Alphabet Inc. บริษัทแม่ของ Google รายงานผลประกอบการในไตรมาส 2 ซึ่งเกินความคาดหมายของบรรดานักวิเคราะห์ โดยมีปัจจัยสำคัญจากโฆษณาในธุรกิจเสิร์ชเอนจินเป็นตัวทำรายได้ ไม่หวั่นแม้จะมีการแข่งขันแชตบอต AI ใหม่ๆ เข้ามาท้าทาย
โดยในไตรมาสนี้ทำรายได้ 7.46 หมื่นล้านดอลลาร์ (หรือประมาณ 2.55 ล้านล้านบาท) เพิ่มขึ้น 7% จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้วที่ 6.97 หมื่นล้านดอลลาร์ (หรือประมาณ 2.38 ล้านล้านบาท) และสูงกว่าการคาดการณ์ของ Wall Street ที่คาดการณ์ไว้ที่ 7.28 หมื่นล้านดอลลาร์ (หรือประมาณ 2.49 ล้านล้านบาท)
และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 1.83 หมื่นล้านดอลลาร์ (หรือประมาณ 6.32 แสนล้านบาท) คิดเป็นกำไรต่อหุ้น (EPS) เพิ่มขึ้นจากการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์อยู่ที่ 1.44 ดอลลาร์ (หรือประมาณ 49.55 บาท)
ขณะที่รายได้จากการโฆษณา (Search Advertising) ทำเงินได้ 4.26 หมื่นล้านดอลลาร์ (หรือประมาณ 1.46 ล้านล้านบาท) เทียบกับประมาณการเฉลี่ยของนักวิเคราะห์ที่ 4.22 หมื่นล้านดอลลาร์ (หรือประมาณ 1.45 ล้านล้านบาท) โดยหลังจากเปิดงบหุ้นของ Alphabet ก็ปรับตัวเพิ่มขึ้น 7% ในการซื้อขายล่าสุด
ในส่วนของ Google Cloud ก็เติบโตอย่างแข็งแกร่ง โดยมีรายได้เพิ่มขึ้น 28% เป็น 8.03 พันล้านดอลลาร์ (หรือประมาณ 2.76 แสนล้านบาท) และทำกำไรไปได้ 395 ล้านดอลลาร์ (หรือประมาณ 1.35 หมื่นล้านบาท) ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 163 ล้านดอลลาร์ (หรือประมาณ 5.60 พันล้านบาท)
และสำหรับยอดขายของ YouTube ในไตรมาสที่ 2 เพิ่มขึ้น 4.4% จากปีที่แล้ว เป็น 7.67 พันล้านดอลลาร์ (หรือประมาณ 2.63 แสนล้านบาท) สูงกว่าการคาดการณ์ของ Wall Street ที่ 7.4 พันล้านดอลลาร์ (หรือประมาณ 2.54 แสนล้านบาท) โดยฟื้นขึ้นหลังมียอดขายตกลงสามไตรมาสติดในช่วงก่อนหน้า
นอกจากนี้ในส่วนของธุรกิจอื่นๆ ของ Alphabet ซึ่งรวมไปถึง Waymo บริษัทที่พัฒนารถยนต์ไร้คนขับ และ Verily บริษัทด้านธุรกิจเพื่อสุขภาพทำรายได้ในไตรมาสที่ 2 ไปได้ 285 ล้านดอลลาร์ (หรือประมาณ 9.76 พันล้านบาท) ขณะที่ผลขาดทุนลดเหลือ 813 ล้านดอลลาร์ (หรือประมาณ 2.78 หมื่นล้านบาท)
อ้างอิง