Sam Altman อดีต CEO ของ OpenAI ไม่ธรรมดายังไง ทำไมโลกถึงต้องสนใจแค่เขาย้ายงาน

Samuel Harris Altman หรือที่รู้จักกันในชื่อ “Sam Altman” อดีตผู้บริหาร OpenAI ที่พบเห็นบ่อยเป็นพิเศษตามสื่อข่าวในช่วงสองสามวันมานี้หลังมีข่าวโดนปลดฟ้าผ่าและเดินหน้าเข้าทำงานกับทีมวิจัย AI ของ Microsoft

Sam Altman เป็นใคร มาจากไหน?

Sam Altman เป็นผู้ประกอบการและนักลงทุนชาวอเมริกันเป็นที่รู้จักในฐานะผู้ร่วมก่อตั้งและ CEO ของ OpenAI บริษัทผู้พัฒนาแชตบอตปัญญาประดิษฐ์ที่ปลุกกระแสการลงทุนและใช้ประโยชน์จาก AI ในหลายอุตสาหกรรม 

เช่นเดียวกับผู้บริหารบริษัทเทคโนโลยีชื่อดัง Altman เข้าเรียนสาขา Computer Science ที่มหาวิทยาลัย Stanford ในแคลิฟอร์เนีย และได้ลาออกมาทุ่มเทให้กับการพัฒนาแอปพลิเคชันบนมือถือชื่อ “Loopt” ที่ให้ผู้ใช้แชร์โลเกชันกับเพื่อนและได้เป็นสตาร์ทอัพกลุ่มแรกที่เข้าโครงการ Accelerator ของบริษัท “Y Combinator” จนสามารถระดมทุนจาก VC ได้มากกว่า 30 ล้านดอลลาร์ และเติบโตจนมีมูลค่าแตะ 175 ล้านดอลลาร์ แต่ผู้ใช้ก็เริ่มลดความนิยมลงจนท้ายที่สุดก็ได้ขายกิจการไปในราคา 43 ล้านดอลลาร์ ให้กับแพลตฟอร์มชำระเงิน Green Dot

จากนั้น Altman ได้ก่อตั้งบริษัท VC “Hydrazine Capital” ร่วมกับ Jack Altman น้องชายของเขา และระดมทุนได้ 21 ล้านดอลลาร์ ซึ่งรวมถึง 5 ล้านดอลลาร์ที่มาจากสตาร์อัพ Loopt และเงินทุนจากมหาเศรษฐี Peter Thiel โดยกองทุน Hydrazine ของเขาได้ลงทุนในสตาร์ทอัพภายใต้ Y Combinator 

และต่อมาในปี 2014-2019 Altman ได้เข้าดำรงตำแหน่งประธานบริษัท Y Combinator ซึ่งเป็น Startup Accelerator ที่เคยให้เงินทุนในรอบ Seed Funding กับบริษัทอย่าง Airbnb, Dropbox และ Stripe รวมถึงเป็นผู้นำในการลงทุนรอบ Series B มูลค่า 50 ล้านดอลลาร์ของแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียอย่าง Reddit ทั้งยังเคยเป็น Angel Investor ให้กับสตาร์ทอัพกว่า 100 ราย ซึ่งรวมไปถึง Asana, Instacart และ Pinterest

สำหรับบริษัท OpenAI ที่กำลังเป็นประเด็นอยู่นี้เดิมที Altman เป็น Co-Founder ร่วมกับ Elon Musk, Ilya Sutskever, Greg Brockman, John Schulman และ Wojciech Zaremba ในปี 2015 โดยเริ่มต้นจากการเป็นบริษัทไม่แสวงผลกำไร ที่มีเป้าหมายอันยิ่งใหญ่ในการสร้างคอมพิวเตอร์ที่สามารถนึกคิดได้เช่นเดียวกับมนุษย์ในทุกๆ ด้าน และนำมาใช้เพื่อประโยชน์สูงสุดของมนุษยชาติ

หลังจากการนำของ Altman ในปี 2019 ในฐานะซีอีโอ OpenAI ก็ได้ปรับเปลี่ยนมาสู่ธุรกิจแสวงกำไรและกลายเป็นผู้นำในเทคโนโลยี Generative AI และภายในไม่กี่เดือนก็สามารถระดมทุนจาก Microsoft ได้ถึง 1 พันล้านดอลลาร์ และเปิดตัว ChatGPT ในช่วงปลายปี 2022 จนกลายเป็นแพลตฟอร์มโตเร็วที่สุดเท่าที่เคยมีมาโดยเข้าถึงผู้ใช้ 1 ล้านคนในเวลาเพียงไม่ถึงสัปดาห์

นอกจากนี้ Altman ยังเป็นที่ปรึกษาให้กับ Stellar Development Foundation (SDF) องค์กรไม่แสวงผลกำไรซึ่งมีเป้าหมายเพื่อสร้างการเข้าถึงระบบการเงินโลกอย่างทัดเทียมโดยใช้เทคโนโลยีบล็อกเชน และเป็นผู้ร่วมก่อตั้งโปรเจกต์คริปโตฯ “WorldCoin”

อย่างไรก็ตามสำหรับความมั่งคั่งของ Altman ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่ามีมูลค่าความมั่งคั่งสุทธิอยู่ที่เท่าไร แต่มีการคาดการณ์ว่าจะอยู่ที่ราว 500-700 ล้านดอลลาร์ จากการลงทุนในบริษัทอีกหลายแห่ง จึงไม่เป็นที่แปลกใจว่าทำไมความเคลื่อนไหวของเขาจึงเป็นที่จับตาของทั้งโลกในฐานะบุคคลสำคัญที่เป็นทั้งผู้ประกอบการ นักลงทุนและผู้ขับเคลื่อนวงการ AI ที่ได้เข้ามาเปลี่ยนชีวิตของผู้คน

อ้างอิง

Entrepreneur, Techopedia, TheStreet