สถิติจาก International Data Corporation (IDC) ได้ติดตามการจัดส่ง VR Headset ทั่วโลก ระบุ ตัวเลขล่าสุดของไตรมาสแรกปี 2566 ที่ชะลอตัวลงถึง 54.4% จากปีที่แล้วซึ่งเป็นผลจากเศรษฐกิจที่ซบเซาและตลาด Virtual Reality ที่คึกคักน้อยลงหากเทียบกับช่วงแพร่ระบาดโควิด โดยเฉพาะแว่น VR ที่ยอดการจัดส่งตกลงไปกว่า 96.2%
โดยปัจจุบันบรรดาผู้ผลิตชุดหูฟัง AR/VR 5 อันดับแรก ผู้เล่นอันดับหนึ่งในตลาด คือ Meta ที่ยังครองส่วนแบ่งอยู่ 48% ครองตำแหน่งผู้นำตลาดแว่น VR ต่อเนื่องจากที่เคยกินสัดส่วนถึง 95% ในปี 64 โดยมีรุ่นขายดีอย่าง Meta Quest และ Oculus Rift อันดับสอง คือ Playstation VR ของ Sony ซึ่งมีส่วนแบ่ง 36% อันดับสาม คือ Pico ของ Bytedance รุ่น Pico Neo 3 จากค่ายผู้ผลิตจีน ซึ่งมีส่วนแบ่ง 6% และอีกสองค่ายจีนที่มีสัดส่วนน้อยกว่า 2% คือ DPVR รุ่น P1 Pro และ HTC รุ่น Vive Pro
สำหรับยี่ห้ออื่นๆ ที่ถูกผลิตออกมาจำนวนมากจากเทคคอมปะนีรายอื่นที่เราเคยได้ยินกันนั้นล้วนมีสัดส่วนในตลาดล่าสุดต่ำกว่า 1% เช่น Hololens หรือ Windows Mixed Reality ของ Microsoft, Google Glass ของ Google, Magic Leap หรือ Valve Index
ทั้งนี้สำหรับจบไตรมาสแรก มีการคาดการณ์ว่า จะเติบโตเพิ่มขึ้น 12.6% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งได้แรงหนุนจากอุปกรณ์ AR เจ้าอื่นๆ ที่กำลังเป็นที่นิยมในหมูเกมเมอร์อย่างแว่นตา Xreal และการเปิดตัวครั้งล่าสุดของ Apple ยักษ์ใหญ่ที่ได้ก้าวสู่ตลาด VR อย่างเป็นทางการที่สร้างแรงกระเพื่อมให้กับตลาดอีกครั้งด้วยการเปิดตัว Vision Pro มูลค่าหลักแสนบาทที่จะออกสู่ตลาดในต้นปีหน้านี้ อ่านต่อ Apple เปิดตัว Vision Pro แว่น VR ราคาหลักแสน โปรดักต์ใหม่ครั้งแรกในรอบเกือบ 10 ปี
อ้างอิง IDC