Disney+ ขอตามรอย Netflix ขึ้นราคาอีก เตรียมปราบปราม ผู้ใช้ที่แชร์รหัสผ่าน

Tech & Innovation

Tech Companies

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

Tag

Disney+ ขอตามรอย Netflix ขึ้นราคาอีก เตรียมปราบปราม ผู้ใช้ที่แชร์รหัสผ่าน

Date Time: 10 ส.ค. 2566 11:55 น.

Video

"CINDY CHAO The Art Jewel" สองทศวรรษอัญมณีศิลป์ | Brand Story Exclusive EP.4

Summary

  • สตรีมมิงพากันขึ้นราคาและออกมาตรการบังคับผู้ใช้ตามกันติดๆ ล่าสุด Disney+ ประกาศขึ้นราคารอบใหม่ หวังเพิ่มรายได้หลังจากผลดำเนินการปีนี้ไม่สู้ดีนัก ดูเหมือนว่าภารกิจของ Bob Iger ซีอีโอ Disney จะเป็นไปอย่างยากลำบากและยังไม่สามารถพลิกฟื้นกำไรและทำให้บริษัทในตำนานอย่าง กลับมาเฉิดฉายในสนามนี้ได้อีก

Latest


สำหรับการขึ้นราคาสำหรับผู้ใช้งานในสหรัฐฯ ครั้งนี้นับเป็นครั้งที่สอง และจะมีผลในวันที่ 12 ตุลาคม เป็นต้นไปโดย Disney+ Premium (แพ็กเกจแบบไม่มีโฆษณา) จะปรับขึ้นเป็น 13.99 เหรียญต่อเดือน (490 บาท) จาก 10.99 ดอลลาร์ (386 บาท) รวมถึงบริการ Hulu เป็น 17.99 เหรียญต่อเดือน (632 บาท) เพิ่มขึ้นจาก 14.99 เหรียญ (526 บาท) อย่างไรก็ตามแพ็กเกจรองรับโฆษณาทั้ง Disney+ และ Hulu จะยังคงอยู่ที่ 7.99 เหรียญต่อเดือน (280 บาท) 

พร้อมกันนี้ยังประกาศถึงแผนการปราบปรามผู้ใช้ที่แชร์รหัสผ่านภายในปีหน้าเหมือน Netflix ที่ได้เริ่มใช้นโยบายดังกล่าวเมื่อเดือนพฤษภาคมปีนี้ แถมได้ผลลัพธ์ที่ดีทั้งด้านรายได้และผู้ใช้ โดยเชื่อว่าบริษัทจะสามารถสร้างรายได้ต่อจากผู้ใช้ที่เลือกสมัครแพ็กเกจไม่มีโฆษณา ได้มากกว่าที่ไม่มีโฆษณาเช่นเดียวกับ Netflix ซึ่งกลับกลายเป็นว่ารายได้บริษัทเพิ่ม บัญชีผู้ใช้งานเพิ่มขึ้นถึง 5.9 ล้านบัญชีเลยทีเดียว

สำหรับในประเทศไทยเองก็เพิ่งมีการประกาศขึ้นราคาแพ็กเกจในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ในราคา Disney+ Hotstar แบบพรีเมียม อยู่ที่ 289 บาทต่อเดือน และ 2,290 บาทต่อปี และเปิด Disney+ Hotstar สำหรับมือถือเพื่อเป็นทางเลือกเพิ่มเติม  

Bob Iger CEO ของ Disney เปิดเผยว่า บริษัทกำลังสำรวจวิธีการจัดการกับการแบ่งปันบัญชี และตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับสมาชิกที่ชำระเงินเพื่อแบ่งปันบัญชีกับเพื่อนและครอบครัว โดยภายในปีนี้ Disney จะเริ่มอัปเดตนโยบายการแชร์รหัสผ่านและข้อตกลงใหม่เกี่ยวกับการสมัครสมาชิก

การปรับกลยุทธ์ในครั้งนี้สืบเนื่องจากผลประกอบการไตรมาส 3 ของ Disney อยู่ที่ 22.3 พันล้านเหรียญ ซึ่งต่ำกว่าคาด โดยเฉพาะแผนกสตรีมมิงขาดทุน 512 ล้านดอลลาร์ แถมจำนวนสมาชิกถอนตัวต่อเนื่อง ด้านนักวิเคราะห์ให้ความเห็นว่า การปราบปรามจะทำให้ Disney+ มีบัญชีผู้ใช้งานเพิ่มอีก 33 ล้านครัวเรือน และอาจทำให้ผลดำเนินการไตรมาสหลังจากนี้มีทิศทางที่ดีขึ้น 

อ้างอิง  CNN Business CNBC, Variety 


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ