Microsoft รายงานผลประกอบการไตรมาสที่ 2 ของปีงบประมาณ 2024 (สิ้นสุดเดือนธันวาคม) ทำรายได้ไปที่ 6.2 หมื่นล้านดอลลาร์ (หรือประมาณ 2.2 ล้านล้านบาท) เพิ่มขึ้น 18% จากรายได้ 5.2 หมื่นล้านดอลลาร์ (หรือประมาณ 1.8 ล้านล้านบาท) ในช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า
นับเป็นไตรมาสแรกที่ Microsoft รายงานผลประกอบการในฐานะบริษัทมูลค่า 3 ล้านล้าน รวมถึงเป็นครั้งแรกที่มีการรายงานรายได้เพิ่มเติมจากการเข้าซื้อค่ายเกมดังอย่าง Activision Blizzard ซึ่งทำให้รายได้จากเกมของ Microsoft มากเป็นอันดับ 3 สูงกว่ารายได้จาก Windows ในไตรมาสนี้
และหากพิจารณาเป็นรายธุรกิจ จะพบว่ากลุ่ม Intelligent Cloud ซึ่งประกอบไปด้วย Azure, SQL Server, Windows Server, Visual Studio, Nuance, GitHub และการบริการลูกค้าองค์กร ทำรายได้ในไตรมาสนี้ไป 2.58 หมื่นล้านดอลลาร์ (หรือประมาณ 9.1 แสนล้านบาท) เพิ่มขึ้น 20% และสูงกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ 2.52 หมื่นล้านดอลลาร์
ส่วนหนึ่งมาจากรายได้ของ Azure และบริการคลาวด์อื่นๆ ที่เพิ่มขึ้นกว่า 30% ด้าน Satya Nadella ซีอีโอ Microsoft เผย ปัจจุบันมีลูกค้า Azure AI อยู่ที่ 53,000 ราย โดย 1 ใน 3 เป็นลูกค้าใหม่ในปีที่ผ่านมา
ขณะที่ผลประกอบการจากกลุ่มธุรกิจ Productivity and Business Processes มีรายได้รวม 1.9 หมื่นล้านดอลลาร์ (หรือประมาณ 6.8 แสนล้านบาท) เพิ่มขึ้น 13% โดยในกลุ่มนี้ประกอบไปด้วยผลิตภัณฑ์อย่าง Microsoft 365, LinkedIn และ Dynamics 365
และในส่วนของกลุ่มธุรกิจ More Personal Computing ซึ่งประกอบไปด้วย Windows, Surface, Bing และ Xbox ไตรมาสนี้ทำรายได้ 1.6 หมื่นล้านดอลลาร์ (หรือประมาณ 5.9 แสนล้านบาท) โตขึ้น 19% โดยรายได้จาก Xbox โตขึ้นถึง 61% จากรายได้ของ Activision Blizzard ที่เป็นส่วนขับเคลื่อนหลัก
ทั้งนี้ Microsoft ระบุถึง Net Impact จากการเข้าซื้อ Activision Blizzard ที่ทำให้เกิดรายรับมากกว่า 2 พันล้านดอลลาร์ (หรือประมาณ 7 หมื่นล้านบาท) แต่ต้นทุนต่างๆ ที่เกิดขึ้นรวมแล้วกว่า 930 ล้านดอลลาร์ (หรือประมาณ 3.2 หมื่นล้านบาท) และด้วยค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานอื่นๆ ที่เกิดขึ้นอีก จึงทำให้มีผลขาดทุนจากการดำเนินงานอยู่ที่ 440 ล้านดอลลาร์ (หรือประมาณ 1.5 หมื่นล้านบาท)
นอกจากนี้ในไตรมาส 2 งบปี 2024 Microsoft ยังได้เปิดตัวชิป AI ของตัวเอง รวมถึงเริ่มจำหน่าย Copilot AI เป็นโปรแกรมเสริมใน Microsoft 365 ที่แม้ว่าจะยังไม่มีการเปิดเผยจำนวนลูกค้า แต่ CFO อย่าง Amy Hood ระบุว่า Microsoft ยังคงคาดหวังว่ารายได้ส่วนนี้จะเติบโตเมื่อเวลาผ่านไป
อ้างอิง