ล่าสุด Nvidia ขึ้นแท่นบริษัทเทคโนโลยีที่มีมูลค่าสูงสุดเป็นอันดับหนึ่งแล้วอย่างเป็นทางการ ด้วยมูลค่า 3.34 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ณ วันอังคารที่ 18 มิ.ย. 2567 โค่นยักษ์ใหญ่ Microsoft ที่ครองอันดับหนึ่งก่อนหน้านี้หลังขยับแซง Apple ขึ้นมาเป็นอันดับที่ 2 ก่อนจะใช้เวลาเพียงไม่ถึงเดือน ก้าวขึ้นเป็นบริษัทที่มีมูลค่าสูงที่สุด
ปัจจุบันหุ้นของ Nvidia พุ่งขึ้นกว่า 170% ในปีนี้ และเพิ่มขึ้นมากกว่า 3,290% ในช่วงห้าปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งล่าสุดที่บริษัทรายงานผลประกอบการไตรมาสแรกในเดือนพฤษภาคมที่ดีเกินคาด ดันราคาหุ้นของ Nvidia ทะลุ 1,000 ดอลลาร์ต่อหุ้นเป็นครั้งแรก
Thairath Money รวบรวมเส้นทางการไต่ขึ้นสู่การเป็น Big Tech เบอร์ต้นของโลก กว่าจะเป็นเจ้าตลาดผู้ทรงอิทธิพลในเรื่องของการผลิตชิป AI เกิดอะไรขึ้นบ้าง
ปีที่ผ่านมา Nvidia บริษัทผู้ผลิตการ์ดจอหรือชิป GPU (Graphic Processing Unit) ยักษ์ใหญ่สหรัฐฯ กลายเป็นบริษัทเทคโนโลยีผู้ชนะตัวจริงที่เรียกได้ว่ามาแรงแซงหน้าทุกเจ้าทั้งชื่อเสียงและผลประกอบการ ย้อนทำความเข้าใจ NVIDIA ยักษ์ใหญ่ชิปโลก ผู้ได้ประโยชน์จากสงคราม AI ทำเงินอย่างไร?
หลังจากบริษัทประกาศผลดำเนินการไตรมาสแรกปี 66 เมื่อวันที่ 25 พ.ค. 2566 Nvidia ไต่ขึ้นมาเป็นอันดับที่ 5 ของบริษัทที่มูลค่าสูงสุดระดับโลกในฐานะบริษัทผู้ผลิตชิปยักษ์ใหญ่รายแรก โดยใช้เวลา 24 ปี หลัง IPO ซึ่งเร็วกว่า Apple ที่อยู่อันดับหนึ่งในขณะนี้ ซึ่งใช้เวลา 38 ปี ในการแตะระดับล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ
Nvidia กลายเป็นบริษัทที่สำคัญที่สุดในโลกในยุคนี้ที่ประสิทธิภาพของ AI กำลังเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง ทำให้ธุรกิจชิป AI ยังมีช่องว่างสำหรับการเติบโต ซึ่ง Generative AI ถือได้ว่ายังอยู่ในช่วงเริ่มต้น และคาดว่าจะมีการยอมรับในวงกว้างในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า คลิกอ่านต่อ 5 บริษัทเทคโนโลยีที่มูลค่าระดับล้านล้านเหรียญ “1Trillion Club”
Nvidia ในฐานะผู้นำตลาดในการป้อนแพลตฟอร์มประมวลผลสำหรับ AI และ Generative AI ให้บรรดาบิ๊กเทคและองค์กรน้อยใหญ่ทั่วโลก ได้รับประโยชน์โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงสามไตรมาสที่ผ่านมานั้น โดยหลังการประกาศผลประกอบการไตรมาสสุดท้ายของปี 66 รายได้หลักๆ ของ Nvidia ยังมาจากการให้บริการโครงสร้างพื้นฐานด้านการประมวลผลครบวงจร หรือ ‘ธุรกิจดาต้าเซ็นเตอร์’ ที่ทำเงินไปได้ 1.84 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐในไตรมาสนี้ เพิ่มขึ้นถึง 409% จากปีก่อน ดันให้มูลค่าตลาดของ Nvidia อยู่ที่ 1.83 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ คลิกอ่านต่อ Nvidia ไต่ขึ้นมาอยู่ในอันดับสามบิ๊กเทคมูลค่าสูงสุดในโลกอย่างเป็นทางการ
ปีที่ผ่านมา ‘อุตสาหกรรมเทคโนโลยี’ คือ หนึ่งในภาคส่วนที่มีการฟื้นตัวครั้งใหญ่รวดเร็ว หลังได้รับการส่งเสริมจากโอกาสในการลดต้นทุน พร้อมด้วยบริบทต่างๆ โดยเฉพาะ ‘กระแส AI' ที่ถูกวิเคราะห์ในทางเดียวกันว่าจะเป็นเทคโนโลยีที่มีความสำคัญต่อจากนี้ นำไปสู่การผลักดันให้บริษัทต่างๆ แห่กันลงทุน โดยความแข็งแกร่งของตลาด ได้รับแรงหนุนจาก “Magnificent 7” หรือ 7 หุ้นเทคโนโลยีรายใหญ่ซึ่งจดทะเบียนในสหรัฐฯ ที่ครองแนวการลงทุน ได้แก่ Apple (AAPL), Amazon (AMZN), Alphabet (GOOGL), Nvidia (NVDA), Meta Platforms (META), Microsoft (MSFT) และ Tesla (TSLA)
การเพิ่มขึ้นอย่างมากของหุ้นทั้ง 7 ยกระดับผลตอบแทนทั้ง S&P 500 เพิ่มขึ้นมากกว่า 20% และ Nasdaq Composite พุ่งสูงขึ้นมากกว่า 30% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งอยู่ในระดับที่แข็งแกร่งที่สุดช่วงหนึ่งในรอบยี่สิบปีเลยทีเดียว คลิกอ่านต่อ Nvidia ผู้ผลิตออกแบบชิปยักษ์ใหญ่แห่งสหรัฐฯ ขึ้นแท่น ‘หุ้นเทคแห่งปี’
นักลงทุนพอใจกับสถานะการเป็นผู้นำเบอร์หนึ่งของ Nvidia ที่ครองส่วนแบ่งตลาดชิป AI ของโลกอยู่ประมาณ 80% สร้างความมั่นใจนักลงทุนทั่วโลก เพราะดีมานด์ชิป AI ยังไม่มีสัญญาณชะลอตัว
การทำสถิติใหม่ในครั้งนี้ยังผลักดันให้แม่ทัพใหญ่ เจนเซ่น หวง (Jensen Huang) ที่ถือหุ้นอยู่ประมาณ 86.76 ล้านหุ้นหรือมากกว่า 3.5% ของหุ้นทั้งหมดของบริษัท ซึ่งคิดเป็นมูลค่ารวมกว่า 9 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ทั้งนี้จากมูลค่าหุ้นที่นายหวงถือครองอยู่ได้ทำให้นายหวงรวยขึ้นอีก 7.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐหรือราว 2.8 แสนล้านบาทในปีนี้ คลิกอ่านต่อ Nvidia มูลค่าแซง Apple ขึ้นแท่นบริษัทที่มีมูลค่าสูงที่สุดในโลก รองจาก Microsoft
ในช่วงไตรมาสแรกของปี 2567 รายได้จากธุรกิจ Data Center ของ Nvidia โตขึ้น 427% จากปีก่อนหน้ามีมูลค่า 2.26 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเป็น 86% ของยอดขายทั้งหมด โดยตลอด 2 ปีที่ผ่านมา หุ้นของ Nvidia โตขึ้นต่อเนื่องพุ่งขึ้นกว่า 170% ในปี 2024 นี้ และตั้งแต่ปี 2022 มา มีรายงานว่าหุ้นของ Nvidia เติบโตขึ้นมากถึง 9 เท่า เนื่องมาจากความต้องการชิปเพื่อพัฒนา AI เพิ่มขึ้น และกลายเป็นเหมือนกระดูกสันหลังให้กับบริษัทเทคฯ ต่างๆ ในการพัฒนา AI คลิกอ่านต่อ การก้าวสู่อันดับหนึ่งบริษัทที่มีมูลค่าสูงที่สุด
ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ - https://www.facebook.com/ThairathMoney