2 บิ๊กเทค Alphabet - Amazon ผลงานตก รายงานกำไรปี 65 ออกมาต่ำคาด เซ่นพิษจากเศรษฐกิจมหภาค

Alphabet บริษัทแม่ Google กำไรลด 21%

Alphabet บริษัทแม่ของ Google และ YouTube ประกาศผลการดำเนินงานปี 2565 มีรายได้รวมอยู่ที่ 2.8 แสนล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 10% จากปีก่อน ขณะที่กำไรสุทธิอยู่ที่ 5.9 หมื่นล้านดอลลาร์ ลดลง 21% จากปีก่อน

ในปี 2564 เป็นช่วงเวลาของการแพร่ระบาด ทำให้ Alphabet มีผลกำไรที่เติบโตต่อเนื่องกันหลายไตรมาส แต่ในปี 2565 นั้นผลการดำเนินงานกลับสวนทาง ซึ่งบริษัทได้รับผลกระทบจาก ปัจจัยทางเศรษฐกิจมหภาค อัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นและอัตราเงินเฟ้อซึ่งกระตุ้นให้ผู้ลงโฆษณาควบคุมการใช้จ่าย

โดย YouTube เป็นส่วนที่นักการตลาดมีการถอนค่าใช้จ่ายมากที่สุด

นอกจากนี้ Alphabet เผชิญค่าใช้จ่ายด้านการบริหารที่เพิ่มสูงขึ้น พร้อมกับการถูกกดดันจากกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ในข้อหาการผูกขาดตลาดของ Google

สำหรับสัดส่วนรายได้ของ Alphabet อันดับหนึ่งมากจาก Google Services อยู่ที่ 6.78 หมื่นล้านดอลลาร์ อันดับสอง คือ Google Advertising อยู่ที่ 5.9 หมื่นล้านดอลลาร์ ตามมาด้วย Google Search 4.26 หมื่นล้านดอลลาร์ Google Network 8.4 พันล้านดอลลาร์ และ YouTube Advertising 7.96 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งที่ลดลง 8% จากปีก่อน ต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้

ทั้งนี้ในปี 2665 รายรับจาก Google Cloud ถือเป็นเพียงธุรกิจเดียวที่เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 32% อยู่ที่ 7.32 พันล้านดอลลาร์

ขณะที่รายรับส่วนอื่นๆ ได้แก่ หน่วยรถไร้คนขับ Waymo โครงการ HealthTech และการร่วมทุนกับบริษัทอื่น เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้ามาอยู่ที่ 226 ล้านดอลลาร์

นอกจากนี้ Alphabet ยังได้ประกาศถึงผลการดำเนินงานของ DeepMind ซึ่งบริษัทลูกที่พัฒนาวิจัยด้าน AI ว่าจะไม่ถูกรายงานรวมผลประกอบการของบริษัทในไตรมาสแรกปี 66 แต่จะถูกรายงานให้เป็นส่วนหนึ่งของต้นทุนองค์กร พร้อมทั้งเน้นย้ำถึงการให้ความสำคัญกับการพัฒนาระบบ AI และการทดลองภายในร่วมกับผลิตภัณฑ์ Search Engine ของบริษัทอย่างต่อเนื่อง หลังเผชิญความกดดันจาก ChatGPT ซึ่งเปิดตัวเมื่อปลายปีที่แล้วโดย OpenAI

สำหรับแผนงานในปี 2566 Alphabet จะดำเนินการปรับโครงสร้างด้านต้นทุน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในการลดค่าใช้จ่าย เพื่อสร้างความมั่นคงทางการเงินและการเติบโตทั่วทั้งกลุ่มบริษัท โดยเฉพาะการมุ่งเน้นไปที่ธุรกิจแพลตฟอร์มวิดีโอ YouTube ที่ล่าสุดเปิดตัว YouTube Shorts เพื่อแข่งขันกับ TikTok

Amazon ขาดทุนกว่า 2.7 พันล้านดอลลาร์

ผลการดำเนินงานปี 2565 ของ Amazon มีทิศทางที่ดีกว่าที่คาดการณ์ โดยมีรายได้รวมอยู่ที่ 5.1 แสนล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นเพียง 9% จากปีที่แล้ว

สัดส่วนรายได้ของ Amazon อันดับหนึ่งจากยอดขายอีคอมเมิร์ซ โดยมียอดขายในอเมริกาเหนืออยู่ที่ 3.1 แสนล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 13% จากปีที่แล้ว สำหรับธุรกิจคลาวด์หรือ Amazon Web Services (AWS) อยู่ที่ 80.1 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 29% จากปีที่ก่อนหน้า ทำกำไรมากที่สุดอยู่ที่ 22.8 พันล้านดอลลาร์

แต่มีผลขาดทุนสุทธิอยู่ที่ 2.7 พันล้านดอลลาร์ ส่วนหนึ่งเป็นผลขาดทุนจากการประเมินมูลค่าก่อนหักภาษี 2.3 พันล้านดอลลาร์จากการลงทุนที่ในบริษัทรถยนต์ไฟฟ้า Rivian Automotive, Inc., ซึ่งบริษัทถือหุ้นอยู่ 20% และได้ลงทุน 700 ล้านดอลลาร์ตั้งแต่ปี 2562 และการชะลอตัวของธุรกิจคลาวด์คอมพิวติ้งที่ดึงให้การเติบโตของยอดขายโดยรวมอยู่ในระดับที่ต่ำที่สุดในรอบหลายทศวรรษ

ถึงแม้ช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2565 Amazon จะสามารถทำรายได้เพิ่มจากโฆษณา การขยายบริการอื่นๆ และการเรียกเก็บผู้ขายในตลาดเพิ่มขึ้นถึง 20% แต่กระนั้นอัตราการเติบโตของรายได้ชะลอตัวติดต่อกัน สาเหตุจากความต้องการด้านดิจิทัลที่ลดลง ต่อเนื่องด้วยการปรับตัวสูงขึ้นของอัตราดอกเบี้ยและอัตราเงินเฟ้อซึ่งทำให้ผู้บริโภคควบคุมค่าใช้จ่ายมากขึ้น

ในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2565 Amazon ประสบปัญหาสูญเสียความเชื่อมั่นจากนักลงทุนและความพยายามคุมต้นทุนค่าใช้จ่ายในส่วนธุรกิจร้านค้าและระบบโลจิสติกส์ที่สูงขึ้นจากปัจจัยทางเศรษฐกิจ นำไปสู่จุดเริ่มต้นของการยุติโครงการและหยุดการขยายคลังสินค้า หยุดการจ้างงานในบางตำแหน่ง ที่นำไปสู่การเลิกจ้างพนักงานครั้งประวัติศาสตร์ของบริษัทและวงการเทคโนโลยี ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการแผนการลดต้นทุนเพื่อรับมือกับภาวะเศรษฐกิจที่เปลี่ยนแปลง

สำหรับแผนงานในปี 2566 Amazon มีแผนการพัฒนาประสบการณ์การซื้อขายของลูกค้าและปรับปรุงต้นทุนค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม สำหรับ ธุรกิจคลาวด์ AWS จะชะลอตัวลงอีก เนื่องจากลูกค้าระดับองค์รัดเข็มขัดมากขึ้นและมองหาตัวเลือกอื่นสำหรับการจัดเก็บข้อมูลที่มีต้นทุนต่ำกว่า โดยมีการคาดการณ์ถึงรายได้ในไตรมาสแรกปี 66 จะอยู่ที่ 12.1 พันล้านดอลลาร์ ถึง 12.6 พันล้านดอลลาร์ โดยระบุว่าการชะลอตัวของรายได้จะยังคงดำเนินต่อไปในช่วงสามเดือนแรกของปีนี้.

อ้างอิง bloomberg , amazon