เจนเซ่น หวง (Jensen Huang) ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของ Nvidia บริษัทผู้ผลิตชิปประมวลผลยักษ์ใหญ่สหรัฐฯ ที่กำลังขึ้นแท่นบิ๊กเทคอันดับหนึ่งที่ครองความสนใจของนักลงทุนทั่วโลกในขณะนี้ กล่าวบนเวที “World Government Summit” ที่ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เมื่อวันที่ 12 ก.พ. ที่ผ่านมา ในเซสชั่น “A conversation with the CEO of Nvidia : Who will shape the Future of AI?”
ความน่าสนใจของบทสนทนางเกี่ยวกับอนาคตของ AI ที่เกิดขึ้นร่วมกับเจนเซ่น หวง ในครั้งนี้ถูกจับจ้องไปที่การพูดถึงความมหัศจรรย์ของ AI ที่ทำให้ทุกคนบนโลกกลายเป็นโปรแกรมเมอร์ได้อย่างง่ายดาย
อย่างไรก็ตามมุมมองของเขาตรงกลับตรงกันข้ามกับคำพูดของบรรดาผู้ทรงคุณวุฒิด้านเทคโนโลยีที่พูดถึงกันในช่วงสิบปีก่อนที่บอกว่า ทุกคนโดยเฉพาะเด็กๆ ควรเรียนรู้การเขียนโปรแกรมเอาไว้ถึงจะอยู่รอดในยุคนี้
เขากล่าวว่า หน้าที่ของเขา คือ การสร้างเทคโนโลยีที่สามารถประมวลผลได้ด้วยตนเอง ไม่ต้องมีคนมานั่งคุม โดยบอกเป็นนัยว่า AI จะพัฒนาไปสู่จุดที่เขียนโปรแกรมเองได้จะกลายเป็นเรื่องธรรมดา ซึ่งนั่นหมายความว่าทักษะการเขียนโค้ดอาจจะไม่ได้จำเป็นมากนักในทศวรรษหลังจากนี้ โดยเฉพาะเด็กๆ ที่ไม่จำเป็นต้องเรียนรู้วิธีการเขียนโค้ด เขียนโปรแกรมอีกต่อไป
กล่าวคือ Nvidia สร้างชิป AI คุณภาพสูงที่สามารถประมวลผลได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้มนุษย์เอาเวลาไปพัฒนาตัวเองหรือทำงานด้านอื่นๆ เรียนรู้สร้างความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน โดยเฉพาะศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับมนุษย์อย่างชีววิทยา และต่อยอดด้วยเทคโนโลยีในยุคนี้ที่พร้อมใช้งาน
“ตอนนี้ทุกแห่งล้วนพูดถึง AI เราก้าวเข้าสู่ยุคที่ช่องว่างระหว่างเทคโนโลยีน้อยลงเรื่อยๆ และจะไม่มีการแบ่งแยกทางเทคโนโลยีอีกต่อไป คุณสามารถจินตนาการได้ว่าทุกคนในบริษัทของคุณเป็นนักเทคโนโลยี”
บทสนทนาดังกล่าวนำไปสู่การถกเถียงในประเด็นเรื่องการเข้ามาช่วยลดเวลาในการเขียนโค้ดของ AI และยังทำให้คนทั่วไปสามารถเขียนโค้ดได้แม้ไม่ได้เป็นโปรแกรมเมอร์ แต่ขณะเดียวกันความก้าวหน้าของ AI ก็ถูกมองว่าอาจเข้ามาแทนที่อาชีพโปรแกรมเมอร์
ดังนั้นจึงเกิดเป็นคำถามที่ว่าการเขียนโค้ดกลายเป็นทักษะสำคัญในยุคนี้จริงหรือไม่ หรือเด็กๆ จำเป็นต้องเรียนรู้ทักษะการเขียนโค้ดมากน้อยแค่ไหน และ AI จะสามารถเขียนโค้ดได้ดีกว่ามนุษย์จริงหรือ
ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ - https://www.facebook.com/ThairathMoney