Andrew Ng ผู้ทรงอิทธิพล AI มอง ไทยมีศักยภาพ จับมือ KBTG ผลักดันเรื่อง “การศึกษา” พัฒนาทักษะเด็กไทย

จากงาน KBTG Techtopia: A Blast From the Future ได้มีการเปิดพื้นที่ต้อนรับ Dr. Andrew Ng หนึ่งในผู้นำด้าน AI ระดับโลก เป็นผู้ทรงอิทธิพลด้าน AI ติดอันดับ Time100 ในปี 2023 โดย Dr. Ng เป็นผู้ก่อตั้ง DeepLearning.AI เป็นผู้ก่อตั้งและ CEO ของ Landing AI เป็นหนึ่งในบอร์ดบริหารของ Amazon.com เป็นผู้จัดการและผู้ก่อตั้งกองทุน AI Fund อีกทั้งยังเป็นประธานบริหารและผู้ร่วมก่อตั้งของ Coursera และเป็นศาสตราจารย์วุฒิคุณของคณะวิทยาการคอมพิวเตอร์ มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด

โดยในงานได้มีการร่วมลงนามในสัญญาความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ระหว่าง AI Fund และ KX Venture Capital (KXVC) ซึ่ง AI Fund เป็น Venture Studio ที่ต้องการขับเคลื่อนไปข้างหน้าด้วยการเร่งให้เกิดการนำ AI มาใช้งานในโลกจริง ซึ่งกองทุนนี้ ได้รับการสนับสนุนจากพันธมิตรระดับแนวหน้า เช่น NEA, Sequoia และ Softbank พร้อมด้วย Managing General Partner อย่าง Dr. Andrew Ng หนึ่งในผู้ทรงอิทธิพลที่สุดในโลก AI

Dr. Andrew Ng เห็นศักยภาพ คนไทยสนใจ AI มาก 

การมาเยือนประเทศไทยครั้งนี้เป็นครั้งแรกของ Dr. Andrew Ng และในครั้งนี้ ก็ได้ทำสัญญาลงนามความร่วมมือกับทาง KBTG ในการสนับสนุน Ecosystem ของประเทศไทย ผ่านการผลักดันให้เกิดการใช้งาน AI ในภาคอุตสาหกรรม พร้อมกับสร้างพื้นฐานความรู้ให้กับเด็กไทย

“ประเทศไทยมีความพร้อมในการพัฒนา AI ผู้คนมีความสนใจใน AI เป็นอย่างมาก อีกทั้งยังมี Ecosystem ที่เหมาะสมและแข็งแกร่ง ซึ่งหนึ่งในนั้นก็เป็นผลงานของ KBTG” 

Dr. Andrew Ng อธิบายว่า “เทคโนโลยี คือ พื้นฐานของที่สำคัญสำหรับธุรกิจทุกรูปแบบ ไม่ใช้เฉพาะธุรกิจใหญ่ๆ ที่จะใช้ AI หรือเทคโนโลยีอัจฉริยะได้ เริ่มต้นจากเทคโนโลยี อย่างเช่น สมาร์ทโฟน ถ้าผู้ใช้มีความรู้ ความเข้าใจ ก็จะสามารถนำไปต่อยอดในธุรกิจได้” 

ประเทศไทย เป็นพื้นที่ที่มีความโดดเด่นทั้งในด้าน การแพทย์และสุขภาพ (Healthcare), การท่องเที่ยว (Tourism) และการเกษตร (Agriculture) ดังนั้น หากนำ AI มาปรับใช้งาน มาเป็นโครงสร้างพื้นฐานได้ ก็จะส่งผลดี และสามารถยกระดับได้ทั้งอุตสาหกรรม

“สื่อ” คือ ตัวกลางสำคัญที่จะ Educate เรื่อง AI ให้ประชาชน

Dr. Andrew Ng กล่าวว่า ย้อนกลับไปเมื่อประมาณ 10 ปีก่อน คือ ช่วงเวลาที่ AI กลายเป็นที่รู้จักในประเทศจีน โดยมีปัจจัยหลักคือ “สื่อ (Media)” ที่เป็นตัวกลางช่วยให้ประชาชนได้รู้จักกับ AI และต่อมา AI ก็กลายเป็นเครื่องมือสำคัญที่มีบทบาทอย่างมากต่อชีวิตของทุกคน ไม่ใช่แค่กลุ่มนักพัฒนา หรือวิศวกร แต่กลุ่มคนทำงานทั่วไป หรือแม้แต่คนใช้งานสามาร์ทโฟนก็ต้องใช้ AI  

ในวันนั้นสื่อมีส่วนสำคัญอย่างมากในการให้ข้อมูล และเป็นเหมือนแหล่งศึกษาสำหรับบุคคลทั่วไป จนคนเข้าใจและรู้จักที่จะใช้งาน AI อย่างเหมาะสม และหวังว่าสื่อของไทยก็จะมีการ Educate ผู้คนผ่านงานเขียนด้วยเช่นกัน

MOU ความร่วมมือ ดัน “การศึกษา” เป็นโปรเจกต์แรก 

หลังจากวันที่ 17 กรกฎาคม ที่ผ่านมา Dr. Andrew Ng เข้าพบปะนายกรัฐมนตรีของไทย นายเศรษฐา ทวีสิน และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ หารือในประเด็นการสร้างความร่วมมือ ดึงเทคโนโลยี AI เข้ามายกระดับภาคส่วนต่างๆ ในประเทศ เพื่อสร้างความแข็งแรงให้กับ Ecosystem พร้อมกับเพิ่มความสามารถในด้านอุตสาหกรรมด้วย AI ให้แข่งขันได้อย่างมีประสิทธิภาพ

และภายในงาน KBTG Techtopia วันนี้ นายเรืองโรจน์ พูนผล ประธานกลุ่มบริษัท กสิกร บิซิเนส-เทคโนโลยี กรุ๊ป หรือ KBTG ได้ออกมาแถลงถึงแผนความร่วมมือที่จะทำร่วมกับ Dr. Andrew Ng ว่า “KBTG จะร่วมสัญญากับ Dr. Andrew Ng โดยแผนแรกจะมุ่งเน้นไปที่การเสริมสร้างทักษะความรู้ความสามารถด้าน AI ให้กับเด็กไทยมากขึ้น ผ่าน DeepLearning.AI ดึงคอร์สความรู้ต่างๆ ของ Dr. Ng มาให้เด็กไทยได้เรียน อีกทั้งจะร่วมมือกับรัฐบาลและกระทรวงต่างๆ เพื่อเพิ่มความมั่นใจว่าเด็กไทยทุกคนจะได้เข้าถึงความรู้อันนี้จริงๆ”

และหลังจากนี้จะไปเข้าพบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมเพื่อพูดคุยต่อไป

นอกจากนี้ ยังแผนความร่วมมืออีกอย่างที่กำลังอยู่ในช่วงของการสำรวจ คือ การนำ AI เข้าไปช่วยเด็กระดับมัธยมในการเข้าถึงแหล่งเรียนรู้ เนื่องจากปัจจุบันยังมีหลายโรงเรียนที่ขาดแคลนคุณครู และปัจจัยสำคัญอื่นๆ ในการศึกษา ผ่านความร่วมมือกับกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา หรือ กสศ. และกระทรวงศึกษาธิการ เพื่อวางแผนและดำเนินการให้เกิดโครงการนี้ขึ้นจริง

โดยคอร์สเรียนของ Dr. Andrew Ng บน Coursera ปัจจุบันมีผู้เข้าเรียนแล้วเกือบ 8 ล้านราย ซึ่งคอร์สส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับ AI ทั้งสิ้น จะมีตั้งแต่ Generative AI for Everyone ไปจนถึงบทเรียนที่เจาะลึกสำหรับผู้ที่สนใจในแต่ละวงการ อย่างเช่น Matchine Learning in Production

“และในอนาคตทาง KBTG ก็จะเร่งสร้างความร่วมมือกับหน่วยงานและองค์กรอื่นๆ ร่วมกับ Dr. Andrew Ng ต่อไป พร้อมกับดำเนินการสร้างโมเดล Startup Cobuild หรือแผนสร้างสตาร์ทอัพของไทยด้วยการค้นหา Startup Founders ที่มีความสามารถด้าน Technical ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ อีกทั้งเรายังมีความพร้อมที่จะทุ่มเงินลงทุนในสตาร์ทอัพเหล่านี้” นายเรืองโรจน์ พูนผล กล่าว

ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ - https://www.facebook.com/ThairathMoney