เมื่อวันพุธที่ผ่านมาทางสหภาพยุโรป (EU) ยื่นฟ้อง Google ว่ามีพฤติกรรมละเมิดกฎการป้องกันการผูกขาดในเทคโนโลยีการโฆษณาหรือที่รู้จักกันในชื่อ AdTech พร้อมแนะว่า Google อาจจะต้องระงับธุรกิจเพื่อจัดการกับข้อกังวลที่เกิดขึ้น และปฏิบัติตามกฎการแข็งขันของสหภาพยุโรปต่อไป
ทางด้านคณะกรรมาธิการยุโรป (European Commission) ซึ่งเป็นฝ่ายบริหารของสหภาพยุโรป ได้ข้อสรุปเบื้องต้นว่า Google เป็นบริษัทที่มีอำนาจและบทบาทสำคัญในตลาดยุโรปสำหรับเซิร์ฟเวอร์โฆษณา และจำเป็นสำหรับการลงโฆษณาออนไลน์ระบบอัตโนมัติบนเว็บไซต์ พร้อมบอกว่า Google ได้ใช้อำนาจที่มีในทางที่ผิดมาแล้วอย่างน้อย 9 ปี ตั้งแต่ 2014
ทั้งนี้ ความเห็นเบื้องต้นของทางคณะกรรมาธิการฯ คือ การบังคับถอนการลงทุนบางส่วนจึงจะสามารถจัดการกับปัญหาดังกล่าวได้ ซึ่งนี่ถือเป็นครั้งแรกที่คณะกรรมาธิการฯ ร้องให้มีการหยุดการดำเนินงานในธุรกิจบางส่วน
นอกจากนี้หัวหน้าฝ่ายการแข่งขันของสหภาพยุโรปยังได้กล่าวอีกว่า Google เก็บรวบรวมข้อมูลของผู้ใช้งาน รับบทเป็นตัวกลางการโฆษณาบนโลกออนไลน์ พร้อมกับขายพื้นที่โฆษณา ซึ่งทำให้บริษัทเทคเจ้านี้มีบทบาทอยู่ในทุกระดับในซัพพลายเชนของ Adtech
พร้อมกล่าวเพิ่มเติมอีกว่าทางคณะกรรมาธิการฯ มีความกังวลว่า Google อาจใช้บทบาททางการตลาดมาสนับสนุนบริการของตัวเอง ซึ่งไม่เพียงแค่เป็นการเอาเปรียบคู่แข่งเท่านั้น แต่ยังไม่เป็นผลดีกับผู้เผยแพร่โฆษณาด้วย ขณะเดียวกันก็เป็นการเพิ่มภาระทางต้นทุนของลูกค้าที่ลงโฆษณา
หากรายละเอียดต่างๆ ได้รับการยืนยัน แนวทางการทำงานของ Google จะถือว่าเป็นสิ่งผิดกฎหมายภายใต้กฎการแข่งของสหภาพยุโรป
และในส่วนของ Alphabet ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ Google จะยังคงมีโอกาสในการอ่านข้อกังวลจากทางคณะกรรมาธิการฯ และสามารถทำหนังสือแก้ต่างเป็นลายลักษณ์อักษรตลอดจนกล่าวอธิบายข้อกังขาต่างๆ ที่เกิดขึ้นในประเด็นนี้
อ้างอิง