“เจแอนด์ที เอ็กซ์เพรส” หนึ่งในผู้ให้บริการด้านโลจิสติกส์ชั้นนำระดับโลกที่ครอบคลุมกว่า 13 ประเทศ ประกาศฉลองครบรอบ 6 ปีของการดำเนินธุรกิจในประเทศไทย เผย สถิติยอดจัดการคำสั่งซื้อของเจแอนด์ที เอ็กซ์เพรสในประเทศไทยพุ่งสูงกว่า 150,000 ชิ้นต่อวัน อัตราการเติบโตของพัสดุมากกว่า 40% สองปีซ้อน พร้อมประกาศฉลองครบรอบ 6 ปีของการดำเนินธุรกิจในประเทศไทย รุกจับมือพันธมิตรใหม่ วัตสัน (Watsons), 7-Eleven เข้าถึงลูกค้าได้มากยิ่งขึ้น
ลิลลี่ เฉิน ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาดของ เจแอนด์ที เอ็กซ์เพรส ประเทศไทย กล่าวว่า เจแอนด์ทีมีอัตราการเติบโตของพัสดุมากกว่า 40% ต่อเนื่องเป็นเวลา 2 ปี โดยสามารถจัดการคำสั่งซื้อเฉลี่ย 150,000 ชิ้น/วัน และสามารถรับออเดอร์เข้ามาในโกดังได้ประมาณ 50,000 ออเดอร์ต่อวัน ไม่รวมกับช่วงที่มีแคมเปญอย่างวันที่ 11.11 หรือ 12.12 นั้นจะได้รับยอดสั่งซื้อเพิ่มมากขึ้นสองเท่า หรือราว 100,000 ออเดอร์ โดย J&T Fulfillment จะเป็นผู้จัดการกับคำสั่งซื้อเหล่านั้น
ในขณะที่ศูนย์บริการโลจิสติกส์ครบวงจรที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อย่าง ศูนย์คัดแยกสินค้าสมุทรปราการ (Southern Bangkok Sorting Center) ทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางโลจิสติกส์ที่ครอบคลุมทั้งการจัดเก็บสินค้า การขนส่ง การคัดแยก และการกระจายสินค้าด้วยเครื่องคัดแยกอัจฉริยะ ระบบ Dimension Weight and Scanning (DWS) ที่มีความรวดเร็วและแม่นยำกว่า 99% เพื่อให้สามารถรองรับพัสดุในประเทศได้มากกว่า 7 ล้านชิ้นต่อวัน
แม้ว่าพัสดุจะมีจำนวนมากในแต่ละวัน แต่ทางเจแอนด์ทีแก้ปัญหานั้นด้วยการจ้างพนักงานกว่า 200 คนเพื่อคอยแพ็คสินค้าลงในกล่อง ซึ่งการจัดการกับสินค้าของเหล่านี้จะแตกต่างจากส่วนคัดแยกสินค้าที่ใช้เทคโนโลยีเป็นหลัก เพราะส่วนใหญ่ในขั้นตอนการแพ็คจะใช้เป็นระบบ Manual มากกว่าการใช้หุ่นยนต์เนื่องจากสินค้าในคลังมีหลายรูปแบบ
นอกจากระบบโลจิสติกส์ที่มีคุณภาพและเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยแล้ว ระบบขนส่งของเจแอนด์ทีก็ยังมีความรวดเร็วและครอบคลุมทั่วประเทศไทยด้วยรถขนส่งสินค้าที่มีมากกว่า 1,500 คัน โดยทางองค์กรได้ให้ข้อมูลว่าเจแอนด์ทีนั้นเปิดให้นำสินค้าเข้าโกดังและจัดส่งไวภายใน 24 ชั่วโมง (ตัดรอบแต่ละวันตอน 16:00 น. หากเลยเวลาจะถูกนับให้เป็นรอบของอีกวันแทน)
กลยุทธ์การจัดการกับคำสั่งซื้อเหล่านี้ สะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพของเทคโนโลยี และการลงทุนด้านโลจิสติกส์ขั้นสูงเพื่อสร้างความร่วมมือกับแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซด้วยบริการจัดเก็บ - แพ็กสินค้าให้กับเหล่าธุรกิจ B2C และ B2B รวมไปถึงการบริหารระบบศูนย์คัดแยกที่ใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการจัดเก็บ ขนส่ง คัดแยก และการกระจายสินค้า หรือแม้แต่การจัดส่งพัสดุข้ามไปยังต่างประเทศก็สามารถทำได้
เจแอนด์ที เอ็กซ์เพรส ประเทศไทย เผยกลยุทธ์ปี 2568 ที่วางแผนจะมุ่งเน้นไปที่การขยายโอกาสและสร้างการเข้าถึงกับผู้บริโภคมากขึ้นด้วยการจับมือกับหลายแบรนด์ชั้นนำในประเทศเพื่อยกระดับประสิทธิภาพด้านโลจิสติกส์ขององค์กร ประกอบด้วย
วัตสัน (Watsons) เจแอนด์ทีได้รับหน้าที่ให้บริการรับ - ส่งพัสดุของวัตสันในรูปแบบการขายออนไลน์ รวมไปถึงบริการพิเศษในการจัดส่งพัสดุหลายกล่องในคำสั่งซื้อเดียวแก่วัตสัน เพื่อตอบสนองต่อความต้องการในการจัดส่งสินค้าที่หลากหลายและมีประสิทธิภาพ
ทั้งนี้ 7-Eleven เจแอนด์ทีจับมือกับ 7-Eleven ครอบคลุมกว่า 15,000 สาขาของ 7-Eleven ทั่วประเทศไทยในการเปิดจุดรับฝากพัสดุทั่วประเทศเพื่อความสะดวกสบาย และเข้าถึงได้ง่ายของผู้บริโภค รวมถึงผู้ประกอบการรายย่อย (กลุ่ม SME) โดยจะเปิดให้บริการในไตรมาสที่ 2 ของปีนี้
ก่อนหน้านี้เจแอนด์ทีได้ร่วมมือกับรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT ในการอำนวยความสะดวกให้เหล่าผู้บริโภคสามารถฝากพัสดุอย่างง่ายดายมากขึ้น โดยจะมีการตั้งจุดรับ - ส่งพัสดุในสถานีต่าง ๆ ของ MRT ให้กับลูกค้าที่ต้องการใช้บริการฝากพัสดุ จากการร่วมมือในครั้งนี้ทำให้เจแอนด์ทีกลายเป็นพันธมิตรเชิงกลยุทธ์เพียงหนึ่งเดียวในอุตสาหกรรมขนส่งด่วนของ MRT ดังนั้นในปีนี้เราอาจจะต้องจับตารอดูผลลัพธ์ของการร่วมมือครั้งใหม่ระหว่างเจแอนด์ทีและแบรนด์ใหญ่ทั้งสามเจ้าต่อไป
ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ -