ปัญหาของการถูกหลอกจากมิจฉาชีพกลายเป็นประเด็นน่าเป็นห่วงของสังคมไทย หลังพบสถิติของสำนักงานตำรวจแห่งชาติระหว่างเดือนมีนาคม 2565 ถึงกรกฎาคม 2567 พบว่า ความเสียหายจากการถูกหลอกลวงผ่านช่องทางออนไลน์มีมูลค่ารวมเกือบ 7 หมื่นล้านบาท หรือเฉลี่ย 78 ล้านบาทต่อวัน
ขณะเดียวกัน คนไทยยังคงต้องเตรียมความพร้อมเพื่อรับมือกับการโจมตีของมิจฉาชีพ เนื่องจากมิจฉาชีพเหล่านี้ก็ใช้ประโยชน์ของเทคโนโลยีมาพัฒนาวิธีการหลอกลวงให้มีความหลากหลายมากขึ้น ทั้งในรูปแบบของข่าวเท็จ เว็บปลอม หลอกลวงผ่านการโทรและข้อความ SMS ไปจนถึงการหลอกลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล ซึ่งจากผลสำรวจของ Global Anti-Scam Alliance หรือ GASA ประจำปี 2567 พบว่า มีคนไทยเพียง 55% ที่มั่นใจว่ารู้เท่าทันมิจฉาชีพ และ 89% เผยว่าต้องรับมือกับมิจฉาชีพอย่างน้อยเดือนละครั้ง
ด้วยเหตุนี้ ส่งผลให้บริษัท โกโกลุก (Gogolook) ผู้นำด้านเทคโนโลยีเพื่อความเชื่อมั่น (TrustTech) และผู้พัฒนาแอปพลิเคชัน Whoscall จับมือกับพันธมิตรภาครัฐและเอกชนเปิดตัวฟีเจอร์ “Scam Alert” หรือ “เตือนภัยกลโกง” ศูนย์รวมข้อมูลสำหรับป้องกันการหลอกลวงจากมิจฉาชีพแห่งแรกของประเทศไทย โดยฟีเจอร์นี้จะเป็นแพลตฟอร์มฐานข้อมูลแบบรวมศูนย์ ที่ช่วยแจ้งเตือนภัยกลลวงและรับมือกับการหลอกลวงจากมิจฉาชีพออนไลน์ในรูปต่างๆ ได้อย่างทันท่วงทีและทั่วถึง
โดยความร่วมมือของ Whoscall กับภาคีเครือข่ายภาครัฐและเอกชน 11 องค์กร ประกอบด้วย
โดยมองเห็นภาพเดียวกันว่า อาชญากรรมไซเบอร์เป็นภัยคุกคามที่สำคัญซึ่งไม่เพียงส่งผลกระทบต่อผู้บริโภคแต่รวมถึงภาครัฐและธุรกิจด้วย จึงได้ร่วมมือกันเพื่อเปิดตัวฟีเจอร์ “Scam Alert” หรือ “เตือนภัยกลโกง” ศูนย์รวมข้อมูลเพื่อป้องกันการหลอกลวงจากมิจฉาชีพแห่งแรกของไทยแบบรวมศูนย์ เพื่อจัดการกับข้อมูลจำนวนมากจากแหล่งที่ไม่น่าเชื่อถือ แจ้งเตือนภัยและให้ความรู้แก่ประชาชนเกี่ยวกับการหลอกลวงที่อาจเกิดขึ้นในภาคส่วนต่างๆ ได้รับทราบอย่างทั่วถึง
บริการ Scam Alert เป็นฟีเจอร์ที่ถูกออกแบบให้เป็นฐานข้อมูลแบบรวมศูนย์สำหรับประชาชน โดยแบ่งเป็นการเตือนภัยโดยตรงจากหน่วยงานภาครัฐและข้อมูลเตือนภัยกลโกงในรูปแบบต่างๆ จากพันธมิตรภาคเอกชน ที่สามารถใช้ได้บนแอปพลิเคชัน Whoscall โดยไม่มีค่าใช้จ่ายทั้งเวอร์ชันฟรีและพรีเมียม
Whoscall กลายเป็นอีกหนึ่งโซลูชันของคนไทยที่เลือกใช้เพื่อป้องกันการหลอกลวงแบบครบวงจร โดยในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ Whoscall สามารถตรวจพบสายโทรเข้าจากมิจฉาชีพได้เกือบถึง 19 ล้านครั้ง ในขณะที่กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (MDES) สามารถปิดกั้นเว็บไซต์ที่หลอกลวงได้กว่า 47,000 รายการระหว่างเดือนตุลาคม 2566 - สิงหาคม 2567
นอกจากฟีเจอร์ Scam Alert แล้ว Whoscall ยังมีการเดินหน้าพัฒนาแคมเปญด้านการศึกษา ด้วยความหวังที่จะเพิ่มพูนความรู้ในการป้องกันภัยจากมิจฉาชีพออนไลน์ให้แก่ประชาชนผ่านโครงการเพื่อสังคม อย่างเช่น โครงการ Cyber Vaccinated ที่ได้ร่วมมือกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อช่วยให้ผู้ใช้งานมีความรู้เท่าทันและอยู่เหนือกลโกงของมิจฉาชีพ
นอกจากนี้บน Whoscall ยังมีฟีเจอร์อื่นๆ ที่สามารถใช้เพื่อเพิ่มความปลอดภัยให้แก่ผู้ใช้งานทุกคน เช่น Auto Web Checker เพื่อปกป้องผู้ใช้จากการคลิกลิงก์ฟิชชิ่งโดยไม่ได้ตั้งใจแบบอัตโนมัติ และ ID Security (เช็กข้อมูลรั่วไหล) เพื่อช่วยตรวจสอบความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลจากฟีเจอร์ที่ใช้งานได้ฟรีและแบบพรีเมียม
อย่างไรก็ตาม ประชาชนก็ยังสามารถใช้เครื่องมืออื่นๆ ที่ภาครัฐและเอกชนพัฒนาขึ้นเป็นกลไกในการจัดการกับปัญหามิจฉาชีพ อาทิ การแจ้งความดำเนินคดีที่ศูนย์ AOC 1441 หรือ thaipolice.go.th หรือผ่านทางเว็บไซต์ตำรวจสอบสวนกลางที่ https://www.cib.go.th/e-service หรือการแจ้งเลขหมายที่เป็นมิจฉาชีพต่อ กสทช. ที่ 1200 โทรฟรีหรือแจ้งที่ผู้ให้บริการมือถือแต่ละรายและช่องทางในการสื่อสารต่างๆ ขององค์กรภาคีด้วย
ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ - https://www.facebook.com/ThairathMoney