เมื่อเวลาประมาณ 14.00 น. ของวันที่ 19 กรกฎาคม 2567 เกิดเหตุขัดข้องทาง IT ทั่วโลก ทราบสาเหตุมาจากระบบคลาวด์ของ Microsoft ล่ม ส่งผลให้ธุรกิจและกิจการต่างๆ ได้รับผลกระทบอย่างหนัก ด้วยการใช้งานบนเครือข่ายของ Microsoft ที่ล่มไป และเกิด Blue Screen ขึ้นบนหน้าจอคอมพิวเตอร์
โดยมีรายงานออกมาเป็นระยะๆ ว่า ฝ่ายใดที่ได้รับผลกระทบบ้าง
มีหลายสายการบินทั่วโลกที่ต้องประสบกับปัญหาระบบขัดข้อง จนต้องใช้งานระบบแมนนวล หรือต้องใช้กระดานไวท์บอร์ดและกระดาษแทนเครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์ และใช้โทรศัพท์สำนักงานในการติดต่อสื่อสารกันแทนในภาคพื้นดิน และเกิดความอลหม่านในการนำเสนอข้อมูลการบินต่อลูกค้า แต่ในส่วนของเที่ยวบินบางสายการบินมีการดีเลย์ แต่ทุกอย่างยังดำเนินการไปได้ตามปกติ
ในส่วนของประเทศไทย ทาง AOT หรือ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) ได้มีการประกาศ ให้ผู้โดยสารเผื่อเวลาในการเดินทางอย่างน้อย 4 ชั่วโมง เพื่อป้องกันความผิดพลาดในการเดินทาง เนื่องจากระบบการให้บริการภาคพื้นขัดข้อง โดยได้รับผลกระทบทั้ง ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ท่าอากาศยานดอนเมือง ท่าอากาศยานเชียงใหม่ ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง ท่าอากาศยานหาดใหญ่ และท่าอากาศยานภูเก็ต
ในส่วนของโรงพยาบาลและคลินิกต่างๆ ได้รับผลกระทบจากการที่ไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลที่สำคัญของผู้ป่วยได้ และส่งผลต่อการนัดเข้าพบแพทย์ของผู้ป่วย อีกทั้งยังต้องเปลี่ยนมาทำงานแบบแมนนวลเช่นกัน และในฝั่งของรถฉุกเฉินในบางพื้นที่ของอิสราเอลต้องเปลี่ยนไปส่งผู้ป่วยในโรงพยาบาลอื่นแทน
จากการล่มของระบบ Microsoft ส่งผลให้ระบบชำระเงินในหลายที่ได้รับผลกระทบทั้งในส่วนของธนาคารและร้านค้าต่างๆ ที่รับจ่ายเงินผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ อย่างเช่น ในออสเตรเลีย ซึ่งเป็นประเทศที่ได้รับผลกระทบเป็นที่แรกๆ และในวงกว้าง พบว่าระบบการชำระเงินไม่สามารถใช้งานได้ชั่วคราว
ในขณะที่ ประเทศไทย ก็มีการออกมาแถลงจากธนาคารและผู้ประกอบการเป็นระยะ อย่างเช่น InnovestX ที่ต้องหยุดให้บริการ Webtrade ชั่วคราว แต่ในแอปพลิเคชันยังคงใช้งานได้ตามปกติ
มีรายงานข่าวออกมาว่า Sky News สำนักข่าวในสหราชอาณาจักรต้องหยุดออนแอร์ชั่วขณะ และเกิดความวุ่นวายในระบบบรอดแคสต์
ใน London Stock Exchange มีรายงานออกมาว่า ระบบทุกอย่างยังสามารถทำงานได้ตามปกติ แต่มีติดขัดในเรื่องของ ข้อมูลตลาด หรือ Market Data ที่ไม่สามารถดึงขึ้นมาให้ผู้อ่านอัปเดต
โดยมีรายงานเพิ่มเติมว่า “ราคาหุ้นร่วงทั้งกระดานเนื่องจากระบบ IT ขัดข้องในธุรกิจทั่วโลก” ซึ่งตลาดในยุโรป ทั้ง French CAC 40, German DAX, Spanish IBEX และ Swiss SMI ต่างได้รับผลกระทบ ขณะเดียวกันดัชนี British FTSE (Financial Times Stock Exchange) ก็ร่วงลงมา 0.5%
ต่อมาในฝั่งของ Microsoft ได้ออกมาชี้แจงถึงข้อผิดพลาดว่า ตอนนี้ทาง CrowdStrike บริษัทด้านไซเบอร์ซีเคียวริตี้ที่ดูแลระบบกำลังจัดการและแก้กับปัญหาดังกล่าว และได้เน้นย้ำว่าไม่ได้เกิดการโจมตีทางไซเบอร์แต่อย่างใด
ปัญหาดังกล่าวส่งผลให้ราคาหุ้นของ CrowdStrike ในตลาดสหรัฐฯ ร่วงลงมา 20% ขณะเดียวกัน หุ้น Microsoft ก็ร่วงลงมา 2.5% ในช่วงก่อนตลาดเปิด
ซึ่ง Microsoft ได้รับทราบถึงปัญหาที่ส่งผลกระทบกับอุปกรณ์ Windows อยู่ในขณะนี้ ซึ่งมีเหตุมาจากการอัปเดตแพลตฟอร์มซอฟต์แวร์ของผู้ให้บริการรายหนึ่ง และคาดว่าจะมีแนวทางการแก้ไขออกมาเร็วๆ นี้.
ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ - https://www.facebook.com/ThairathMoney