เรียกได้ว่าเอเชียตะวันออกเฉียงใต้กำลังก้าวเข้าสู่ยุคทองแห่งเทคโนโลยีอย่างเต็มรูปแบบเลยก็ว่าได้ หลังบรรดาบิ๊กเทคต่างตบเท้าเข้ามาเยี่ยมเยือน พร้อมประกาศแผนการลงทุนมหาศาลเพื่อขยายโครงสร้างพื้นฐานด้านคลาวด์และ Data Center รองรับการเติบโตของธุรกิจดิจิทัล และความต้องการใช้งานเทคโนโลยีที่มีแนวโน้มจะพุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ล่าสุด Amazon Web Services (AWS) ก้าวเข้ามาด้วยแผนการลงทุนกว่า 3 แสนล้านบาท เพื่อสร้างศูนย์ข้อมูลในสิงคโปร์ ท่ามกลางการแข่งขันที่ดุเดือดจากคู่แข่งรายอื่นๆ อย่าง Microsoft ที่เพิ่งทัวร์ลงทุนใหญ่ในไทย อินโดนีเซีย และมาเลเซียไปก่อนหน้านี้
Amazon Web Service (AWS) หน่วยธุรกิจคลาวด์ของ Amazon ประกาศว่า บริษัทจะลงทุน 9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 3.3 แสนล้านบาท) เพื่อขยายโครงสร้างพื้นฐานคลาวด์ในสิงคโปร์
การลงทุนดังกล่าวจะครอบคลุมระยะเวลา 5 ปี จนถึงปี 2571 โดยเม็ดเงินจะใช้ไปกับการก่อสร้าง การบำรุงรักษา รวมถึงค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน เช่น ค่าสาธารณูปโภค การจ้างงาน และค่าเช่าพื้นที่
นอกจากนี้ AWS ยังประกาศโครงการฝึกทักษะด้าน AI ให้กับบุคลากรกว่า 5,000 คนต่อปี ในช่วง 3 ปีข้างหน้า พร้อมกับผลักดันให้มีการนำเอาไปใช้ในภาคอุตสาหกรรมอย่างแพร่หลาย รวมถึงการเพิ่มขีดความสามารถด้านการวิจัยและพัฒนาร่วมกับรัฐบาลสิงคโปร์ด้วย
สำหรับสิงคโปร์ถือเป็น Data Center ระดับภูมิภาคแห่งแรกในเอเชียของ AWS นับตั้งแต่เปิดดำเนินการในสิงคโปร์เมื่อปี 2553 โครงสร้างพื้นฐานคลาวด์ของบริษัทกลายเป็นรากฐานของบริการดิจิทัลที่ให้บริการกับหลากหลายอุตสาหกรรม ทั้งบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ในท้องถิ่นอย่าง Grab สถาบันการเงิน สตาร์ทอัพ และหน่วยงานภาครัฐ โดยตั้งแต่ปี 2566 AWS ระบุว่า ได้ลงทุนในสิงคโปร์ไปแล้ว 8.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 3.1 แสนล้านบาท)
ปัจจุบัน สิงคโปร์กลายเป็นหนึ่งในฮับ Data Center ใหญ่ที่สุดในโลก ที่กินสัดส่วนกว่าครึ่งหนึ่งของขีดความสามารถของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แต่เมื่อปี 2562 กลับต้องระงับโครงการสร้าง Data Center แห่งใหม่ชั่วคราว เนื่องจากข้อกังวลด้านสิ่งแวดล้อม ทำให้บางผู้ประกอบการหลายรายหันไปลงทุนในประเทศละแวกใกล้เคียง อย่างมาเลเซียและอินโดนีเซียแทน
อย่างไรก็ตาม เมื่อปี 2565 ที่ผ่านมา AWS ได้ประกาศลงทุนใหญ่ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มาแล้ว ได้แก่ ไทย และอินโดนีเซีย กว่า 5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 1.85 แสนล้านบาท) ขณะที่ปี 2566 ได้ประกาศลงทุนในมาเลเซีย 6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 2.22 แสนล้านบาท)
เมื่อช่วงวันที่ 30 เมษายน - 2 พฤษภาคม ที่ผ่านมา สัตยา นาเดลลา CEO ของ Microsoft ได้มาเยือนเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ทั้งหมด 3 ประเทศด้วยกัน ได้แก่ อินโดนีเซีย ไทย และมาเลเซีย โดยมาเข้าร่วมงาน Microsoft Build : AI Day ที่จัดขึ้นเพื่อนำเสนอนวัตกรรมใหม่ๆ และพบปะกับชุมชนนักพัฒนาและผู้สร้างสรรค์นวัตกรรม พร้อมพูดคุยถึงโอกาสใหม่ๆ จากเทคโนโลยี AI พร้อมกับเป้าหมายที่จะเข้ามายกระดับบริการคลาวด์ และโครงสร้างพื้นฐานเกี่ยวกับ AI
ในครั้งนี้ Microsoft ได้ประกาศลงทุนใหญ่ โดยในอินโดนีเซียได้ประกาศลงทุน 1.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 6.29 หมื่นล้านบาท) ครอบคลุมเวลา 4 ปี พร้อมตั้ง Data Center แห่งใหม่ พร้อมตั้งเป้าพัฒนาทักษะ AI ให้ประชากร 840,000 คน
ในไทยได้ประกาศตั้ง Data Center ของ Microsoft แห่งแรก แต่ไม่ระบุจำนวนเงินลงทุน พร้อมพัฒนาทักษะ AI ให้ประชากร 100,000 คน และในมาเลเซียได้ประกาศลงทุน 2.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 8.14 หมื่นล้านบาท) ครอบคลุมเวลา 4 ปี พร้อมกับพัฒนาทักษะ AI ให้ประชากร 200,000 คน
เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ทิม คุก CEO ของ Apple เดินสายเยือนหลายประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และได้มีการประกาศแผนลงทุนในสิงคโปร์เป็นเงินกว่า 250 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 9.2 พันล้านบาท) เพื่อขยายพื้นที่สำนักงานในย่าน Ang Mo Kio
ปัจจุบัน Apple ในสิงคโปร์มีพนักงานอยู่กว่า 3,600 คน และเป็นศูนย์กลางในภูมิภาคที่จะดูแลงานด้านซอฟต์แวร์ ฮาร์ดแวร์ และการให้บริการต่างๆ
ทั้งนี้ การลงทุนขยายพื้นที่ในครั้งนี้ของ Apple ก็เพื่อเป็นการรองรับการขยายการเติบโตของนวัตกรรมใหม่ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต โดยการขยายพื้นที่จะเริ่มในปี 2567
ขณะที่ Alibaba ก็มีแผนสร้าง Data Center ในเวียดนาม เพื่อเก็บข้อมูลภายในประเทศตามข้อกำหนดทางกฎหมาย คาดว่ามูลค่าการลงทุนน่าจะมากกว่า 1 พันล้านดอลลาร์ (ประมาณ 3.7 หมื่นล้านบาท)
จากเดิมการดำเนินธุรกิจในเวียดนามของ Alibaba ได้เช่าพื้นที่สำหรับเซิร์ฟเวอร์จากบริษัทโทรคมนาคมของเวียดนาม คือ Viettel และ VNPT โดยบริษัทใช้วิธี Colocation ซึ่งเป็นการเช่าพื้นที่ในศูนย์ข้อมูลจากผู้ให้บริการ
โดยมีพันธมิตรเป็นทั้ง 2 บริษัทของรัฐ เก็บข้อมูลของลูกค้าไว้ภายในประเทศ แต่ทางบริษัทก็ยังสำรองข้อมูลไว้ที่ศูนย์ข้อมูลของตัวเองในภูมิภาคนี้ ตั้งแต่อินโดนีเซียไปจนถึงสิงคโปร์ ตามคำขอของลูกค้า
ทั้งนี้ Alibaba มีแผนที่จะสร้าง Data Center ในเวียดนาม เพื่อตอบสนองประเทศเศรษฐกิจที่เติบโตเร็วที่สุดในเอเชีย โดยเวียดนามถือเป็นตลาดที่มีศักยภาพสูงมาก และยังมีพื้นที่ในการเติบโตอีกมาก
อัตราแลกเปลี่ยน ณ วันที่ 8 พฤษภาคม 2567 ที่ 37.01 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ
อ้างอิง Nikkei, Apple, CNBC
ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ - https://www.facebook.com/ThairathMoney