได้สร้างอิทธิพลทั้งออฟไลน์และออนไลน์ ทำให้แคมเปญและการหาเสียงของทรัมป์โดดเด่นขึ้นมาในช่วงโค้งสุดท้าย

“รัฐมนตรีฝ่ายลดต้นทุน”

CNBC รายงานว่า มัสก์บริจาคเงินเกือบ 119 ล้านดอลลาร์สหรัฐให้กับ America PAC คณะกรรมการดำเนินการทางการเมืองระดับสูงที่เขาจัดตั้งขึ้นในช่วงต้นปีเพื่อสนับสนุนผู้ได้รับการเสนอชื่อชิงตำแหน่งประธานาธิบดีจากพรรครีพับลิกันและปรากฏตัวในการชุมนุมหาเสียงที่สำคัญตลอดช่วงสามเดือนที่ผ่านมา รวมไปถึงการแจกเงิน 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐให้กับผู้มีสิทธิเลือกตั้งในรัฐเหล่านั้นทุกวัน

ไม่นับการใช้แพลตฟอร์ม X ที่ตนเป็นเจ้าของและเป็นบัญชีที่ได้รับความนิยมสูงสุด โดยมีผู้ติดตามมากกว่า 200 ล้านคนในปัจจุบัน กระหน่ำโพสต์ข้อความสนับสนุนทรัมป์

ขณะเดียวกันที่โจมตี กมลา แฮร์ริส ผู้ลงสมัครชิงตำแหน่งจากพรรคเดโมแครตอย่างรุนแรง กระทั่งมีกระแสเพ่งเล็งว่ามัสก์ได้ปรับปรุงระบบอัลกอริธึมเบื้องหลังแพลตฟอร์มเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพทวีตของมัสก์เองเพื่อให้ผู้คนได้เห็นทวีตเหล่านั้นมากขึ้นนำไปสู่การนำเสนอข้อมูลเพียงด้านเดียว และขณะเดียวกันที่ลดความสามารถในการกลั่นกรองและการตรวจสอบข้อเท็จจริงนำไปสู่ความเข้าใจผิด

ทรัมป์ได้ให้สัญญาว่าจะเขาแต่งตั้งมัสก์เป็น “หัวหน้าคณะกรรมการด้านประสิทธิภาพ” (Government Efficiency Commission) ของรัฐบาลหากตนได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดี ซึ่งคณะกรรมการดังกล่าวจะมีหน้าที่ทำการตรวจสอบด้านการเงินและคอยเสนอแนะด้านการทำงานของรัฐบาลกลางทั้งหมด แน่นอนว่าหนึ่งในหน้าที่สำคัญ คือ การจัดสรรเงินหลายแสนล้านดอลลาร์สหรัฐจากงบประมาณของรัฐบาลกลางใหม่

โดยมัสก์ได้เสนอว่าหากรัฐบาลมีการบริหารจัดการงบประมาณได้อย่างมีประสิทธิภาพจะสามารถลดต้นทุนได้อย่างน้อย 2 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งทรัมป์ได้ให้สัมภาษณ์ล่าสุดในประเด็นนี้ว่าเขาจะจัดตั้งตำแหน่งใหม่ที่เรียกว่า "รัฐมนตรีฝ่ายลดต้นทุน" และให้มัสก์เข้ามามีบทบาทจริงจัง

ทั้งนี้หากการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ของทรัมป์และสามารถแต่งตั้งให้มัสก์เป็นหัวหน้าคณะกรรมการด้านประสิทธิภาพสำเร็จ อาจส่งผลให้การตรวจสอบธุรกิจเทคโนโลยีของมัสก์โดยคณะบริหารชุดเดิมยุติลง

ไม่ว่าจะเป็นโครงการรถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติ และฟีเจอร์ช่วยเหลือผู้ขับขี่ Full Self-Driving (FSD) ที่กำลังเผชิญกับการสอบสวนจากหน่วยงานกำกับดูแลด้านความปลอดภัยของรัฐบาลกลาง หลังจากเกิดอุบัติเหตุที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีดังกล่าวหลายครั้ง ซึ่งเป็นส่วนที่นักลงทุนตั้งความหวังไว้กับบริษัทโดยหวังว่า Tesla จะมีการเติบโตของรายได้

การ์เร็ตต์ เนลสัน นักวิเคราะห์จาก CFRA Research ระบุว่า Tesla และอีลอน มัสก์ อาจเป็นผู้ชนะรายใหญ่ที่สุดจากผลการเลือกตั้งในครั้งนี้ โดยเขาเชื่อว่าชัยชนะของทรัมป์จะช่วยเร่งการอนุมัติจากหน่วยงานกำกับดูแลเกี่ยวกับเทคโนโลยีรถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติ ขณะที่ธุรกิจจรวดอวกาศ SpaceX ที่มัสก์ทำงานร่วมกับรัฐบาลสหรัฐฯ มาอย่างต่อเนื่องจะได้รับการสนับสนุนต่อไป

หุ้น Tesla พุ่งสวนทาง EV เจ้าอื่นที่เสียประโยชน์จากนโยบายทรัมป์

นอกจากนี้ หุ้น Tesla ยังพุ่งสวนทางหุ้นรถยนต์ไฟฟ้ารายอื่น ๆ รวมถึงหุ้นกลุ่มพลังสะอาดที่ถูกคาดการณ์ว่าหากการชนะการเลือกตั้งของทรัมป์จะไม่เป็นผลดีต่อหุ้นกลุ่มดังกล่าว สืบเนื่องจากฐานคิดเดิมของทรัมป์ที่สนับสนุนกลุ่มอุตสาหกรรมพลังงานจากเชื้อเพลิงถ่านหินมากกว่า รวมถึงกลุ่มอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้าโดยรวม เนื่องจากนโยบายของทรัมป์ที่มีแนวโน้มจะปฏิรูปภูมิทัศน์ของอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้า

อาทิ การกำหนดภาษีที่เข้มงวดยิ่งขึ้นสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าที่ผลิตในต่างประเทศและการยกเลิกเครดิตภาษีมูลค่า 7,500 ดอลลาร์สำหรับการซื้อรถยนต์ไฟฟ้าและส่วนลดบางส่วนจากนโยบายของรัฐบาลโจ ไบเดนที่อาจทำให้ศักยภาพในการทำกำไรของผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าสหรัฐฯ เจออุปสรรค แม้ว่าจะสามารถกีดกันผู้ผลิตจากจีนไม่ให้เข้ามาทำตลาดในสหรัฐฯ ได้ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า

Rivian Automotive (RIVN.O) ร่วงลง 5% Nikola (NKLA.O) ร่วงลงประมาณ 2% โดยหุ้นของผู้ผลิตรถยนต์ในสหรัฐฯ อย่าง Ford (F.N) และ General Motors (GM.N) ต่างก็เพิ่มขึ้นประมาณ 4% ขณะที่บริษัทน้ำมันรายใหญ่อย่าง Chevron (CVX.N) และ Exxon Mobil (XOM.N) ต่างก็ปรับตัวขึ้นประมาณ 3% ในขณะที่บริษัทพลังงานหมุนเวียนในสหรัฐฯ เช่น NextEra Energy (NEE.N) และ First Solar (FSLR.O) ร่วงลง 8% และ 12% ตามลำดับ

ทั้งนี้ หุ้น Tesla พุ่งสูงขึ้นถึง 15% ระหว่างการซื้อขายเมื่อวันที่ 5 พ.ย. ที่ผ่านมา โดยมีราคาเปิดตลาดอยู่ที่ 289.37 ดอลลาร์ต่อหุ้น ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคมของปีที่แล้ว

ความเคลื่อนไหวดังกล่าวทำให้หุ้นของ Tesla เพิ่มขึ้นประมาณ 16.5% ในปีนี้ โดยมีการคาดการณ์ว่าหุ้น Tesla จะแตะระดับสูงสุดในรอบกว่าหนึ่งปี หากผลการเลือกตั้งแน่ชัดแล้วว่านายโดนัลด์ ทรัมป์ได้รับชัยชนะอย่างเด็ดขาดในการเลือกตั้งในครั้งนี้

บทความที่เกี่ยวข้อง 

อ้างอิงข้อมูลจาก Reuters The Guardian Financial Times Business Insider 

ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ -   


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ