อุตสาหกรรมชิปโลกมุ่งสู่ภาวะขาดแคลนแรงงาน โดยเฉพาะบริษัทเซมิคอนดักเตอร์สหรัฐฯ ที่กำลังแข่งขันเพื่อแย่งชิงพนักงานทักษะสูง ซึ่งเป็นผลจากมาตรการกระตุ้นผู้ประกอบการในประเทศภายใต้ CHIPS and Science Act ของรัฐบาลโจ ไบเดนเพื่อลดการพึ่งพาการผลิตจากจีนและไต้หวันและให้สหรัฐฯ สามารถเดินเครื่องเติมเต็มให้อุตสาหกรรมชิปขึ้นสู่แนวหน้าเพื่อต่อกรกับจีนในตลาดโลกให้ได้
ในช่วงปีที่ผ่านมามีผู้ผลิตสหรัฐฯ อย่าง Intel, Taiwan Semiconductor Manufacturing Company (TSMC) และ Samsung Electronics, Micron Technology สร้างโครงการใหม่รวมทั้งสิ้นกว่า 40 โครงการทั้งในแอริโซนา เท็กซัส โอไฮโอ นิวยอร์ก และรัฐอื่นๆ รวมมูลค่ากว่า 2 แสนล้านดอลลาร์ ทั้งนี้ยังมีการคาดการณ์อีกว่ารัฐบาลเตรียมเพิ่มงบสนับสนุนด้านการวิจัยและพัฒนาอีก 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐหลังจากนี้
บทความที่เกี่ยวข้อง
อย่างไรก็ตาม เงินทุนอัดฉีดทั้งการจัดตั้งโรงงาน การผลิต และการวิจัยที่รวมแล้วกว่า 3.9 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐหรือราว 1.36 ล้านล้านบาทนั้นที่มาพร้อมกับความคาดหวังที่จะช่วยสร้างงานด้านการผลิตกว่า 10,000 ตำแหน่ง นำมาซึ่งการแข่งขันที่เข้มข้นในการแย่งชิงพื้นที่และบุคลากรทักษะสูงเพื่อขับเคลื่อนเป้าหมายดังกล่าวอย่างเป็นรูปธรรม กลายเป็นประเด็นใหม่ที่พบว่า นอกเหนือจากห่วงโซ่อุปทานชิปที่เกิดสุญญากาศแล้วนั้น ช่องว่างความต้องการแรงงานในอุตสาหกรรมดาวรุ่งนี้ก็กำลังขยายเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เช่นเดียวกัน
ปัจจุบันผู้ผลิตหลายรายประกาศเปิดรับสมัครพนักงานทักษะสูงที่มีประสบการณ์จำนวนมากเพื่อเติมเต็มเงื่อนไขที่ได้ตกลงกับรัฐบาล ล่าสุด GlobalFoundries ผู้ผลิตและออกแบบชิปรายใหญ่ ประกาศเพิ่มคนไปจนถึงโปรแกรมฝึกงานที่เปิดรับนักศึกษาในท้องถิ่น
Semiconductor Industry Association ระบุว่า ภายในปี 2030 อุตสาหกรรมชิปในสหรัฐฯ จะเผชิญกับการขาดแคลนแรงงาน รวมแล้วกว่า 67,000 คน ทั้งช่างเทคนิค นักวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ และวิศวกร ขณะที่ตลาดแรงงานโดยรวมจะขาดแคลนคนกว่า 1.4 ล้านคน โดยมีปัจจัยเร่งโดยตรงจากการพัฒนาอันรวดเร็วของเทคโนโลยี Generative AI ที่มีแนวโน้มเป็นที่ต้องการใช้งานในหลายภาคส่วนธุรกิจอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ Deloitte ระบุเพิ่มเติมว่า ภาวะการขาดแคลนแรงงานในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ อาจเลวร้ายยิ่งขึ้นไปอีก เนื่องจากเศรษฐกิจโลกที่ผันผวนและปัญหาห่วงโซ่อุปทานที่กำลังดำเนินอยู่
ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ - https://www.facebook.com/ThairathMoney