คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล จับมือกับ IT One และ SAP ยกระดับระบบสารสนเทศครั้งใหญ่ สร้างประวัติศาสตร์เป็นโรงพยาบาลรัฐแห่งแรกในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกที่ใช้ RISE with SAP Private Cloud Edition แบบเต็มรูปแบบ มุ่งสู่การเป็นศูนย์กลางการแพทย์ระดับโลก
"โครงการพัฒนาระบบสารสนเทศ Siriraj EPR Project" ครอบคลุมการติดตั้งระบบสำคัญหลายส่วน ได้แก่ SAP S/4HANA สำหรับบริหารจัดการองค์กร ทั้งด้านการเงิน งบประมาณ ระบบจัดซื้อ คลังสินค้า และทรัพยากรบุคคล พร้อมติดตั้ง SAP Analytics Cloud (SAC) และ SAP Datasphere เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการข้อมูลและสนับสนุนการตัดสินใจของผู้บริหาร
โครงการแบ่งเป็น 2 ระยะ:
- ระยะแรก: ติดตั้งระบบ SAP S/4HANA เสร็จสมบูรณ์และเริ่มใช้งานแล้วเมื่อ 1 ตุลาคม 2567
- ระยะที่สอง: พัฒนาระบบวิเคราะห์ข้อมูลด้วย SAC เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการงบประมาณและสนับสนุนการตัดสินใจ คาดว่าจะแล้วเสร็จมีนาคม 2568
ศ. นพ.อภิชาติ อัศวมงคลกุล คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล กล่าวว่า "ศิริราชมุ่งมั่นสู่การเป็น Intelligent Enterprise ที่พร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีและความต้องการของผู้ป่วยในอนาคต โครงการนี้เป็นส่วนหนึ่งของแผนกลยุทธ์ด้านไอที '5 Key IT Strategic Pillars' เพื่อรองรับการขยายตัวของศิริราชทั้ง 4 วิทยาเขต ได้แก่ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ศูนย์การแพทย์กาญจนาภิเษก ศูนย์วิจัยคลินิก และศูนย์บริการสุขภาพผู้สูงอายุศิริราช-สมุทรสาคร"
1. สนับสนุนนวัตกรรมการวิจัยทางการแพทย์: ใช้ High Performance Computing และเครื่องมือดิจิทัลทันสมัย
2. พัฒนาการดูแลสุขภาพขั้นสูง: เพิ่มประสิทธิภาพการวินิจฉัยและรักษาด้วย AI และการแพทย์ทางไกล
3. สร้างโครงสร้างพื้นฐานไอทีระดับโลก: ปรับปรุงระบบด้วย Hybrid Cloud และ IoT
4. ยกระดับความปลอดภัยข้อมูล: ใช้ Zero-trust security และมาตรฐานสากล
5. พัฒนาศักยภาพบุคลากร: อบรมด้าน AI, Cloud Computing และ Cybersecurity
1. ลดงาน Manual เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของบุคลากร
2. เข้าถึงและเชื่อมโยงข้อมูลแบบเรียลไทม์ เพิ่มความแม่นยำในการตัดสินใจ
3. ทำงานยืดหยุ่นขึ้น เข้าถึงระบบได้จากทุกที่
ด้านกุลวิภา ปิยวัฒนเมธา กรรมการผู้จัดการประจำภูมิภาคอินโดจีน SAP กล่าวว่า "การใช้ RISE with SAP S/4HANA Cloud ของโรงพยาบาลศิริราชถือเป็นก้าวสำคัญในการพัฒนาระบบสาธารณสุขของไทย และสนับสนุนการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลในวงกว้าง เสริมความแข็งแกร่งให้ประเทศไทยในฐานะผู้นำด้านการแพทย์ระดับภูมิภาค"
ขณะที่ปฐมา จันทรักษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ Accenture (Thailand) เผยว่า IT One ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่าง Accenture และ SCG ได้ร่วมงานกับศิริราชมากว่า 23 ปี โดยเริ่มนำ SAP มาใช้ตั้งแต่ปี 2545 และครั้งนี้เป็นการยกระดับครั้งสำคัญด้วยการย้ายระบบจาก On Premise สู่ Cloud นอกจากนี้ยังพัฒนาระบบบริหารจัดการโรงพยาบาล (HIS) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการดูแลผู้ป่วยตามมาตรฐานสากล รองรับการเป็น Medical Hub ระดับภูมิภาค
การพัฒนาครั้งนี้เกิดจากความร่วมมือของทีมงานกว่า 300-400 คน จากศิริราชและ IT One นับเป็นก้าวสำคัญที่จะช่วยยกระดับมาตรฐานการให้บริการทางการแพทย์ของไทยสู่ระดับสากล และตอบสนองความต้องการของระบบสาธารณสุขในยุคปัจจุบัน