สำหรับไตรมาสนี้สิ้นสุด ณ เดือนมีนาคม 2566 Meta งบดีเกินคาด ทำรายได้ไป 28.6 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 3% จากที่ลดลงสามไตรมาสติดต่อกัน หลังเผชิญความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ การแข่งขันที่สูงขึ้นในตลาดโซเชียลมีเดีย พร้อมกับค่าใช้จ่ายการปรับโครงสร้างลดต้นทุนการดำดนินงานและการเลิกจ้างไปกว่า 25,000 ตำแหน่งในช่วงสองปีที่ผ่านมา
รายได้ส่วนใหญ่มาจากการให้บริการแอปฯ ในเครือ Facebook, Instagram, Messenger, WhatsApp และการแสดงโฆษณา 28.3 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 26% ส่วน Reality labs หน่วยงานที่พัฒนาเทคโนโลยีด้าน VR ของบริษัท ยังขาดทุนต่อเนื่อง 339 ล้านดอลลาร์ ลดลงไปกว่า 60% จาก 695 ล้านดอลลาร์ในปีก่อน ยอดขาดทุนสุทธิมากสุดในผลการดำเนินงานของบริษัทกว่า 4 พันล้านดอลลาร์ โดยยอดขายชุด VR Headsetในสหรัฐอเมริกาลดลง 2% เมื่อเทียบเป็นรายปี ณ ต้นเดือนธันวาคม 2565
ทั้งนี้หุ้นพุ่งขึ้นถึง 12% หลังจากรายงาน โดยกำไรต่อหุ้นอยู่ที่ 2.20 ดอลลาร์ ตัวเลขล่าสุดของผู้ใช้ที่ใช้งานรายเดือนอยู่ที่ 2.99 พันล้านบัญชี ผู้ใช้ที่ใช้งานรายวัน 2.04 พันล้านบัญชี ซึ่งเป็นสัญญาณที่ดีขึ้นหลังจากความกังวลเกี่ยวกับการเติบโตของผู้ใช้ที่ซบเซาในปีที่แล้ว
ซีอีโอ มาร์ค ซักเกอร์เบิร์ก กล่าวว่า เรามีไตรมาสที่ดีและชุมชนเมตายังคงเติบโต ยืนยันพัฒนาธุรกิจ Metaverse ต่อ แม้ว่า Reality labs หรือหน่วยงานที่พัฒนาเทคโนโลยีด้าน VR ของบริษัทจะขาดทุนสุทธิมากสุดในผลการดำเนินงาน 4 พันล้านดอลลาร์ ทั้งนี้บริษัทจะให้ความสำคัญกับ AI ในปีนี้ หลังจากเห็นผลลัพธ์ที่ช่วยให้บริษัทสร้างผลิตภัณฑ์ที่รวดเร็วยิ่งขึ้นเกิดผลลัพธ์ที่ดีต่อแอปพลิเคชันและธุรกิจ มาร์คกล่าวว่า AI เพิ่มประสิทธิภาพการสร้างรายได้ของ Reels เพิ่มขึ้นมากกว่า 30% บน Instagram และบน Facebook มากกว่า 40%
“Reels เติบโตอย่างรวดเร็วงบน Facebook และ Instagram ขณะนี้ผู้ใช้แชร์คลิป 2 พันล้านครั้งต่อวัน ซึ่งเป็นตัวเลขที่เพิ่มขึ้นสองเท่าในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา Meta เชื่อว่าผลิตภัณฑ์ Reels กำลังได้รับส่วนแบ่งในวิดีโอแบบสั้น ซึ่งเป็นพื้นที่ที่แข่งขันกับ TikTok และ YouTube Shorts” มาร์คกล่าว
มาร์คกล่าว บริษัทจะเพิ่มเปอร์เซ็นต์จากจุดแข็งของบริษัท การจัดลำดับความสำคัญของโครงการอย่างเข้มงวดมากขึ้นจะช่วยปรับปรุงความเร็วและคุณภาพของงานของเรา อย่างไรก็ตามทิศทางในปีนี้ Meta สนใจลงทุน AI เพิ่มขึ้น สำหรับรองรับโฆษณาทั้ง Ads, Feed and Reels พร้อมด้วยโมเดล LLM ที่พึ่งปล่อยออกมาให้ใช้งาน และอีกหลายโครงการหลังจากนี้ สำหรับ Metaverse จะยังคงพัฒนาต่อไป