TSMC หรือ Taiwan Semiconductor Manufacturing Company ผู้ผลิตชิปรายใหญ่จากไต้หวัน อีกหนึ่งฐานการผลิตสำคัญให้กับ Nvidia โชว์ผลประกอบการและผลกำไรในช่วงไตรมาสที่ 2 ปี 2024 พบว่า สูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ โดยสามารถทำรายได้อยู่ที่ 2.09 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ (จากคาดการณ์ 2.03 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 7.68 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (จากคาดการณ์ของ LSEG SmartEstimate ที่ 7.41 ล้านดอลลาร์สหรัฐ)
จากการเติบโตของเทคโนโลยีอัจฉริยะ AI เป็นแรงผลักดันให้หุ้น TSMC โตขึ้นกว่า 70% ในปี 2024
C.C. Wei ประธานและซีอีโอของ TSMC กล่าวถึงการเติบโตของบริษัทฯ ว่า ผลประกอบการในไตรมาสที่ 2 นี้ ได้แรงสนับสนุนมาจากตลาดชิป AI ที่มีความต้องการในเทคโนโลยีชิป 3 และ 5 นาโนมิเตอร์ ซึ่ง TSMC เป็นผู้ผลิตรายใหญ่ของโลก อีกทั้งยังเป็นช่วงฤดูกาลของการผลิตสมาร์ทโฟนอีกด้วย ทำให้ความต้องการในชิปอัจฉริยะมีเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
TSMC เผยผลกำไร พบว่า โตขึ้น 40.1% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันปีก่อนหน้า ขณะเดียวกันกำไรสุทธิก็เพิ่มขึ้น 36.3% จากปีก่อน
นอกจากนี้ TSMC ได้มีการวางแผนและคาดการณ์ว่า ภายในไตรมาสที่ 3 ของปีนี้ รายได้จะอยู่ที่ 2.24-2.32 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยเมื่อไตรมาสเดียวกันปีก่อนหน้า TSMC มีรายได้อยู่ที่ 1.73 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
โดนัล ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ และแคนดิเดตในปี 2024 ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นว่า “ไต้หวันควรจะจ่ายเงินให้กับสหรัฐฯ เพื่อช่วยป้องกันไต้หวันจากจีน” และกล่าวต่ออีกว่า “ไต้หวันกำลังถือทั้ง 100% ในตลาดผู้ผลิตชิป”
ความขัดแย้งระหว่างไต้หวันกับจีนแผ่นดินใหญ่มีมากอย่างยาวนาน โดยทรัมป์มองว่า ไต้หวัน ไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของจีน แต่ในฝั่งของ สี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน เคยได้กล่าวไว้ว่า “การรวมไต้หวันกลับสู่จีนแผ่นดินใหญ่ เป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้” อีกทั้งยังมีข่าวรายงานออกมาก่อนหน้านี้อีกว่า จีนเตรียมที่จะรวมไต้หวันให้สำเร็จภายในปีนี้
และเช่นเดียวกันกับนโยบายของรัฐบาลโจ ไบเดน ที่ตลอดช่วงที่ผ่านมาได้สานต่อและป้องกันการผูกขาดของธุรกิจจีน โดยในธุรกิจชิป ได้มีการควบคุมการส่งออกชิปไปจีน
สหรัฐอเมริกา เคยเป็นตลาดผู้ผลิตชิปเจ้าหลักของโลก แต่ก็ถูกเปลี่ยนมือไปสู่ไต้หวัน จนปัจจุบัน ไต้หวันถือสัดส่วนการผลิตชิปในตลาดมากที่สุด อยู่ที่ 66% (เป็นของ TSMC แล้ว 62%) ในขณะที่สหรัฐฯ มีสัดส่วนประมาณ 6%
หลังจากแถลงการณ์ของทรัมป์ ส่งผลให้หุ้นของบริษัทที่เกี่ยวข้องกับการผลิตชิป ทั้ง AMD, Arm, Broadcom, SMC, Intel, Qualcomm และ Nvidia ต่างก็ร่วงลงมา ซึ่งถือเป็นสถานการณ์ที่แย่ที่สุดนับตั้งแต่ปี 2020
อย่างไรก็ตาม จากรายงานของ CNBC ในวันที่ 18 กรกฎาคม ชี้ว่า หุ้นของ Nvidia รีบาวด์กลับขึ้นมาอีก 3% หลังจากร่วงลงไป 7% นอกจากนี้ Intel ก็มีการขยับขึ้นมา 1% และ Broadcom ก็เพิ่มขึ้นมา 3% มีผลมาจากข่าวที่ทาง Broadcom เข้าคุยเพื่อผลิตชิปให้กับ OpenAI
แต่ในฝั่งของผู้ผลิตชิปอื่นๆ ยังคงอยู่ในช่วงยากลำบาก โดย หุ้นของ Arm ยังคงลดลง 2%, AMD ตกลงมา 2%, SMC ลดลง 2% และ Qualcomm ยังคงที่
ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ - https://www.facebook.com/ThairathMoney