กลยุทธ์ตัดราคา ทำตลาดรถ EV ในจีนซบเซา คนไม่ซื้อเพราะ “กลัวติดดอย” เกมนี้ Tesla รับผลกระทบหนักสุด

Tech & Innovation

Tech Companies

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

Tag

กลยุทธ์ตัดราคา ทำตลาดรถ EV ในจีนซบเซา คนไม่ซื้อเพราะ “กลัวติดดอย” เกมนี้ Tesla รับผลกระทบหนักสุด

Date Time: 5 มี.ค. 2567 13:25 น.

Video

วิธีเอาตัวรอดของ Wikipedia ไม่พึ่งโฆษณา ไม่มีค่าสมาชิก แต่อยู่มาได้ 23 ปี | Digital Frontiers

Summary

  • สงครามราคาของผู้ผลิตรถ EV ทั้งสหรัฐและจีนที่รุนแรงขึ้น ยิ่งทำตลาด EV ซบเซา ข้อมูลระบุ BYD ยอดส่งมอบรถตก 37% Tesla ประสบปัญหาตั้งแต่ไตรมาสแรกของปี ยอดจัดส่งลดต่ำสุดในรอบหนึ่งปี

Latest


สมาคมรถยนต์นั่งส่วนบุคคลของจีน (China Passenger Car Association:PCA) ระบุ ยอดจัดส่ง Tesla จาก Shanghai Gigafactory ที่ลดลง 19% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งต่ำที่สุดนับตั้งแต่เดือนธันวาคม 2022 โดยในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมามียอดจัดส่งรถยนต์ไฟฟ้าจำนวน 60,365 คัน จากโรงงานในจีน ซึ่งลดลง 16% เมื่อเทียบเป็นรายเดือน 

Tesla พึ่งพาตลาดจีนอย่างมากเพื่อการเติบโตในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา และแม้ว่า Tesla จะยังคงเป็นหนึ่งในรถ EV ที่ขายดีที่สุดในจีนแต่ก็ถูกท้าทายจากคู่แข่งทั้งในและต่างประเทศ โดยเฉพาะ BYD ผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติจีน ทำให้ Tesla เริ่มใช้มาตรการด้านราคาตั้งแต่ในช่วงปี 2023 ต่อเนื่องถึงปีนี้ 

โดยล่าสุด Tesla ออกมาตรการจูงใจหลายประการเพื่อเพิ่มยอดขายในจีน เพื่อชิงลูกค้า ผู้ที่ซื้อรถในรอบส่งมอบสิ้นเดือนมีนาคมจะได้รับเงินอุดหนุนประกันสูงสุดถึง 8,000 หยวน (1,110 ดอลลาร์) หรือประมาณ 39,000 บาท ตลอดจนอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ราคาถูก และส่วนลดพิเศษสำหรับบางสี 

ด้าน BYD ก็ได้ใช้ประโยชน์จากข้อได้เปรียบจากราคาลิเทียมที่ลดลง ยิ่งทำให้แนวตั้งต้นผลิตมีต้นทุนที่ต่ำลง บวกกับแนวทางเดิมในการกำหนดราคาต่ำกว่าฝั่งยุโรป รวมถึงการเปิดตัวรุ่นล่าสุดในกลุ่มเรตราคาปานกลางอย่าง Dolphin Hatchback เวอร์ชันใหม่ และซีดานรุ่นใหม่ Qin Plus DM-i โดยปรับราคาลง 15%-20% อีกด้วย 

ยอดขายในจีนอ่อนแอกว่าคาด แม้จะมีการลดราคา บ่งบอกถึง "ปัญหาด้านอุปสงค์" 

อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่าการแข่งขันด้านราคาในตลาด EV จีนในขณะนี้กลับทำให้ตลาดชะลอตัวลงไปอีก ซึ่งไม่เพียงแต่ผู้ผลิต EV เท่านั้นผู้ผลิตรถยนต์แบบดั้งเดิมก็กำลังลดราคาตามเช่นเดียวกัน และที่สำคัญผลประกอบการที่เปิดเผยออกมาบ่งบอกว่าหลายรายไม่ได้ผลกำไรจากการกลยุทธ์ดังกล่าว

โดย PCA กล่าวว่า การกระหน่ำลดราคาของผู้ผลิตรายใหญ่อาจกระตุ้นให้ผู้บริโภคระงับการซื้อ เพราะหวังว่าราคาจะลดลงอีก เพราะแน่นอนว่าไม่ใช่ Tesla ที่ได้รับผลกระทบเพียงผู้เดียว ด้านยอดขาย EV ในจีนเดือนกุมภาพันธ์ของ BYD ก็ลดลง 37% จากเดือนเดียวกันของปีที่แล้วเหลือ 122,311 คันเช่นเดียวกัน  

PCA คาดการณ์ถึงยอดจัดส่งรถยนต์พลังงานใหม่ (new-energy vehicles) ไปยังตัวแทนจำหน่ายในจีนจะเพิ่มขึ้น 25% เป็น 11 ล้านคันในปีนี้ แม้ว่าจะยังคงขยายตัว แต่เป็นตัวเลขที่ลดลงจาก 36% ในปี 2023 และ 96% ในปี 2022 นอกจากนี้ ยอดขายรถ EV และ PHEV รวมกันลดลง 9% ในเดือนที่แล้วเมื่อเทียบกับปีก่อน เหลือ 450,000 คัน 

สุดท้ายนี้ ตลาด EV ของจีนที่กำลังชะลอตัวช่วงต้นปี อาจเป็นเพียงการชะลอตัวชั่วคราว เพราะผลกระทบการตัดราคาและสภาพเศรษฐกิจ รวมถึงช่วงเทศกาลตรุษจีนที่ยอดขายรถยนต์ในจีนมักจะชะลอตัวเป็นปกติ เพราะเป็นช่วงที่ผู้คนหลายล้านคนทั่วประเทศลางาน และเดินทางกลับบ้านเพื่อเยี่ยมครอบครัวและเพื่อนฝูง 

บรรดาค่ายผู้ผลิตจจะปรับกลยุทธ์เพื่อรับมือกับความต้องการที่ลดลง หรือใช้วิธีใดบ้างในการกระตุ้นการซื้อเพื่อรักษาความต้องการให้อยู่ในระดับเดียวกับกำลังการผลิต คงต้องจับตากันต่อไป โดยเฉพาะผลการดำเนินงานของ Tesla ในประเทศจีนไตรมาสต่อไปจะเป็นอย่างไร อีกทั้งการปรับราคาลงครั้งล่าสุดเริ่มสร้างแรงกดดันอย่างมากต่อการเงินของ Tesla ทำหุ้นบริษัทตกลงเกือบ 10% ในช่วงปีที่ผ่านมา  

อ้างอิง Reuters Bloomberg 

ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ - https://www.facebook.com/ThairathMoney 


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ