Apple ออกบริการเสริม บัญชีออมทรัพย์ดอกเบี้ยสูง 4.15% ต่อปี ไม่มีขั้นต่ำ ไม่มีค่าธรรมเนียม

เรียกได้ว่าทำเอาวงการธนาคารสะเทือนไม่น้อย เมื่อ Apple Card ซึ่งเป็นบัตรเครดิตของ Apple ออกบริการเสริมให้ผู้ใช้เปิดบัญชีออมทรัพย์ ที่ให้อัตราผลตอบแทนต่อปี (APY) สูงถึง 4.15% โดยไม่มีข้อกำหนดยอดเงินฝากขั้นต่ำ และไม่มีค่าธรรมเนียม 

ผู้ใช้สามารถตั้งค่าและจัดการบัญชีออมทรัพย์ได้โดยตรงจาก Apple Card ใน Apple Wallet บน iPhone ปัจจุบันให้บริการเริ่มต้นในสหรัฐฯ และยังไม่มีการให้บริการในประเทศไทย โดยบริการเสริมจะได้รับประกันเงินฝากโดย FIDC สถาบันคุ้มครองเงินฝากของสหรัฐอเมริกา สูงสุดไม่เกิน 250,000 ดอลลาร์สหรัฐ 

วิธีการเปิดบัญชีฝากเงินใน Apple Wallet

1) ผู้ใช้เข้าใช้งาน Apple Card บน iPhone ผ่านแอปพลิเคชัน Apple Wallet

2) เมื่อกดเลือก Daily Cash เพื่อสร้างและตั้งค่าบัญชีออมทรัพย์ เงินทั้งหมดที่มีในวอลเล็ตจะถูกฝากเข้าบัญชีออมทรัพย์โดยอัตโนมัติ

3) ผู้ใช้สามารถเข้าถึงหน้ารวมบัญชีเงินฝาก เพื่อติดตามยอดเงินปัจจุบัน อัตราดอกเบี้ย และการทำธุรกรรมล่าสุดโดยตรง ผ่านแอปพลิเคชัน Apple Wallet

4) ผู้ใช้ยังสามารถฝากเงินเพิ่มเติมในบัญชีออมทรัพย์ ผ่านบัญชีธนาคารทั่วไปและถอนเงินได้ตลอดเวลา พร้อมกับโอนไปยังบัญชีธนาคารทั่วไป หรือไปยังบัตร Apple Cash โดยไม่มีค่าธรรมเนียม

เดิมทีบริการสะสมเงินคืนจากส่วนลดเมื่อใช้จ่ายกับร้านค้าพิเศษหรือ Apple Store จะ Cash back คืนมายังบัญชี Appel Card ที่มี Goldman Sachs เป็นผู้อยู่เบื้องหลังการประเมิน และให้บริการจัดการ Virtual Card นี้อยู่ บริการบัญชีออมทรัพย์ใหม่นี้จะต่อยอดจากบริการเดิม

Ted Rossman นักวิเคราะห์อุตสาหกรรมอาวุโสของ CreditCards.com กล่าวว่า Apple Card ให้บริการอย่างกว้างขวางสำหรับคนส่วนใหญ่ จึงเป็น "ตัวเลือกเริ่มต้นที่ดี" โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่เพิ่งเริ่มใช้เครดิต

สำหรับดอกเบี้ย 4.15% ของ Apple Card ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่สูง โดย APY เฉลี่ยของประเทศในบัญชีออมทรัพย์ธนาคารทั่วไปอยู่ที่ 0.35% ตามข้อมูลของ FDIC

Jennifer Bailey รองประธานฝ่าย Apple Pay และ Apple Wallet เปิดเผยว่า เป้าหมายของ Apple ในการรุกผลิตภัณฑ์ทางการเงินครั้งนี้ เพื่อต้องการเครื่องมือทางการเงินที่ช่วยให้ผู้ใช้มีการเงินที่ดีขึ้น การเสนอวิธีการออมเงินง่ายๆ ที่ช่วยให้ผู้ใช้ได้รับประโยชน์มากขึ้น นอกเหนือจากสิทธิประโยชน์ของ Apple Card ซึ่งการออมเงินใน Apple Card ยังช่วยให้ผู้ใช้สามารถใช้จ่าย บันทึกกระแสเงินสดรายวันได้อย่างง่ายดาย และทำทั้งหมดได้ภายในที่เดียว (Save Daily Cash directly and seamlessly)

ความเคลื่อนไหวดังกล่าว ทำให้ Apple น่าจับตามองมากยิ่งขึ้นว่า จะมีเป้าหมายไปในทิศทางใด หลังจากเปิดตัวเครื่องมือทางการเงินมาอย่างต่อเนื่อง เชื่อมโยงผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่เข้าถึงได้ผ่านผู้ใช้ iPhone กว่าพันล้านคนทั่วโลก การก้าวเข้ามาของผู้ให้บริการที่ไม่ใช่ธนาคาร และไม่จำเป็นต้องมีสาขา จะมีทิศทางในวงการการเงินอย่างไร ต้องติดตามกันต่อไป. 

อ้างอิง Apple