Axel Springer และ OpenAI แถลงการณ์ร่วมกันถึงความร่วมมือดังกล่าวที่จะยกระดับประสบการณ์ผู้ใช้ ChatGPT ให้เข้าถึงเนื้อหาข่าวที่มีคุณภาพ เชื่อถือได้ และอัปเดตทันสถานการณ์ โดยผู้ใช้สามารถป้อนคำถามผ่าน ChatGPT และจะได้รับสรุปเนื้อหาข่าว พร้อมระบุแหล่งที่มาและลิงก์ไปยังบทความฉบับเต็มเพื่อความโปร่งใสหรือหากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม
OpenAI จะสามารถนำบทความข่าวรวมถึงเนื้อหาแบบ Subscription จากสื่อในมือของ Axel Springer ทั้งหมด ซึ่งประกอบไปด้วย Business Insider และ Politico ในสหรัฐอเมริกา และ Bild and Welt ในยุโรป มาใช้เทรนด์โมเดลประมวลภาษา (LLM) หรือ GPT โดยมีรายงานว่า OpenAI จะทำการจ่ายเงินมูลค่า 10 ล้านยูโรหรือประมาณ 300 ล้านบาทให้กับ Axel Springer ในอีกสามปีข้างหน้า
ท่ามกลางกระแสวิพากษ์วิจารณ์ถึงบริษัทเทคโนโลยีที่มีการนำข้อมูลจากแหล่งต่างๆ มาใช้เทรนด์โมเดล AI ยังเป็นที่ถกเถียงกันถึงความถูกต้อง รวมถึงผลตอบแทนที่ควรได้จากการถูกนำข้อมูลรูปแบบต่างๆ ไปใช้ โดยเฉพาะในวงการข่าวสาร...
สื่อบางเจ้ามีการใช้เครื่องมือ AI สรุปและช่วยเขียนเนื้อหาไปจนถึงการสร้าง AI Reporter ที่พัฒนาจากการนำฐานข้อมูลเดิมมาสร้างต่อยอดพัฒนา อย่างไรก็ตาม AI กับงานข่าวยังมีข้อถกเถียงในหลายมิติ เพราะการใช้เทคโนโลยีช่วยผลิตข่าวถูกตั้งคำถามถึงการเข้ามาสร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับหลักการของวิชาชีพ ไปจนถึงความเสี่ยงที่จะเข้ามาทดแทนบุคลากร เพราะทุกวันนี้เราแทบจะแยกผลงานที่สร้างโดย AI กับผลงานที่ผลิตโดยมนุษย์ไม่ออกแล้ว
ยกตัวอย่าง สื่อยุโรปบางแห่งอย่าง Radio France ได้บล็อกเครื่องมือของ OpenAI เนื่องจากความกังวลเรื่องการรวบรวมข้อมูล หรือ Le Figaro ในฝรั่งเศสกล่าวว่าจะไม่ใช้ AI มาช่วยเขียนข่าว หรือ CNET ในสหรัฐฯ ที่ได้เผยแพร่บทความพร้อมระบุว่านี่คือบทความที่ AI ช่วยเขียน แต่กลับถูกกระแสสังคมตีกลับจนต้องเลิกทำ
ในปีที่ผ่านมาบริษัทเทคฯ ที่สร้างโมเดล AI ของตนอย่าง OpenAI, Google, Microsoft และ Adobe เดินสายเข้าพบผู้บริหารสำนักข่าวจากบริษัทต่างๆ เช่น News Corp, Axel Springer, The New York Times, Guardian Media Group และ Financial Times เพื่อหารือเกี่ยวกับปัญหาลิขสิทธิ์และใบอนุญาตเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ AI ต่างๆ เช่น แชทบอตและเครื่องมือสร้างรูปภาพ
ก่อนหน้านี้ Microsoft นักลงทุนรายใหญ่ของ OpenAI เองก็ได้ทำข้อตกลงกับสื่อรายใหญ่อย่าง Associated Press (AP)โดยทำข้อตกลงอนุญาตให้ OpenAI เก็บข่าวไปเพื่อพัฒนาโมเดล AI และในเดือนเดียวกันนั้น OpenAI ก็ได้ทุ่มเงิน 5 ล้านดอลลาร์ให้กับโครงการ American Journalism Project ซึ่งเป็นองค์กรที่สนับสนุนผู้จัดพิมพ์ในท้องถิ่นเพื่อทดลองให้แต่ละหน่วยงานลองนำ AI มาใช้ในการทำงานได้
Brad Lightcap ซีโอโอของ OpenAI กล่าวในแถลงการณ์ว่า OpenAI มีความต้องการให้สื่อและสำนักข่าวทั่วโลกได้รับประโยชน์จากเทคโนโลยี AI เครื่องมือต่างๆ จะช่วยให้ผู้คนมีวิธีใหม่ในการเข้าถึงเนื้อหาข่าวคุณภาพแบบเรียลไทม์และยังช่วยให้บริษัทสื่อมีรูปแบบการหารายได้ใหม่ๆ
ด้าน Mathias Döpfner ซีอีโอของ Axel Springer แสดงจุดยืนที่เชื่อว่า AI จะสร้างโอกาสในการการทำข่าวที่มีคุณภาพมากยิ่งขึ้นได้ นอกจากนี้ยังสร้างรูปแบบของรายได้ใหม่ๆ ทำให้ธุรกิจการทำข่าวไปสู่อีกระดับหนึ่ง โดยเชื่อว่าการร่วมมือกันครั้งนี้ จะสร้างโอกาสทางการเงินใหม่ๆ ที่สนับสนุนอนาคตที่ยั่งยืนของวงการสื่อสารมวลชน และสร้างความแข็งแกร่งให้กับ “สื่อสารมวลชนในยุค AI”
นอกจากนี้สื่อเจ้าอื่นๆ ก็เริ่มแสดงท่าทียอมรับ AI อย่าง Robert Thomson ผู้บริหารระดับสูงของ News Corp เจ้าของหนังสือพิมพ์ The Times, The Wall Street Journal และ The Sun ที่เคยแสดงความเห็นถึงการเพิ่มมูลค่าสูงสุดให้กับเนื้อหาระดับพรีเมียมด้วยเครื่องมือ AI ด้วยเช่นกันในอนาคต
แน่นอนว่าการเป็นพันธมิตรกับบริษัทเทคฯ ระดับโลกกับวงการสื่อจะถูกจับตามองยิ่งขึ้นหลังจากนี้ แล้วคุณล่ะเห็นด้วยหรือไม่ ถ้านักข่าวใช้เครื่องมือ AI ช่วยเขียนข่าว และ OpenAI ที่จะเดินหน้าจับมือกับสื่อใหญ่ทั่วโลกเพื่อกว้านเนื้อหาข่าวมาฝึกฝน ChatGPT ซึ่งจะกลายเป็นอีกหนึ่งช่องทาในการงการรับข้อมูลข่าวสารอีกทอดหนึ่งหลังจากนี้ ?
อ้างอิง Financial Times, Bloomberg, Engadget