จับตากระแสต่อไป บิ๊กเทคกระหน่ำลงทุน ฮิวแมนนอยด์ หุ่นยนต์เหมือนคน หวังใช้เป็นแรงงานแทนมนุษย์

‘ฟิกเกอร์เอไอ’ (Figure AI) สตาร์ทอัพพัฒนาหุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์หน้าใหม่ที่กำลังเป็นที่น่าจับตามอง มูลค่าธุรกิจสูงแตะ 2.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หลังระดมทุนรอบซีรีส์ B รับเงินจากตัวพ่อบิ๊กเทค เร่งการผลิตหุ่นยนต์เสมือนมนุษย์เข้าสู่ตลาด ความเคลื่อนไหวในครั้งนี้ยังสะท้อนการค้นหาน่านน้ำใหม่ๆ ในการสร้างแอปพลิเคชันสำหรับ AI นอกจากแชตบอต 

Figure AI ก่อตั้งขึ้นโดย เบร็ท แอดค็อก (Brett Adcock) ในปี 2022 โดยมีเป้าหมายอันทะเยอทะยานในการสร้างหุ่นยนต์สองเท้าที่สามารถเดินได้เหมือนมนุษย์ภายในหนึ่งปี หลังจากก่อตั้งไม่นานก็ส่งผลงานชิ้นโบแดงอย่าง ‘Figure 01’ หุ่นยนต์อเนกประสงค์ที่สามารถเคลื่อนไหวได้เหมือนมนุษย์ที่เคลมว่าเป็นหุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์เชิงพาณิชย์ตัวแรกของโลก และถูกจับตามองว่าเป็นคู่แข่ง Optimus หุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์ที่พัฒนาโดย Tesla ซึ่งมีคุณสมบัติที่สูสีกันนั่นเอง 

สำหรับการระดมทุนรอบซีรีส์ B ในครั้งนี้ Figure AI รับเงินจำนวน 675 ล้านดออลาร์สหรัฐ จากกลุ่มนักลงทุนที่เป็นบิ๊กเทคตัวพ่อของวงการ นำโดย Jeff Bezos ซีอีโอ Amazon กองทุน Amazon Industrial Innovation Fund ต่อเนื่องด้วย Microsoft, Nvidia, Parkway Venture Capital, Intel Capital, Align Ventures, ARK Invest และผู้เล่นหน้าใหม่อย่าง OpenAI ผู้สร้าง ChatGPT ที่ก่อนหน้านี้ได้ลงทุนในสตาร์ทอัพฮิวแมนนอยด์ 1X Technologies ด้วยเช่นกัน 

ทั้งนี้ Figure AI กล่าวว่า จะนำเงินไปลงทุนเพื่อเร่งการพัฒนาหุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์เพื่อใช้ในเชิงพาณิชย์สำหรับอุตสาหกรรม โดยมีเป้าหมายสูงสุด คือ การทำให้ Figure 01 สามารถ “ทำงานในแต่ละวันได้ด้วยตนเอง” ซึ่งจำเป็นต้องลงทุนในการพัฒนาระบบ AI ที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้นเพื่อไปให้ถึงเป้าหมายดังกล่าว  

การสนับสนุนเงินทุน และสรรพกำลังจากบบรดาบริษัทเทคฯ รายใหญ่ทำให้ Figure AI ถูกจับตามองมากยิ่งขึ้น โดย Figure AI เปิดเผยว่า ตนกำลังร่วมมือกับ OpenAI เพื่อ "พัฒนาโมเดล Generative AI รุ่นต่อไปสำหรับหุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์" ซึ่งคาดว่าโมเดลประมวลภาษาขนาดใหญ่ (LLM) จะถูกนำมาใช้เพื่อสร้างวิธีการสื่อสารที่เป็นธรรมชาติมากขึ้นระหว่างหุ่นยนต์กับมนุษย์ พร้อมเพิ่มประสิทธิภาพในการประมวลผลในการรับคำสั่งได้ดียิ่งขึ้น 

นอกจากนี้ Figure AI ยังใช้บริการคลาวด์ Azure ของ Microsoft ในการเป็นโครงสร้างพื้นฐานของการทำงานด้าน AI ทั้งหมด และคาดว่าสามารถทดสอบการทำงานของหุ่นยนต์ในสถานการณ์จริงร่วมกับ Amazon อีกด้วย โดยล่าสุดมีรายงานว่า Figure AI ได้ลงนามข้อตกลงกับ BMW สำหรับการใช้งานหุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์ในโรงงานเป็นที่เรียบร้อยแล้ว 

ปัจจุบันหุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์ในตลาดยังอยู่ในขั้นตอนการพัฒนาภายใต้บริษัทผู้ผลิต และเท่าที่เปิดเผยคุณสมบัติสู่สาธารณะก็พบว่ายังมีพัฒนาการของคุณสมบัติที่ไม่ต่างกันมากนัก โดยพื้นฐานของหุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์นั้นถูกพัฒนาขึ้นเพื่อเสริมแรงมนุษย์ อำนวยความสะดวกงานบางอย่างที่มนุษย์ไม่สามารถทำได้หรือยังมีขีดจำกัด เช่น การเคลื่อนย้ายสิ่งของในภาคการผลิต ค้าปลีก การขนส่งและโลจิสติกส์ คลังสินค้า รวมถึงงานที่เป็นอันตราย. 

อ้างอิง Bloomberg , Techcrunch 

ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ - https://www.facebook.com/ThairathMoney