อีลอน มัสก์ ทวงคืนตำแหน่งบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในโลกกลับมาอีกครั้ง อ้างอิงจากสถิติของ Bloomberg Billionaires ซึ่งประเมินมูลค่าสุทธิอยู่ที่ประมาณ 19.2 พันล้านเหรียญ หรือประมาณ 6.6 หมื่นล้านบาท
หลังจาก เบอร์นาร์ด อาร์โนลต์ ผู้กุมอาณาจักรแอลวีเอ็มเอช โมเอต์ เฮนเนสซี่ หลุยส์ วิตตอง หรือ LVMH ขึ้นครองอันดับหนึ่งแซงหน้ามัสก์เป็นครั้งแรกในเดือนธันวาคมปีทีผ่านมา โดยปัจจุบันมูลค่าสุทธิลดลงเหลือ 18.7 พันล้านเหรียญ จาก 2 แสนล้านเหรียญ หลังจากหุ้นปรับตัวลดลง 2.6% ในช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ ไตรมาสแรกของปี 66 หุ้นของ Tesla เพิ่มขึ้น 65.6% ดันให้สัดส่วนการตอบแทนของมัสก์ ที่ถือหุ้นอยู่ 13% ซึ่งคิดเป็น 71% ของทรัพย์สินทั้งหมด นอกจากนี้ยังได้รับอานิสงส์จากยอดขายที่เพิ่มขึ้นในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีที่ผ่านมาหลังจากการปรับราคาลงในสหรัฐอเมริกา
มากไปกว่านั้น หุ้นยังพุ่งขึ้นอีกหลังจากมัสก์เดินทางเยือนประเทศจีนในรอบ 3 ปี และได้เข้าพบ นายฉิน กัง รัฐมนตรีต่างประเทศจีน และ เจิ้งอวี่ฉวิน ประธานบริษัท CATL ผู้ผลิตแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าเจ้าใหญ่ของจีน โดยปัจจุบันมัสก์มีรายได้มากกว่า 55.3 พันล้านเหรียญ
บริหารธุรกิจหลัก 5 อย่าง ได้แก่ Telsa แบรนด์ผู้ผลิตรถยนต์ที่มีมูลค่ามากที่สุดในโลก, SpaceX บริษัทผลิตจรวดอวกาศและจัดหาสถานีอวกาศ, Boring Company บริษัทวางระบบอุโมงค์ใต้ดิน ผู้ในสหรัฐฯ ผู้ผลิต Las Vegas Convention Center (LVCC), Hyperloop Test Track และ R&D Tunne, Neuralink Corporation บริษัทด้านเทคโนโลยีประสาทที่กำลังพัฒนาโปรเจกต์เชื่อมโยงระหว่างสมองกับคอมพิวเตอร์, Twitter บริษัทโซเชียลมีเดียยอดนิยม ซึ่งภายหลังเปลี่ยนชื่อเป็น X Corp
อ้างอิง CNN, Bloomberg Billionaires Index , CNBC