หลังกระแสเปิดตัว 'Threads' โซเชียลมีเดียน้องใหม่ในเครือ Meta ที่ถูกยกให้เป็นคู่แข่ง ‘Twitter Killer’ เพราะรูปแบบหน้าตาและการใช้งานที่เหมือน Twitter โดยหลังเปิดให้ใช้งานอย่างเป็นทางการใน 100 กว่าประเทศ รวมถึงประเทศไทย ตามเวลาบ้านเวลาสามทุ่มที่ผ่านมา มีผู้ดาวน์โหลดเข้าใช้แล้วกว่า 2 ล้านยูสเซอร์ทั่วโลกตั้งแต่ 2 ชั่วโมงแรก ขึ้นท็อปอันดับ 1 ใน App Store
.
** Thairath Money เองก็ไปเปิดตลาดแล้ว ตามไปฟอลกันได้เลย https://threads.net/@thairathmoney
หน้าตา Threads มีความเป็น Instagram ซึ่งเป็น DNA เดิมผสมผสานกับความเป็น Text-Based Conversation App แบบ Twitter มีรูปแบบการพูดคุย การรับข้อมูลที่เน้นโพสต์ที่เป็นข้อความ ทั้งโพสต์กระแส โพสต์จากเพื่อนๆ โพสต์จากบัญชีที่เราติดตาม อย่างไรก็ตามภาพและวิดีโอ (โพสต์ภาพสูงสุด 10 รูป วิดีโอความยาวสูงสุด 5 นาที)
Threads มีอินเทอร์เฟซเรียบง่าย มีความเฟรนด์ลี่ต่อผู้ใช้ เราสามารถกดถูกใจ แสดงความคิดเห็น โพสต์ใหม่ รีโควตโพสต์คนอื่น และแชร์ Threads และแชร์โพสต์จาก Threads มายัง Story ใน Instagram และแพลตฟอร์มอื่นๆ ด้วยเช่นกัน
- การใช้งาน Threads จะใช้บัญชี Instagram ในการล็อกอิน ระบบจะเชื่อมต่อมายังหน้าแอปฯ Threads และเชื่อมโยงข้อมูลโปรไฟล์และข้อมูลผู้ติดตาม Followers/Followings ของเราจาก Instagram โดยอัตโนมัติ ไม่ต้องสมัครบัญชีใหม่ ยืนยันตัวตนใหม่
- ช่องทางการใช้งาน เราสามารถเข้าใช้ได้จากหน้าเว็บไซต์ Thread.net หรือดาวน์โหลดแอปพลิเคชันได้ทั้งใน iOS และ Android
- จากนั้นระบบจะให้เรา ตั้งค่าชื่อ รูปดิสเพลย์ และข้อมูล Bio ตามด้วยการเลือกว่าจะตั้งค่าเป็น บัญชีสาธารณะ (Public) และบัญชีส่วนตัว (Private)
อีกหนึ่งความน่าสนใจอยู่ตรงที่ มาร์ค ซัคเกอร์เบิร์ก ยังบอกว่า ‘Future version’ ของ Threads จะอยู่บน Fediverse กล่าวง่ายๆ คือ แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียที่จะทำงานบนแพลตฟอร์มแบบ Decentralized network สามารถแลกเปลี่ยนหรือแชร์กันได้ข้ามโปรโตคอล แบบ Mastodon, Norze เป็นต้น เราจึงเห็นการเชื่อมต่อข้อมูลจาก Instagram มาปรากฏใน Threads ซึ่งก็ยังเป็นของ Meta อยู่ ซึ่งในอนาคต เครือข่าย Meta อาจไปโผล่ใน Decentralized Social media อื่นๆ ก็เป็นได้
เรียกได้ว่า การเปิดตัว Threads เกิดขึ้นต่อเนื่องหลังจาก Twitter แอปฯ ยอดนิยมเผชิญมรสุมหลังจาก อีลอน มัสก์ เข้าควบคุมกิจการทั้งหมดพร้อมปรับกฎระเบียบการใช้งานอย่างปั่นป่วน โดยเฉพาะการกำหนดข้อจำกัดเพิ่มเติมสำหรับผู้ใช้ที่ทำให้หลายคนไม่พอใจ ไม่ว่าจะเป็น การจำกัดการมองเห็น การสมัคร Twitter Blue ที่ต้อง Subscription เพื่อรับสิทธิพิเศษเฉพาะ เป็นต้น
อ้างอิง New York Times , Meta