หลังการเยือนเมืองไทยของ นายสัตยา นาเดลลา ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ไมโครซอฟท์ เพื่อร่วมงาน Microsoft Build: AI Day ในเดือนพฤษภาคม ซึ่งได้มีการประกาศลงทุนในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ประกอบด้วย การลงทุนด้านดาต้าเซ็นเตอร์ระดับภูมิภาคแห่งแรกในไทย ควบคู่ไปกับการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานสำหรับคลาวด์และ AI รวมถึงการเสริมสร้างทักษะด้าน AI ซึ่งสอดคล้องไปกับนโยบาย “Cloud First” ของรัฐบาล
โดยล่าสุด นายธนวัฒน์ สุธรรมพันธุ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) จำกัด ได้แถลงกลยุทธ์ขับเคลื่อนธุรกิจของปี FY2025 ซึ่งเริ่มต้นเดือนกรกฎาคม พร้อมด้วยวิสัยทัศน์ “AI For All Thais มอบพลัง AI ให้กับคนไทย” ตอกย้ำความมุ่งมั่นเสริมศักยภาพให้กับคนไทย ผ่านกลยุทธ์หลัก 3 ด้าน ได้แก่ สร้างทักษะ เสริมขีดความสามารถ และสานต่อความมั่นคง พร้อมอัปเดตความคืบหน้าดาต้าเซ็นเตอร์ในไทยที่อยู่ระหว่างขั้นตอนสุดท้ายของการคัดเลือกพาร์ทเนอร์ผู้ให้บริการในประเทศ ซึ่งจะเสร็จสิ้นกระบวนการภายในสิ้นปีนี้
พร้อมระบุว่าการเปลี่ยนแปลงภายในรัฐบาลไม่มีผลกระทบต่อความร่วมมือ อย่างไรก็ตามด้านตัวเลขลงทุนยังไม่สามารถเปิดเผยได้ เพราะต้องรอกระบวนการตกลงเสร็จสิ้นก่อน ทั้งนี้ดาต้าเซ็นเตอร์ระดับภูมิภาคที่จะเกิดขึ้นในประเทศไทยจะเป็นดาต้าเซ็นเตอร์ที่อยู่ใน Fabric เดียวกับ Microsoft ทั่วโลก ทำให้องค์กรสามารถเข้าใช้ AI-Cloud Data Center Services ที่ไทยได้จากทั่วโลก
“นับเป็นประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของไมโครซอฟท์ในประเทศไทย หลังจากการประกาศลงทุนโดยตรงในประเทศ พันธกิจที่เราได้ประกาศออกไปเกี่ยวกับการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน AI และคลาวด์ ดาต้าเซ็นเตอร์ เป็นกุญแจสำคัญที่เข้ามาสร้างโอกาสให้คนไทย บริษัทไทย และประเทศไทย ประสบความสำเร็จในเวทีโลกปัจจุบัน AI และคลาวด์ ได้เข้ามายกระดับและสร้างการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกให้กับคนไทยและประเทศไทยในหลายอุตสาหกรรมทั้งภาคการศึกษา การท่องเที่ยว เกษตร อุตสาหกรรมที่เป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้น”
นายธนวัฒน์ กล่าวว่า ประเทศไทยต้องเปลี่ยนผ่าน "Made in Thailand" จากกระบวนการผลิตแบบเดิมที่รับวัสดุเข้ามาผลิตและส่งออกสู่ "Born in Thailand" ที่นำเทคโนโลยี AI เข้ามาช่วยยกระดับการผลิตหรือเพิ่มคุณค่าของผลผลิตเพื่อส่งออกไปทั่วโลก เพราะแบบเดิมอาจไม่ได้ช่วยสร้างผลิตภาพและผลิตผลที่มากพออีกต่อไป ทำให้ไทยมี Margin ต่ำ Productivity ต่ำ
ทั้งนี้ อุปสรรคใหญ่ของคนไทยในการนำ AI ไปใช้ คือ เรื่องทักษะและการตระหนักรู้ในเรื่องเทคโนโลยี (Digital Awareness) โดย AI ยังถูกมองว่าเป็นเรื่องใหม่ โดยนายธนวัฒน์ยกข้อมูลจาก World Digital Competitiveness Ranking ที่วัดขีดความสามารถด้านการแข่งขันด้านดิจิทัล พบว่า ประเทศไทยอยู่อันดับที่ 35 จาก 64 ประเทศ โดยสิ่งที่ยังเหนี่ยวรั้งพัฒนาการด้านดิจิทัลของไทยอยู่ คือ เรื่องเทคโนโลยี การประยุกต์ IT เข้ากับการดำเนินงานธุรกิจยังมีสัดส่วนที่น้อยอยู่ โดยเรื่องดังกล่าวเกี่ยวเนื่องไปถึงทักษะด้านดิจิทัลของคนที่ทำให้บุคลากรด้านเทคโนโลยีมีจำนวนจำกัด ทำให้เป้าหมายสำคัญอันดับแรกของ Microsoft ประเทศไทย คือการเพิ่มทักษะด้านดิจิทัลและ AI อย่างจริงจัง นายธนวัฒน์ กล่าว
สำหรับแนวทางของ Microsoft ประเทศไทยในปีนี้ นายธนวัฒน์ ได้เปิดเผยถึง 3 กลยุทธ์หลัก ได้แก่ “สร้างทักษะ-เสริมขีดความสามารถ-สานต่อความมั่นคง”
บทความที่เกี่ยวข้อง
ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ -