ไม่เป็นที่ผิดหวังของนักลงทุนทั้งวอลล์สตรีทและโลกแห่งเทคโนโลยีที่ตั้งตารอคอย หลัง Nvidia ประกาศผลดำเนินการ Q4 ที่ดีเกิดคาดการณ์ ครองสถานะบิ๊กเทคผู้ผลิตชิปที่มีมูลค่ามากที่สุดในโลกอย่างต่อเนื่อง หุ้นบริษัทพุ่งขึ้นกว่า 2.09% ระหว่างการซื้อขายล่าสุด ตอกย้ำผลประโยชน์มหาศาลจากกระแส AI ที่เติบโตอย่างรวดเร็วในปัจจุบัน
ผลดำเนินการไตรมาสสี่ปี 2567 สิ้นสุด ณ วันที่ 28 มกราคม 2567 Nvidia ทำรายได้ 2.21 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 22% จากไตรมาสก่อนหน้า และเพิ่มขึ้นถึง 265% จากช่วงเวลาเดียวกันในปีที่แล้ว ด้านกำไรสุทธิ 1.22 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 33% จากไตรมาสก่อนหน้า และเพิ่มขึ้นถึง 765% จากปีก่อน โดยกำไรต่อหุ้นคิดเป็นสัดส่วนอยู่ที่ 4.93 ดอลลาร์ต่อหุ้น
สำหรับปีงบประมาณ 2567 ในตอนนี้รายได้เพิ่มขึ้นมาแล้วถึง 126% อยู่ที่ 6.09 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ทั้งนี้รายได้หลักๆ ของ Nvidia ยังมาจากการให้บริการโครงสร้างพื้นฐานด้านการประมวลผลครบวงจร หรือ ‘ธุรกิจดาต้าเซนเตอร์’ ที่ทำเงินไปได้ 1.84 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐในไตรมาสนี้ เพิ่มขึ้นถึง 409% จากปีก่อน
Nvidia ในฐานะผู้นำตลาดในการป้อนแพลตฟอร์มประมวลผลสำหรับ AI และ Generative AI ให้บรรดาบิ๊กเทคและองค์กรน้อยใหญ่ทั่วโลก ธุรกิจได้รับประโยชน์โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงสามไตรมาสที่ผ่านมา ดันให้มูลค่าตลาดอยู่ที่ 1.83 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ขึ้นมาอยู่ในอันดับสามบิ๊กเทคมูลค่าสูงสุดในโลกอย่างเป็นทางการ
เจนเซ่น หวง (Jensen Huang) ซีอีโอ Nvidia แถลงอย่างมั่นใจว่า ปัจจุบันความต้องการด้าน AI ที่เพิ่มขึ้นทั่วโลกในทุกบริษัท ทุกอุตสาหกรรม และทุกประเทศ ได้เดินทางมาถึงจุดเปลี่ยนของยุคประมวลผลแบบดั้งเดิมแล้ว ซึ่งจะนำไปสู่การลงทุนด้านโครงสร้าง การติดตั้งศูนย์ข้อมูลทั่วโลกจะเพิ่มเป็นสองเท่าในอีกห้าปีข้างหน้า ซึ่งนั่นหมายโอกาสของธุรกิจมูลค่านับแสนล้าน
นอกจากนี้ความต้องการผลิตภัณฑ์ใหม่ล่าสุดของ Nvidia จะยังคงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ อีกทั้งยังไม่เห็นสัญญาณของการชะลอตัวจากผู้ใช้แต่อย่างใด แพลตฟอร์มที่ขับเคลื่อนด้วยความสามารถที่หลากหลายของเรา ทั้งบริการคลาวด์ขนาดใหญ่ ความเชี่ยวชาญด้านชิปขั้นสูง ได้ตอบสนองความต้องการในการประมวลผลด้านข้อมูล การเทรนข้อมูลสำหรับ AI ที่กำลังกลายเป็นโครงสร้างสำคัญในตอนนี้ เจนเซ่น กล่าวอย่างมั่นใจ
ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ - https://www.facebook.com/ThairathMoney