ล่าสุด Netflix รายงานผลประกอบการไตรมาสที่ 3 มีรายได้ 8.54 พันล้านดอลลาร์ (หรือประมาณ 3.1 แสนล้านบาท) ตามที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ โดยเพิ่มขึ้นจากไตรมาสที่ 2 ที่มีรายได้ 8.18 พันล้านดอลลาร์ (หรือประมาณ 2.98 แสนล้านบาท)
ขณะที่ยอดสมัครสมาชิกก็พุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากความพยายามยับยั้งการแชร์รหัสผ่านที่ทำให้ผู้ใช้หลายคนเกิดความไม่พอใจ กลับส่งผลดีที่ทำให้มียอด Subscription เพิ่มขึ้นอีก 8.76 ล้านบัญชีทั่วโลก
ซึ่งเป็นจำนวนที่สูงที่สุดนับตั้งแต่ช่วงไตรมาส 2 ของปี 2020 ที่มียอดสมัครสมาชิกเพิ่มขึ้น 10.1 ล้านบัญชี จากมาตรการในช่วงโควิดที่ทำให้คนอยู่บ้านมากขึ้น ปิดไตรมาสที่ 3/2023 ด้วยยอดสมัครสมาชิกรวม 247 ล้านบัญชี เพิ่มขึ้น 11% จากปีก่อนหน้า
พร้อมกันนี้ Netflix ก็ได้ประกาศปรับขึ้นราคาสำหรับผู้ใช้ในสหรัฐฯ โดยแผนรับชมแบบพื้นฐานจะปรับเพิ่ม 2 ดอลลาร์ เป็น 11.99 ดอลลาร์ (หรือประมาณ 436.42 บาท) ขณะที่การสมัครสมาชิกแบบพรีเมียมเพิ่มขึ้น 3 ดอลลาร์ เป็น 22.99 ดอลลาร์ (หรือประมาณ 836.81 บาท)
ขณะเดียวกันทาง Netflix ได้ระบุด้วยว่าความพยามยามที่จะจำกัดการแชร์รหัสผ่านนั้นเป็นตัวช่วยเพิ่มจำนวนสมาชิกและการเติบโตของรายได้ในช่วงสองไตรมาสที่ผ่านมา พร้อมเสริมว่าการยกเลิกบัญชีของผู้ใช้นั้นต่ำกว่าที่คาดไว้
และในไตรมาสท่ี 4 บริษัทคาดการณ์รายได้เพิ่มขึ้นอีก 11% แตะ 8.69 พันล้านดอลลาร์ (หรือประมาณ 3.16 แสนล้านบาท) ซึ่งต่ำกว่าการคาดการณ์ของ Wall Street ที่ 8.77 พันล้านดอลลาร์ (หรือประมาณ 3.19 แสนล้านบาท)
ทั้งนี้ Netflix ระบุว่าการแข็งค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมาจะส่งผลให้รายรับในไตรมาส 4 ชะลอตัวราว 200 ล้านดอลลาร์ (หรือประมาณ 7.27 พันล้านบาท)
อ้างอิง