ในการประชุม Reinvent ของ Amazon Web Services (AWS) ที่ลาสเวกัสในครั้งนี้ ผู้ให้บริการคลาวด์ยักษ์ใหญ่ซึ่งเป็นหนึ่งในหน่วยธุรกิจเครือ Amazon.com แสดงให้เห็นถึงความพยายามล่าสุดของในการก้าวสู่สนาม AI ครั้งสำคัญ
AWS เผยโฉม แอมะซอน คิว ‘Amazon Q’ แชตบอตขับเคลื่อนด้วย Generative AI ที่ออกแบบมาเพื่อช่วยการทำงานขององค์กรธุรกิจที่เป็นลูกค้ากว่าล้านรายของ Amazon รวมถึง AWS โดยเฉพาะการวิเคราะห์ข้อมูลธุรกิจและสนับสนุนนักพัฒนานำไปประยุกต์สร้างสถาปัตยกรรมหรือโซลูชันต่างๆ สำหรับแพลตฟอร์มของตน
Amazon Q จะช่วยนักพัฒนาตรวจแก้จุดบกพร่อง ทดสอบ เพิ่มประสิทธิภาพโค้ด สามารถทำการเปลี่ยนแปลงซอร์สโค้ดได้โดยอัตโนมัติ ทำให้นักพัฒนา นักวิเคราะห์ข้อมูล สามารถสำรวจบริการและความสามารถใหม่ๆ ยกระดับการทำงานยากๆ ให้สะดวกยิ่งขึ้นตามความต้องการ เช่น ผู้ใช้สามารถถาม Amazon Q ให้อธิบายถึงการทำงานของแอปพลิเคชันหนึ่ง Amazon Q จะให้รายละเอียดโค้ดที่ใช้ฟังก์ชันต่างๆ เช่น แอปพลิเคชันนี้กำลังสร้างระบบที่ใช้ Python Flask และ AWS Lambda
โดย Amazon Q จะถูกเพิ่มเข้าไปในซอฟต์แวร์ระบบธุรกิจอัจฉริยะของ Amazon และจะมีบทบาทสำคัญในการช่วยองค์กรธุรกิจต่างจัดการข้อมูลมหาศาล โดยสามารถเชื่อมต่อ Amazon Q กับข้อมูลทางธุรกิจและดำเนินการที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของตนได้ ผ่านช่องทางกว่า 40 ช่องทาง เช่น Amazon S3, Dropbox, Confluence, Google Drive, Microsoft 365, Salesforce, ServiceNow และ Zendesk นอกจากนี้ลูกค้ายังสามารถเข้าถึง Amazon Q ผ่านอินเทอร์เฟซการสนทนาจาก AWS Management Console, IDE ของลูกค้า หรือเข้าผ่าน Slack และแอปแชตของบริษัทอื่นๆ อีกด้วย
Amazon Q ได้รับการเทรนด์จากคลังข้อมูลและความเชี่ยวชาญเฉพาะทางโดย AWS ซึ่งจะเชื่อมต่อการใช้งานไปยังโซลูชันด้าน AI อื่นๆ ในเครือ ไม่ว่าจะเป็น Amazon QuickSight, Amazon Connect และ AWS Supply Chain เพื่อสนับสนุนระบบตั้งแต่ต้นน้ำยันปลายน้ำ
นอกจากนี้ Amazon ยังเปิดตัวชิปประมวลผล ‘Graviton4’ ที่ผลิตขึ้นเองเวอร์ชันใหม่ที่จะมีประสิทธิภาพดีขึ้นกว่ารุ่นก่อนถึง 30% รวมถึงชิป AI ‘Trainium2’ เวอร์ชันอัปเดตที่ออกแบบมาเพื่อฝึกฝนโมเดล AI Amazon ซึ่งจะมีประสิทธิภาพที่ดีกว่ารุ่นเดิมถึงสี่เท่า
พร้อมทั้งระบุถึงการขยายความร่วมมือกับ Nvidia ในฐานะซัพพลายเออร์ชิป AI และให้การสนับสนุน AWS เข้าถึงการใช้งาน Nvidia GH200 Grace Hopper Superchips มากกว่า 16,000 ตัว ซึ่งประกอบด้วย Nvidia GPU และชิป GPU เอนกประสงค์ของ Nvidia รวมถึงกลุ่มวิจัยและพัฒนาของ Nvidia ได้
อย่างไรก็ตามการเร่งเครื่องด้าน AI ของยักษ์ใหญ่อีคอมเมิร์ซในครั้งนี้จะช่วยผลักดันให้ AWS โดดเด่นขึ้นและสามารถก้าวทันคู่แข่งที่ล้ำหน้าไปหลายก้าวอย่าง Azure ของ Microsoft และ Google Cloud ของ Alphabet ได้หรือไม่คงต้องจับตาต่อไป
อ้างอิง Amazon , CNBC , Techcrunch