กระทรวงการคลังสหรัฐฯ ประกาศออกกฎใหม่ชัดเจนขึ้น สั่งห้ามนักลงทุนและบริษัทลงทุนสัญชาติอเมริกันลงทุนในกลุ่มเทคโนโลยีของจีน ฮ่องกง และมาเก๊า ซึ่งรวมไปถึง AI และเซมิคอนดักเตอร์ เพื่อป้องกันเงินทุนจากสหรัฐอเมริกาไหลเข้าไปหนุนเทคโนโลยีจีน หวั่นช่วยสนับสนุนทางการจีนในการพัฒนาทางการทหาร โดยจะมีผลในวันที่ 2 มกราคม 2025 เป็นต้นไป
โดยทางการสหรัฐฯ จะแบนการลงทุนไม่ให้มีการทำธุรกรรมในกลุ่มธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีอัจฉริยะของจีน อย่างเช่น AI เซมิคอนดักเตอร์ ไมโครอิเล็กทรอนิกส์ และเทคโนโลยีควอนตัม โดยนักลงทุนจะต้องรายงานต่อกระทรวงการคลังหากมีการทำธุรกรรมในกลุ่มเทคโนโลยีดังกล่าว
ยกตัวอย่างเช่น ในส่วนของธุรกิจชิป นักลงทุนจะต้องแจ้งต่อกระทรวงการคลังหากลงทุนในกลุ่ม Legacy Chips หรือชิปซึ่งมีขนาดใหญ่กว่ารุ่น 16 ถึง 14 นาโนเมตร ที่เป็นชิปรุ่นเก่าที่ใช้งานในอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ และในส่วนของ AI จะขึ้นอยู่กับพลังการประมวลผล (Computing Power) ที่ใช้ในการเทรน AI และความตั้งใจในการนำมาใช้งาน
โดยกฎที่ออกมายังแสดงให้เห็นชัดเจนว่าทางการสหรัฐฯ ต้องการที่จะแบนการลงทุนในเทคโนโลยีที่อาจจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับการพัฒนาทางการทหารของจีน ซึ่งการลงทุนในโมเดล AI ก็อาจจะถูกมองว่าเกี่ยวข้อง และอาจจะส่งผลให้ถูกแบนหรือต้องยื่นคำร้องต่อกระทรวงฯ
ข้อจำกัดดังกล่าวออกมาตามนโยบายของ Joe Biden ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาคนปัจจุบัน ที่ได้ลงนามในคำสั่งพิเศษของประธานาธิบดี และเริ่มต้นแบนการลงทุนในจีนอย่างจริงจังไปแล้วตั้งแต่สิงหาคม 2023 ซึ่งการออกข้อจำกัดในครั้งนี้ก็เพื่อแสดงความชัดเจนในการดำเนินการต่าง ๆ ให้มากขึ้น
โดยจะจำกัดไม่ให้ “บุคคลชาวอเมริกัน” ซึ่งหมายถึงกลุ่มธุรกิจ พลเมือง และผู้อยู่อาศัยถาวรในสหรัฐอเมริกา เข้าลงทุนในเทคโนโลยีของจีน ด้วยความกังวลในเรื่องความมั่นคงของชาติ แต่ในส่วนของหุ้นและพันธบัตรจะยังลงทุนได้ตามปกติ
และแม้ว่านักลงทุนและ VC ได้ระงับการลงทุนในอุตสาหกรรมดังกล่าวของจีนไปแล้วในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา แต่ยังมีนักลงทุนบางกลุ่มที่เป็นส่วนหนึ่งของกองทุน RMB ในประเทศจีนที่ถือกรีนการ์ดหรือเป็นพลเมืองสัญชาติอเมริกัน จะยังสามารถลงทุนในอุตสาหกรรมดังกล่าวได้
ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ - https://www.facebook.com/ThairathMoney